ทันทีที่พบศพนางนิโคล ซอเวน ไวซคอฟ อายุ 57 ปี แหม่มสาวนักท่องเที่ยวชาวสวิสเซอร์แลนด์ ในโครงการแซนด์บ็อกซ์
ถูกฆ่าตายบนน้ำตกโตนอ่าวยน หมู่ที่ 8 ต.วิชิตอ.เมือง.ภูเก็ต
ในสภาพเปลือยท่อนล่างมีผ้าพลาสติก คลุมศพและใช้ก้อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้ผู้ใดพบเห็น
กลายเป็นข่าวดังทั่วโลก
รัฐบาลอยู่ไม่ติด ถึงแม้สถานการณ์ม็อบจะคุกรุ่นติดพันอยู่ใจกลางกรุงท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด19
ส่ง“บิ๊กปั๊ด”พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.นักสืบมาดนุ่ม ยกทัพนักสืบสีกากีจากส่วนกลาง
มี รองก้อง-พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. นำทีมสืบสวนจากกองปราบฯและพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7
ลงไปสมทบกับนักสืบภาค8 นำโดย“พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รองผบช.ภ.8และบิ๊กชัด-พล.ต.ต.นภัณฑ์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้การสืบภาค8คลี่คดี
นอกจากนี้ ยังมีนักสืบเก่าวัยเกษียณฯหลายคนโทรมาถามให้กำลังใจและให้คำแนะผู้การชัด –ผู้การสืบภาค8 นายตำรวจรุ่นน้องที่ถ่ายทอดวิชาสืบสวนจากรุ่นสู่รุ่น
อาทิ บิ๊กนัย–พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผบ.ตร.
บิ๊กต้อย–พล.ต.ท.พิสิฎฐ์ พิสุทธิศักดิ์ อดีตผู้ช่วยผบ.ตร.
บิ๊กเม่น–พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตรองผบ.ตร.
เดอะโก๊ะ–พ.ต.อ.สมภพ พงษ์ฤกษ์ อดีตรองผบก.สส.ภาค7
หรือแม้แต่บิ๊กหมู– พลเอกฐิติราช หนองหารพิทักษ์ อดีตผบช.ก.
อดีตหัวหน้าซักถามคดีไอ้เก่ง ฆ่าน้องแก้มบนรถไฟสมัยเป็นรองผบช.น.ก็โทรมาให้คำแนะนำตามคัมภีร์สืบสวน
เล่มที่1 ที่เกิดเหตุ–สายข่าว(ตำรวจโบราณ)
เล่มที่2-ซักถามผู้ต้องสงสัย–ผู้ต้องหา
เล่มที่3นิติวิทยาศาสตร์ พิสูจน์หลักฐาน– เทคโนโลยี่ต่างๆ
รวมๆทั้งหมดสรุปว่า ให้หาพยานหลักฐานให้ดี คนร้ายมันอยู่แถวนั้นแหละ.
ขณะเดียวกันการสืบสวนตามสไตล์“บิ๊กปั๊ด” ที่ใช้กล้องวงจรปิดเป็นหมัดเด็ดในการแกะรอยจับโจรแบบไม่ต้องเถียง
สกรีนรถจยย.ที่ขี่ขึ้นไปบนน้ำตกที่เกิดเหตุในวันที่แหม่มคนตายหายตัว มีทั้งหมด34คัน
แต่มีอยู่8คัน ที่ขึ้นไปบนน้ำตกในช่วงเวลาใกล้เคียงที่ผู้ตายเดินขึ้นไปบนน้ำตก
ชุดทำงานแบ่งหน้าที่กันตามตัว คนขี่จยย.ทั้ง8คนที่ตกเป็นเป้าสงสัย สืบภาค8รับไป3คัน กองปราบฯ3คัน สืบจังหวัดภูเก็ต2คัน
ทีมกองปราบฯอีกส่วนขึ้นไปหาคนงานตามแคมป์ที่อยู่ใกล้ๆ
ทีมงานพล.ต.ต.นพศิลป์ ผู้การสืบภาค7 ตามหากลุ่มเกย์ ที่ชอบขึ้นไปมีกิจกรรมในที่ลับตา
เน้นหาคนที่มีแผลใหม่แผลสดตามร่างกาย
ท่ามกลางการติดตามคดีจากคนทั้งประเทศ ที่จะให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
เพราะโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นโครงการนำร่องกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศในสถานการณ์โควิด
แจ็กพ็อตแตกอย่างรวดเร็ว เมื่อ พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ รองผบก.สส.ภ.8 รักษาการ ผกก.สืบสวน ภูเก็ต
ไปคว้าตัวนาย ธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ หรือบังหลี อายุ 27 ปี
1ใน8 เป้าหมายที่ขี่จยย.ขึ้นไปบนน้ำตกและปรากฎอยู่ในกล้องวงจรปิด
เอาตัวมาให้พล.ต.ต.นภัณฑ์วุฒิ ที่ร้านกาแฟ ทางขึ้นน้ำตกขณะนั่งรอรับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ และคณะ ที่ขึ้นไปตรวจที่เกิดเหตุในช่วงเช้าวันที่7ส.ค.
แว่บแรกที่เห็น เหมือนเหยี่ยวเห็นเหยื่อ พล.ต.ต.นภัณฑ์วุฒิบอกตัวเอง ไอ้คนนี้มีเค้า
เขาบอกให้พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้การสืบภาค8 เข้าไปพูดคุยเบื้องต้น ก่อนเขาเดินไปสมทบ
เอ้า…ว่าไงวันนั้นขึ้นไปทำอะไร
ผมเดินขึ้นไปเอาของป่าครับ
“เข้าป่าแล้วทำไมวันนั้นแต่งตัวซะหล่อ ใส่แว่นดำอีก ไหนถอดเสื้อผ้าดูสิ…”
บังหลี หน้าตาเลิ่กลั่กแต่ก็ถอดเสื้อเผยให้เห็นรอยแผลตกสะเก็ด นายพลตำรวจหนุ่ม เริ่มมั่นใจ เมื่อเห็นรอยแผลยาวเป็นปื้นที่หลัง
“ไปโดนอะไรมา….”
“โดนยางไม้มาครับ…..”
“เอ้า โดนยางไม้แล้วทำไมไม่โดนเสื้อ…..”
“ผมไม่ทราบครับ…..”
“โทรศัพท์มือถือไปไหนล่ะ…..”
“เอาไปซ่อมครับมันเสีย เปียกฝน….”บังหลีตอบ
ผู้การสืบภาค8 หันไปหารองประวิทย์ นรต.47ที่ไปหิ้วบังหลีมาจากบ้าน
“วิทย์ มันเอาไปซ่อมท่ีไหนไปเอามาให้พี่ ที่เหลือพามันขึ้นไปบนเขาตามที่มันบอกว่าขึ้นไปทางไหนยังไง เสร็จแล้วเอาตัวมาที่ศปก.โรงพักวิชิต….”
หลังประชุมกับผบ.ตร.และคณะเสร็จสิ้นเป็นเวลาเดียวกับพ.ต.ท.ไกรษร ชมชื่น รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รองผกก.สส.สภ.วิชิต และร.ต.อ.เสกสิทธิ์ กุลเจริญ นว.(สบ1) ผบก.สส.ภ.8 คุมตัวบังหลี กลับมาที่ศปก.สภ.วิชิต
กระบวนการซักถามเริ่มขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงครึ่ง
แรกๆบังหลียังไหลไปเรื่อย ยอมรับแค่ว่าขึ้นไปบนเขาจริง แต่ไม่ได้ไปขึ้นทางน้ำตก
สุดท้ายถูกนายพลนักสืบที่ผ่านคดีใหญ่มานับไม่ถ้วนต้อนจนจนมุมทุกเรื่อง
ไม่ว่าจะเรื่องทางขึ้นเขา ที่ให้บังหลีพาไปตรงทางขึ้นอื่นตามที่มันบอก แต่ตรวจสอบแล้วไม่มีทางอื่นไปได้
เรื่อง เอาเครื่องโทรศัพท์ไปช่อม สาเหตุ ฝนตกเปียก ที่จริงเป็นพราะเครื่องตกน้ำขณะก่อเหตุ
เรื่อง บาดแผล ที่เกิดตามร่างกาย มาจากไม้ขีดข่วน และยางไม้ สุดท้ายยอมรับเกิดจาก การต่อสู้ กอดรัดฟัดเหวี่ยง และโกหกว่าแผลเกิดตั้งแต่วันที่ 2( ก่อนเกิดเหตุ)
แต่ บังหลี ยังปากแข็งไม่ยอมรับ
“ไหนมึงถอดกางเกงสิ มีแผลที่ไหนอีก“
บังหลี ลุกขึ้นถอดกางเกงออกตามคำสั่งทำเอาทุกคนตะลึง เพราะที่บริเวณอวัยวะเพศ ถูกโกนขนเพชรเสียเกลี้ยง ลักษณะเพิ่งโกนเมื่อวันสองวัน
เมื่อถามว่าโกนทำไม โกนเมื่อไหร่ บังหลีไม่ยอมตอบ
ขณะที่ทีมซักถาม โดยการนำของผู้การชัด เปลี่ยนเรื่องมาคุยเรื่องครอบครัว
เริ่มรุกให้เห็นถึงความรู้สึกของลูกของเมียและเหตุให้บรรเทาโทษ เพราะทุกเรื่องที่มันพูดโกหกถูกจับไต๋ได้หมด
เท่านั้นต่อมน้ำตามันแตก เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ตั้งแต่มันเดินลงมาจากเขา เห็นแหม่มสาวผู้ตายนั่งอยู่คนเดียว ที่แอ่งน้ำ ก่อนที่มันจะเข้าไปกอดรัดจากด้านหลัง ตกลงไปในแอ่งน้ำ เกิดการต่อสู้จนคนตายแน่นิ่ง
เอาผ้ายางพลาสติกขนาดใหญ่ที่เหมือนขยะถูกน้ำซัดมาคลุมอำพรางศพ หยิบเงินในกระเป้คนตายไปสามร้อย ก่อนหลบหนี
เท่านั้น ผู้การชัดยิ้มก่อนโทรศัพท์รายงาน บิ๊กปั๊ด ผู้บังคับบัญชาสูงสุด
ปิดคดีตามรูปแบบคัมภีร์สืบสวน3 เล่มครบหมดจด
กากีกลาย9/8/64