“ผบ.ตร.”วางขุมกำลัง
ส่ง “นรต.36”ลงเก้าอี้สำคัญ
มติจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่ผ่านฉลุยให้แต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจทั้งใหญ่และเล็ก จำนวน 321 ราย โดยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่งเป็นประธานหัวโต๊ะประชุม ผ่านเรียบร้อยแล้ว
การแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพล” ครั้งนี้ ถือว่า “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (นรต.36) วางขุมกำลังระดับไว้อย่างแยบคาย โดยครั้งนี้ถือว่าเมื่อรับตั๋วมาแล้วก็เคาะและกรองเต็มตัวไปเลย ไม่ต้องเกรงใจเช่นงวดที่ผ่านมา ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. (นรต.31) เป็นผู้ส่งไม้ต่อ โดยสาย “วงษ์สุวรรณ” ยังคงได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องเช่นครั้งที่ผ่านมา
จับตาตำแหน่งสำคัญใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ วางกำลัง ครั้งนี้ “บิ๊กใหม่” พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. มือสืบสวนฝีมือดี คลุกคลีพื้นที่ภาคใต้มายาวนาน ได้ติดยศ “พล.ต.อ.” เป็นที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่งนอกจากเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.36 ของ “บิ๊กแป๊ะ”แล้ว “บิ๊กใหม่”ยังนำรุ่นที่สุดในขบวนได้ขึ้น “พล.ต.อ.” ก่อนเพื่อนคนอื่นๆ แม้ที่ผ่านมาจะเคยผิดหวัง ตอนที่ขึ้นผู้บัญชาการ แต่ไม่ได้เป็น “ผบช.ศชต.” ทั้งที่ทำงานในพื้นที่มาตลอดก็ตาม
อีกรายที่ได้ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. คือ “บิ๊กช้าง” พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 สายตรง “วงษ์สุวรรณ” ที่งวดนี้ได้ผงาดขึ้นมาอีกระดับ เพื่อรอประดับยศ “พล.ต.อ.”ในอนาคต ส่วนอีกคนที่ขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว คือ “บิ๊กดริ๊งค์” พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ขยับขึ้นชั้นตั้งแต่ปีก่อน รายนี้นิ่งๆแต่ไม่ธรรมดาเป็นนายตำรวจที่สนิทสนมกับสายทหารเป็นอย่างยิ่ง
หันมาระดับ “ผู้บัญชาการ” (ผบช.) กระแสข่าวก่อนหน้านี้ “บิ๊กหยม” พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7 มีชื่อลุ้นขั้วตำแหน่ง “น.1”มานานหลายเดือน เพราะได้แรงหนุนจาก “บิ๊กแป๊ะ” แต่สุดท้าย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. (นรต.34) ก็รักษาเก้าอี้ไว้ได้ เพราะยังได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรี ทำให้ “บิ๊กหยม” ต้องขยับมาคุมพื้นที่ปริมณฑล เป็น ผบช.ภ.1 คุมพื้นที่ปริฒณฑ,ด้านเหนือ แทน “บิ๊กช้าง”ที่ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ก่อนหน้านี้ ซึ่งสำหรับ “บิ๊กหยม” แม้เป็น นรต.35 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. แต่มาศึกษาจบ นรต.36 ทำให้มีเพื่อนทั้ง 2 รุ่น และ2 รุ่นนี้กำลังผงาดใน ตร.ขณะนี้
อีกรายที่ไม่ธรรมดา “บิ๊กบัว” พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 เพื่อนสนิท “บิ๊กแป๊ะ” ขึ้นชั้นเป็น ผบช.ภ.7 เต็มตัว ดูแลพื้นที่ปริมณฑลด้านใต้ และจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่นเดียวกับ “บิ๊กปั๊ต” พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. ที่ขึ้นชั้นเป็น ผบช.ส. คุมงานด้านการข่าว และผนึกกำลังกับ “บิ๊กแหม๋ว” พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.ภ.1 ที่ขึ้น ผบช.ศชต. มือสืบสวนฝีมือดีที่ได้ลงไปทำงานดับไฟใต้ พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบช.ภ.2 ทำหน้าที่สำคัญขึ้น ผบช.สพฐ. ถือว่าวางกำลังไว้ครอบคลุมหลายพื้นที่ ไม่นับตำแหน่ง รองผบช. และ ผบก.ที่ล้วนแต่เป็นพื้นที่สำคัญ
ส่วนตำแหน่งอื่นๆที่น่าสนใจ นรต.34 ที่มี “บิ๊กหมู” พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ยังคุมพื้นที่สำคัญ และหน่วยกำลังสำคัญไว้ได้ ส่วน นรต.35 “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ว่ากันว่าจะเป็นแคนดิเดต “ว่าที่ ผบ.ตร.”คนต่อไปนั้น ก็มีเพื่อนร่วมรุ่นได้ตัวเลขในครั้งนี้เช่นกัน คือ พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. รักษาราชการ ผบช.ภ.9 ได้ลงพื้นที่เกรดเอ คุมภาคตะวันออก เป็น ผบช.ภ.2 ขณะที่ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.น. ที่ขึ้น ผบช.ภ.5 คุมพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งทั้ง 2 รายแน่นปึ้กสายทหาร
เห็นได้ชัดว่า ตำแหน่งสำคัญๆ ใน ตร. ยังวนเวียนที่ นรต.34-35 และ 36 ส่วน นรต.37 ที่น่าจับตามี พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา รรท.ที่ปรึกษา (สบ.10) และพล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. ที่ถือว่าโดดเด่น
ส่วนอีกรุ่นที่ต้องจับตาและน่าจะมาแทนที่ นรต.36 ในอนาคต คือ นรต.38 ที่นำรุ่นโดย พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย รรท ผบช.นรต. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.สทส. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รรท.รอง ผบช.น. ที่ว่ากันว่ามาแรง และเป็นอนาคตของผู้นำหน่วยเจ้ากรมปทุมวันเป็นรุ่นต่อไป …
