Friday, March 29, 2024
More
    Homeบทความทั่วไปตอน12 :: ปั้นลูก(ตร.) เป็นนักหวด - พ่อแม่อย่ากดดันลูก

    ตอน12 :: ปั้นลูก(ตร.) เป็นนักหวด – พ่อแม่อย่ากดดันลูก

    ตอนที่ 12 พ่อแม่อย่ากดดันลูก

    ช่วงที่ลูกชายตระเวนแข่งขันตั้งแต่รุ่นจิ๋ว มีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้ผมฉุกคิด และนำมาวิเคราะห์เพ่ือปรับตัวเองในฐานะผู้ปกครองนักกีฬา แม้จะยังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ค่อยๆปรับไปเร่ือยๆ จากเม่ือก่อนเราเคยรู้สึกหงุดหงิดเวลาลูกเล่นไม่ดี ตีลูกง่ายๆติดเน็ตหรือออกเส้นข้างเส้นหลัง ผมจะทำตัวไม่ต่างกับเหมือนคนเป็นโค้ชเสียเอง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความรู้อะไรเลย แต่กลับทำเป็นพหูสูต และผมเช่ือว่าผู้ปกครองหลายคนก็เป็นเหมือนกับผม

    โดยเฉพาะเวลาลูกลงแข่ง หากเขาเล่นไม่ดี หรือแพ้ออกมาแบบไม่น่าแพ้ ลูกจะถูกคอมเม้นต์ทันที หนักเข้าถึงขนาดยืนบอกกันข้างสนาม ซึ่งความจริงแล้วเป็นส่ิงที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างย่ิงและไม่แนะนำให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะส่ิงที่เราพูดเราตะโกนออกไปจะกลายเป็นความกดดันให้กับลูกทันที

    มีหลายแมตช์ที่ลูกเล่นชนะ แต่ฟอร์มไม่สบอารมณ์พ่อ พอออกจากสนามก็ไปพูดโน่นพูดนั้นวิจารณ์เกมส์จนนำไปสู่บรรยากาศตึงเครียด แต่นับว่าผมโชคดีที่มีลูกเป็นเด็กมีวินัย ถึงแม้เขาจะอึดอัดแค่ไหนก็ไม่เคยแสดงอาการใดๆ ที่ดูเป็นเด็กก้าวร้าว ตรงกันข้ามลูกจะนำความรู้สึกทุกอย่างไปเล่าให้แม่ ซึ่งเปรียบเสมือนคนกลาง แล้วนำมาถ่ายทอดต่อให้ผมฟัง บอกย้ำให้ผมปรับตัวปรับใจให้ได้ ถ้าไม่อยากเห็นลูกเลิกเล่นเทนนิสในอนาคต

    ด้วยความที่ลูกฝังใจเวลาผมยืนดูอยู่ริมสนาม ทำให้เกมส์การเล่นไม่เป็นธรรมชาติ บางครั้งผมถูกแฟนไล่ให้ไปดูไกลๆ เพราะไม่อยากให้ลูกกดดัน ทั้งที่แมตช์นั้นผมไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นั่งเฉยๆ แต่แฟนบอกว่าเพราะผมทำจนชิน แค่ลูกเห็นหน้ามันก็เครียดแล้ว โดยเฉพาะถ้าแมตช์ไหนเกมส์คู่คี่สูสีลูกจะเล่นไม่ออกเลย

    และทุกแมตช์ที่ผมถอยห่าง ลูกจะกลับมาเล่นดีพลิกสถานการณ์ได้แทบทุกครั้ง แพ้เซ็ตแรกก็กลับมาชนะเช็ตสองและสาม แต่แมตช์ไหนที่ผมด้ือแพ้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ บ่อยๆเข้าก็ทำให้ผมรู้สึกว่าเราต้องทำให้ลูกเช่ือใจก่อน จากที่เคยดูริมสนามก็ค่อยๆ ถอยห่างระยะพอประมาณที่ทำให้ลูกเห็นแล้วไม่หงุดหงิด ที่สำคัญใจต้องน่ิงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อให้เขาเล่นห่วยแค่ไหน จบแล้วค่อยมาคุยกัน

    พอพฤติกรรมพ่อเร่ิมเปลี่ยน ลูกก็ไม่ต่อต้านและเป็นฝ่ายบอกให้เรากลับไปเชียร์ข้างสนามด้วยตัวเอง ทำให้บรรยากาศที่เคยตึงเครียดแทบหายไปหมดส้ิน แม้ผลการแข่งขันลูกจะพ่ายแพ้ก็ตาม ตรงกันข้ามย่ิงเป็นฝ่ายปราชัย

    พ่อแม่ต้องให้กำลังใจ ไม่ใช่ไปซ้ำเติม หรือใช้อารมณ์ แต่กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ก็เฉียดเส้นยาแดงผ่าแปดเหมือนกัน เพราะลูกเกือบจะเลิกเล่นไปหลายรอบ

     ทุกวันนี้เวลาผมเห็นผู้ปกครองนักเทนนิสตัวน้อยๆบางท่าน เดินหนีออกจากสนามเวลาลูกแพ้ หรือบางท่านลงโทษลูกด้วยวิธีต่างๆนานา ทำให้ย้อนนึกถึงตัวเอง ถึงแม้ผมจะไม่เคยทำถึงขนาดนั้น แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันดีหรือไม่ดี

    เพราะผมเช่ือว่าพ่อแม่ทุกคนรักและหวังดีกับลูกกันทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับขอบเขตและพ้ืนฐานการเลี้ยงดูอย่างดีของแต่ละครอบครัว แต่ก็อย่าให้มากจนเกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นความกดดันให้กับลูก

     

    ——————————————— เดอะวินเนอร์

     

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments