Friday, March 29, 2024
More
    Homeปีนรั้วโรงเรียนนายร้อย กับ อาจารย์อิ๊ก"ปกป้อง" นายตำรวจของพระราชา "โรงเรียนผมสอนมาให้เสียสละเพื่อประชาชน"

    "ปกป้อง" นายตำรวจของพระราชา "โรงเรียนผมสอนมาให้เสียสละเพื่อประชาชน"

    image

     

    image

    ผมเป็นตำรวจของพระราชา จะต้องดูแลประชาชนที่พระราชารักให้ดีที่สุด พ่อยังอยู่กับเราทุกที่ ทั้งในเหรียญ ทั้งในธนบัตร ทั้งในพระบรมฉายาลักษณ์ ในใจของคนไทยทุกคนทั่วโลกตลอดไป

    ว่าที่ ร.ต.ท.ก่อเกียรติ เกียรติตั้ง  นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ ๕๓ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ ๖๙ ตำแหน่งปัจจุบัน รอง สารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองนนทบุรี

    “ผมรู้ว่าผมอยากยืนข้างชาวบ้านที่ทุกข์ร้อน และอาชีพตำรวจคือสิ่งที่ผมคิดว่าใกล้ชิดกับคนมากที่สุด”

    ในวัยเด็ก คุณครูมักถามเราเสมอว่า “โตขึ้นมาอยากเป็นอะไร” ในตอนนั้นผมจำความได้ว่า ผมตอบคุณครูว่า ผมอยากเป็นนักท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวมีความสุข และได้เดินทางทั่วโลก ซึ่งเมื่อลองนึกย้อนกลับไปแล้วมันก็น่าขำ ที่เราเคยมีคำตอบแบบเด็กๆอย่างนั้น แต่เมื่อผมเติบโตขึ้น ความฝันในวัยเด็กของผมก็เปลี่ยนไป คงเป็นเพราะได้เห็นโลกใบนี้มากขึ้น ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆในสังคม ผ่านทัศนคติและมุมมองของผมเอง ผมเริ่มรู้ตัวเองว่า ผมอยากเป็นอะไรก็ได้ที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ได้ปกป้องดูแลคนที่โดนรังแก คนอ่อนแอกว่า

    image

    ตอนเด็กเมื่อเพื่อนผมโดนคนที่โตกว่ารังแก ผมทนไม่ได้และรู้สึกทุกครั้งที่คนที่อ่อนแอกว่าโดนคนที่โตกว่าเอาเปรียบ เมื่อคำตอบที่ผมได้ตอนผมเรียนอยู่ชั้น ม.๑ ก็คือ ผมอยากเป็น “ตำรวจ” แม้ว่าอาจมีแรงเสริมเพราะได้ซึมซับแบบอย่างจากคุณพ่อซึ่งเป็นตำรวจ ซึ่งผมเฝ้ามองและเห็นมาตลอดว่า พ่อไม่เคยได้หยุดในวันเทศกาล วันรื่นเริง พ่อต้องไปสถานีเพื่อรอรับแจ้งเหตุ แต่ด.ช.ก่อเกียรติคนนี้ก็ซึมซับได้ว่า อาชีพนี้คือสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝัน

    “โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สอนให้ทุกคนเสียสละ”

    เมื่อผมรู้เป้าหมายแน่นอนแล้วว่า ความฝันของผมคืออะไร ผมก็มุ่งมั่น ทุ่มเท ไปเรียนพิเศษเพิ่มเติมเพื่อจะสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารในส่วนของเหล่าตำรวจโดยตรง ด้วยความทะเยอทะยานของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่จะทำความฝันให้เป็นจริง ทำให้ผมสอบติดตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ครั้งแรก(ม.๓) ตอนสอบติดเหมือนประสบความสำเร็จที่สุดแล้ว เพราะจะต้องจบออกมาเป็นนายตำรวจแน่นอน แต่ที่จริงแล้วมันคือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่เปลี่ยนจากเด็กชายคนหนึ่ง ให้กลายเป็นนายตำรวจที่ต้องพร้อมเสียสละ มีความรู้ความสามารถ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ เพราะ “ตำรวจ” คือผู้พิทักษ์รักษากฎหมาย รับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

    image image
    “ อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก สิ่งที่นักเรียนนายร้อยต้องท่องทุกเช้า”

    เมื่อเหนื่อยหรือท้อ ผมมักพูดกับตัวเองเสมอว่า “อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก” ความนี้ เป็นความที่อยู่ในอุดมคติตำรวจเก้าประการ ซึ่งนักเรียนนายร้อยตำรวจทุกคนจะต้องกล่าวทุกเช้า มันย้ำเตือนผมเสมอว่าเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่

    อย่ากระทำกับผู้อื่น ในสิ่งที่ตนไม่ต้องการ”

    ผมยึดถือคำคำนี้มาตลอด นั่นหมายความถึงการคิดถึงใจเขาใจเรา หากเราไม่ต้องการหรือไม่ชอบสิ่งไหน เมื่อเราเติบโตหรือมีอำนาจแก้ไข
    ก็จงอย่าไปกระทำกับคนอื่นเสียเอง ผมอยากจะชอบคุณโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยตำรวจที่หล่อหลอมให้ผมมี จิตวิญญาณ อุดมการณ์ และยึดมั่นในคุณธรรม เพื่อดำรงความยุติธรรม

    image image

    นักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รวมกลุ่มทำความดีเพื่อพ่อหลวง “

    จากการที่นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที ๖๙ รวมตัวกันเพื่อมาร่วมแจกน้ำดื่มและริบบิ้น ให้ประชาชนที่มาถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในตอนแรกนั้นพวกเราพูดคุยกันในกลุ่มไลน์รุ่น ว่าอยากที่จะทำกิจกรรมดีๆเพื่อประชาชนและถวายพ่อหลวงของเรา ทางรุ่นจึงได้ปรึกษาและเรี่ยไรเงินตามกำลังทรัพย์รวมทั้งสิ้นเกือบหนึ่งแสนบาท

    ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียงหนึ่งคืนเท่านั้นที่คิดว่าจะทำกิจกรรมนี้ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงนัดมารวมตัวกันที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจและจัดเตรียมน้ำดื่มจำพวก ชาเย็น กาแฟ น้ำหวานต่างๆ กว่า ๔,๐๐๐ แก้ว โดยทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้สนับสนุนรถบัส เพื่อมาส่งที่บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง เราทุกคนช่วยกันตั้งด่านแจกน้ำใจจากครอบครัวตำรวจ โดยนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น ๖๙

    ระหว่างนั่งรถบัสมาจากโรงเรียน พวกเราน้ำตาไหลกันทุกคนและระลึกถึงคุณความดีของพ่อหลวงมาตลอดทาง

    ผมหันกลับไปมอง เพื่อนนักเรียนตำรวจ ที่เดินทางมาด้วยกัน ทุกคนมองออกไปนอกหน้าต่าง หลายคนร้องไห้ และหลายคนน้ำตาซึม เราทุกคนเห็นพ้องต้องการว่าหากเทียบกับสิ่งพวกเราทำทั้งชีวิตนั้นก็ยังไม่ได้เศษเสี้ยวหนึ่งของที่พ่อหลวงได้ทำ และถึงแม้ว่าพวกเราเกิดมาไม่ทันในช่วงที่พระองค์ท่านทรงงานเพื่อลูกๆของพระองค์อย่างหนัก แต่โครงการพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และพระดำรัส ที่พ่อหลวงได้มีนั้น ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาพ่อของเรา ไม่เคยหยุดพัก ต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก และนั่นเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนใจผมเสมอว่า “ ผมเป็นตำรวจของพระราชา จะต้องดูแลประชาชนที่พระราชารัก ให้ดีที่สุดครับ”

    image image image image image image image

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments