Thursday, April 18, 2024
More
    Homeท่องปทุมวันตะลุยเชียงใหม่ เปิดใจ รรท.ผบช.ภ.5 เจ้าของรหัสอินทนนท์ 1

    ตะลุยเชียงใหม่ เปิดใจ รรท.ผบช.ภ.5 เจ้าของรหัสอินทนนท์ 1

    15665971_1818315285047692_8094214759320807122_n
    สนับสนุนเรื่องราวดีดี
    image-647
    สนับสนุนเรื่องราวดีดี

    ชีวิตคือการเดินทาง วันนี้ กากีกลาย บินไกลไปถึงเชียงใหม่ เลยโฉบไปแวะคุยกับ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 เจ้าของรหัสอินทนนท์ 1 เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว มาฟังประวัติเส้นทางชีวิตและแนวคิดการทำงานจากมันสมองนายพลคนนี้กันเลยครับ 

    อยากเป็นตำรวจเพราะได้ช่วยคน

    ผมเกิดที อ.ลอง จ.แพร่ ครอบครัวที่บ้านค้าขาย มีพี่น้อง 5-6 คนไม่มีใครรับราชการเลย สมัยเด็กๆอาจเพราะอยู่บ้านนอก เห็นตำรวจ ชอบนะคืออาชีพตำรวจ ถ้าคิดจะช่วยคน เราช่วยได้เยอะ อย่างทุกวัน เราทำเรื่องยาเสพติด เรื่องอาชญากรรม ก็ได้ช่วยสังคม ช่วยชาวบ้านที่เขาเดือดร้อน ถามว่าบ้านหนึ่ง ถ้าลูกติดยา เหมือนนรกลงกลางบ้าน เมื่อก่อนไม่ใช่จุดนี้ แต่เราบอกว่าได้ช่วยชาวบ้านเพราะเราเป็นตำรวจสามารถไปดูแลให้ความปลอดภัยเขาได้ ใครถูกรังแกเราช่วยได้ ประกอบกับตอนเด็กๆ บ้านผมถูกปล้นด้วยปล้นไม่พอ มันยังทำร้ายพ่ออีก มันเหิมเกริมไป ฝังใจตรงนี้ ส่วนชีวิตวัยเรียนจบจากโรงเรียนเมธังกราวาส โรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนดีเด่นของประเทศ ได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศมาตลอด แล้วก็เข้ากรุงเทพฯ ไปเรียนที่วัดประดู่ฯ ปีหนึ่ง โรงเรียนสำรองที่เลือกไว้เพราะสอบเข้าสวนกุหลาบไม่ได้

    สละสิทธิ์เตรียมอุดม เข้าเตรียมทหาร

    พออยู่มาได้ปี ก็มาเข้าโรงเรียนวัดมกุฎฯ 2 ปี มาอยู่ฝั่งนี่มันได้เรียนมากขึ้น มันมีที่กวดวิชา อะไรอย่างนี้ แล้วก็ไปสอบเข้าเตรียมทหารเลย จบมศ.3 คือเราเด็กต่างจังหวัด มาอยู่หอพักคนเดียว มันเหงา ผมสอบเตรียมอุดมก็ได้ สอบเตรียมทหาร ก็ได้ ได้ 2 ที่ ผมสละสิทธิ์เตรียมอุดม มาเข้าเตรียมทหาร ยังมานั่งนึก ถ้าเข้าเตรียมอุดม ก็มาอยู่หอคนเดียวมันเหงา จริงๆใจก็อยากเป็นหมอส่วนหนึ่ง แต่ทีนี้ชีวิตช่วงนั้นอยู่คนเดียวมันเหงา ต้องเช่าหออยู่ ไปเตรียมทหาร มีเพื่อนเยอะไง ก็เลยเอาเตรียมทหาร ดีกว่า ผมสอบออก มศ.3 ได้ 87% แล้วพอสอบเข้าเตรียมทหาร ได้ที่ 12 สมัยนั้นสอบเป็นหมื่นนะ เป็นหัวหน้าตอน 12 ศรีวราห์ หัวหน้าตอน 10

    img_0587

    ผงาด ผกก.สน.บางรัก ด้วยวัย 37

    จบมาก็ไปอยู่โรงพักสำเหร่ จบปี 2525 แล้วก็มาอยู่ บช.น.แผนกแผนไปเรียนเมืองนอก 2 ปี ที่อเมริกา ไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านบริหารราชการพับบลิค แล้วกลับมาอยู่ บช.น.พักหนึ่ง แล้วลงชนะสงคราม เป็น รอง สวป. 2ปี แล้วก็มาเป็น รองสารวัตรสืบ อีก 2 ปี ขึ้นสารวัตรสอบสวนที่บ้านโป่ง ย้ายมาสำโรงใต้ ที่ละปี แล้วย้อนกลับมานครบาล เป็นสารวัตรสืบบางนา เป็นสารวัตรจราจรพระโขนง เป็น รอง ผกก.ป.ที่ดอนเมือง ย้ายมาเป็น รองป.นางเลิ้ง ไปเป็น รอง ป.บางรัก แล้วขึ้นเป็น ผกก.บางรัก น่าจะประมาณปี2540 ตอนนั้นผมอายุ 37-38 ปี แล้วเป็น ผกก.นางเลิ้ง ขึ้น รองผู้การที่ส่วนสืบสวนจเร อยู่ปีกว่า ย้ายกลับมาเป็นรองผู้การ 5 มาเป็นรองผู้การ 191 ตอนท่านจักรทิพย์ เป็นผู้บังคับการ คืออยู่กับพี่วิมล เปาอินทร์ ก่อน แล้วพอพี่วิมลไป ท่านจักรทิพย์ ก็มา 191 ตอนอยู่รองผู้การ 5 นี่ พี่โก๋ โกสินทร์ หินเธาว์ เป็นผู้การ 5 จากนั้นได้ขึ้นผู้การประจำ ปี 2550 แล้วไปเป็นผู้การอำนาจเจริญ 1ปีผู้การสระแก้ว 1ปี ผู้การ ปคบ.1ปี ได้อาวุโสสูงสุดใน บช.ก. เลยได้ขึ้นรองผบช.ไปอยู่ภาค 7 อีก 4 ปี แล้วอยู่นครบาลปีหนึ่ง แล้วมาเป็น รรท.ผบช.ภ.5

    นำส่วนดีของนายแต่ละคนมาใช้

    ถามว่าเป็นตำรวจ มีไอดอลมั้ย อินทนนท์1 บอกว่า ผมก็เอาส่วนดีของผู้บังคับบัญชาทุกคนมาใช้ แต่ไอดอลนี่ไม่มี เป็นคนที่คิดเองทำเองหมด จะศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเอง ผมก็ชอบทุกคน แต่ละส่วนที่ดี คนหนึ่งมีดีอย่างนี้ คนนี้มีดีอย่างนี้ อย่างท่านวรรณรัตน์ ผมก็ชอบนะ เพราะท่านขยัน เก่งจี้คดีตลอด ผมว่าส่วนหนึ่งผมก็ได้มาจากท่านเหมือนกัน ผมเป็น ผกก.ตอนนั้นท่านเป็นผบช.น.ทุกคนกลัว แต่ผมชอบ มันทำให้เราทำงานง่าย มีอะไรบอก น.1 สั่งมา ทุกคนก็รีบทำหมด ไม่ต้องไปอธิบายมาก แล้วเวลาท่านมาตรวจ ผมก็ต้องอยู่ทุกที เพราะผมต้องระวังไง มันก็ทำให้งานมันเวิร์ก แต่ผมก็ถือแบบอธิบดีแสวง คือทำงานให้สนุก สนุกกับการทำงาน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าไม่ทำงานสิ เหงา แล้วก็การสร้างคุณค่าให้ตัวเอง ผมว่ามันอยู่ที่งานนะ ถ้าเราไม่ทำงานนี่ เราอายเขา อายตัวเองด้วย นี่คือความคิดที่อยู่กับตัวเรา ไม่ได้มีใครเป็นแบบ

    img_0583

    ภาค 5 เป็นงานที่ท้าทาย

    พูดถึงการมาทำงานที่ภาค 5 พล.ต.ต.พูลทรัพย์บอกว่า มีงานให้ทำเยอะดี ท้าทายดี ภาค 5 เชียงใหม่ นี่ถือเป็นกรุงเทพฯเล็กๆ มีทุกสิ่งทุกอย่างที่กรุงเทพฯมี ปัญหาอะไรต่างๆ เยอะพอสมควร การทำอะไรต้องไว ต้องแก้ปัญหาให้ไว เพราะว่าเป็นเมืองที่เจริญ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่จะต้องดูแลให้ดีรวมไปถึง จ.เชียงราย ด้วย จ.น่าน และ แม่ฮ่องสอน รวมแล้ว 8 จังหวัด เป็นจังหวัดท่องเที่ยวหมด ฉะนั้นนโยบายที่เน้นคือมาตรการการดูแลนักท่องเที่ยว นโยบายในเรื่องยาเสพติดก็ต้องเข้ม ในเรื่องของการสกัดกั้นยาเสพติดที่จะเข้าสู่พื้นที่ตอนใน อีกเรื่องคือ ผมเน้นเรื่อง การแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน หมู่บ้าน ตำบล เพื่อที่จะให้ลดน้อยถอยลงให้มากที่สุด เพราะเป็นห่วงลูกหลานคนไทย เพราะฉะนั้นเน้นให้จับ จับแล้วขยายผลไปยังผู้ที่ค้าในพื้นที่ ถ้าขยายได้ก็ขยายไปสู่ผู้ค้ารายกลาง รายใหญ่ แล้วให้ใช้มาตรการยึดทรัพย์ กับผู้ที่สนับสนุน สมคบให้ได้ อันนี้ก็ต้องมาหาทางที่จะให้ความรู้ แล้วฝึกฝนบุคลากรให้มีความรู้ให้มากยิ่งขึ้น

    คุยกับแม่ทัพตำรวจภาคเหนือตอนบน ยังไม่จุใจ พรุ่งนี้ขอต่ออีกตอนครับ
    กากีกลาย26/12/59

    img_0582

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments