คงไม่รอด 10 นายตร. ยศ “พ.ต.อ.-ร.ต.ต.”เซ่นสำนวนคดีหญิงไก่ รองผบช.น.เผยพบความบกพร่อง 9 สำนวน ทั้งใช้ดุลยพินิจไม่ถูกต้อง-ไม่ครบถ้วน รรท.ผบช.น. ระบุในสัปดาห์นี้ทุกอย่างชัดเจน งงบางสำนวนมีแค่เอกสารไม่กี่แผ่น ยันผู้บังคับบัญชาของ พงส. ต้องรับผิดชอบด้วย
เล็งเอาผิดทางวินัยซ้ำ-ถ้าทุจริตก็ไล่ออก ขณะที่ผบช.ก.ถกกองปราบฯ เผยมีพยานหลักฐานชี้ชัดเศรษฐินีอุดรธานีตายแล้ว พบพิรุธสวดวันเดียวเผาเลย รุดสอบพระ-สัปเหร่อ-หมอที่สกลฯ แย้มคนขับรถหญิงไก่จ่อพบตร. 22 ก.ค. ส่วนอธิบดีกรมคุกยันหญิงไก่ยังไม่ตาย แค่มีอาการเครียด ด้านทนายความแฉหญิงไก่โดนฟ้องล้มละลาย เมื่อปี” 46
จาก กรณีอดีตลูกจ้างเข้าร้องทุกข์กองปราบฯ หลังถูกนางมณตา หรือหญิงไก่ หยกรัตนกาญ อดีตนายจ้าง แจ้งความดำเนินคดีลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีลูกจ้างที่ถูกแจ้งความลักษณะเดียวกันอีกหลายราย ล่าสุดตำรวจ กองปราบฯ แจ้งเอาผิด 3 ข้อหา คือ แจ้งความเท็จ พยายามค้ามนุษย์ และความผิด ม.112 ก่อนนำตัวส่งศาลและไม่ได้ประกันตัว และสั่งสอบตำรวจยศ “ร.ต.ท.” และอีก 5 นายตำรวจ สน.ประชาชื่น ที่ทำคดีและอาจเข้าไปเกี่ยวข้อง อีกทั้งแฉมีผู้สูญหายอีก 2 คน เป็นคนขับรถและเศรษฐินีเมืองอุดรธานี ก่อนได้เบาะแสคนขับรถยังมีชีวิตอยู่ โดยไปพักอยู่ที่วัดในจ.ปทุมธานี จากนั้นหลบหนีไปอีก ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น
สำหรับความคืบ หน้า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. พ.ต.อ. สยาม บุญสม รองผบก.ปอท. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป. ร่วมประชุมหาเบาะแสและคลี่คลายคดี
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า คดีของหญิงไก่ ได้แบ่งงานให้แต่ละหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านกระจายกันไปตรวจสอบ อย่างเรื่องค้ามนุษย์ สั่งการให้ตำรวจ บก.ปคม.รับไปตรวจสอบและสืบสวนว่าการกระทำของผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิดในส่วน นี้หรือไม่ ขณะที่บก.ปอศ.จะตรวจสอบเส้นทางการเงินและธุรกรรมทุกอย่างของผู้ต้องหาและผู้ เกี่ยวข้อง
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายสุนทร หรือโก้ ขันหิน อดีตคนขับรถของหญิงไก่นั้น เบื้องต้นตรวจสอบแล้ว เชื่อยังมีชีวิตอยู่ แต่จะหลบหนีไปเพราะเหตุใดนั้นยังไม่ทราบ อยู่ระหว่างหาข้อเท็จจริง โดยเชื่อว่าจะเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเร็วๆ นี้ ส่วนเศรษฐินีเมืองอุดรธานี ตำรวจมีพยานหลักฐานที่สามารถระบุได้ว่าน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และไม่อยากให้นำกรณีของเศรษฐินีเมืองอุดรธานีไปเชื่อมโยงกับคดีเสียชีวิตที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เพราะขณะนี้ยังไม่มีอะไรเชื่อมโยงกัน โดยอยากฝากเตือนประชาชนว่าคนประเภทนี้มีจำนวนมาก อย่าไปหลงกลหรือหลงเชื่อเป็นอันขาด
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายสุนทร หรือโก้ อดีตคนขับรถหญิงไก่ ที่หลบหนีไปได้ติดต่อผ่านพระลูกวัดของวัดนังคัลจันตรี จ.ปทุมธานี ว่าจะเดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 22 ก.ค.นี้
ส่วน ประเด็นเศรษฐินีอุดรธานี ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลพบว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ย.2546 เศรษฐินีอุดรธานีได้เข้ารักษาตัวที่คลินิกใน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลังเข้ารักษาตัวเพียง 7 วันได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ ในวันที่ 2 ธ.ค.2546 จากนั้นนำศพเศรษฐินี ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีสว่าง จ.สกลนคร ก่อนฌาปนกิจศพในวันที่ 3 ธ.ค.2546 โดยมีหญิงไก่เป็นผู้แจ้งการตาย สำหรับที่ดิน ซึ่งหญิงไก่เคยติดต่อขอซื้อได้ถูกโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของชายคนหนึ่ง และถูกขายให้กับผู้อื่นในราคา 8 ล้านบาท ปัจจุบันที่ดินดังกล่าวถูกสร้างเป็นบ้านพัก โดยอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่าการขายที่ดิน หญิงไก่มีส่วนได้เสียหรือไม่ เนื่องจากชุดสืบสวนพบพิรุธและตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดถึงรีบจัดการศพ โดยใช้เวลาเพียง 1 วัน
นอกจากนี้ชุดสืบสวนเดินทางไปที่วัด ศรีสว่าง เพื่อสอบปากคำพระสงฆ์และสัปเหร่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยพระสงฆ์ให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนว่าได้ตั้งศพไว้ที่วัดจริง และมีผู้ร่วมงานประมาณ 40-50 คน ซึ่งอยู่ระหว่างสอบปากคำสัปเหร่อ รวมทั้งแพทย์ ที่รักษาเศรษฐินีอุดรธานีว่าเสียชีวิตจาก สาเหตุใด เพื่อที่จะตัดประเด็นฆาตกรรม รวมทั้งอยู่ระหว่างสอบปากคำเจ้าของที่ดินคนปัจจุบัน เพื่อหาความเชื่อมโยงด้วย
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองผบช.น. หัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจ สน.ประชาชื่น ที่ทำคดีหญิงไก่ เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวว่า คณะกรรมการเริ่มพิจารณาข้อบกพร่องทั้ง 9 สำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับหญิงไก่ โดยยังมีเอกสารที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีพนักงานสอบสวนหรือผู้บังคับ บัญชาระดับใดบกพร่อง แต่เนื่องจาก มี ข้อสงสัยในเอกสารบางอย่าง จึงจำเป็นต้องนำเอกสารมาวินิจฉัยเพิ่มเติม โดยตอนนี้พบตำรวจเกี่ยวข้องประมาณ 10 กว่านาย ตั้งแต่ระดับร.ต.ต.-พ.ต.อ. ระดับรองผบก. ที่อาจ เข้าข่ายมีความผิด ซึ่งจะสรุปผลในวันที่ 14 ก.ค. เวลา 13.00 น. ที่บช.น.
“ความบกพร่องของทั้ง 9 สำนวนที่พบ จะเกี่ยวกับการไม่ตรวจสอบสำนวนคดี ระยะเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานให้ ครบถ้วน การใช้ดุลพินิจโดยไม่ถูกต้อง ซึ่ง ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าบกพร่องทุกสำนวนหรือไม่” รองผบช.น.กล่าว
เมื่อ ถามว่ากรณีแจ้งความลักทรัพย์นายจ้าง ตำรวจระดับรองผบก.ต้องลงมาตรวจสอบสำนวนคดีด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวว่า ต้องลงมาตรวจสอบด้วย ส่วนกรณีตรวจสอบว่าถูกกลั่นแกล้งให้รับแจ้งความนั้น ลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงการดำเนินการตามม.157 ด้วย ซึ่งต้องดูว่าเป็นเรื่องการจงใจละเว้นหรือไม่
เมื่อถามว่า ตำรวจทั้งหมดที่มีชื่อเกี่ยวข้องต้องเชิญมาสอบสวนหรือไม่ พล.ต.ต. จารุวัฒน์ กล่าวว่า หากเป็นในส่วนตำรวจ ที่ถูกกล่าวหาไม่มีความจำเป็นต้องเชิญมาสอบปากคำ แต่จะไปปรากฏในคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงมากกว่า โดยยังไม่กันตัวไว้เป็นพยาน เนื่องจากยังไม่ดำเนินคดีอาญา
เมื่อ ถามว่า 9 สำนวนคดีที่มีการฟ้องร้อง มีความผิดปกติอะไรหรือไม่ พล.ต.ต.จารุวัฒน์กล่าวว่า เบื้องต้นมีความผิดปกติเกิดขึ้น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. จึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา ส่วนจะพิจารณาให้ช่วยราชการไว้ก่อนหรือไม่ คณะพนักงานสอบสวนจะพิจารณาในวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งขณะนี้ยืนยันยังไม่พิจารณาถึงขั้นไล่ออกจากราชการ แต่ต้องรอให้คณะกรรมการเสนอรายละเอียด
ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวว่า ทุกอย่างคืบหน้ามากและภายในสัปดาห์นี้น่าจะชัดเจน ส่วนพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น หรือตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกี่คนนั้น เบื้องต้นมีพนักงานสอบสวนที่รับคดีทั้งหมด 5 นาย และมีหัวหน้างาน ที่เป็นผู้บังคับบัญชาควบคุมการปฏิบัติงาน ซึ่งต้องตรวจสอบว่าได้ตรวจตราดูแลเอาใจใส่หรือไม่ เพราะบางสำนวนมีเอกสารไม่กี่แผ่นเกิดจากอะไร โดยเรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ส่วนจะรวมถึงอดีตผกก.สน.ประชาชื่น หรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบก่อน
เมื่อ ถามถึงกรณีหญิงไก่บังคับให้ดำเนินคดีลูกจ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวใครจะมาบังคับใคร จะมากดดันก็ต้องทำตามหน้าที่ตามหลักการ ไม่ต้องมาอ้างว่าถูกใครกดดัน
เมื่อถามถึงการพิจารณาโทษทาง วินัย พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า หากมีความผิดก็ต้องโดน ซึ่งต้องดูว่าบกพร่องโดยสุจริตหรือไม่ คือไม่ได้มีเจตนา คือทำอะไรโดยไม่ทุจริต แต่ถ้าทุจริตก็ต้องไล่ออกตามความผิดวินัย ร้ายแรง ส่วนจะจำเป็นให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ต้องดูว่าทุจริตหรือไม่ เอาหลักฐานมาดู อาทิ หลักฐานการรับเงิน
ด้านนายปฏิคม วงษ์สุวรรณ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกระแสข่าวหญิงไก่เสียชีวิตในทัณฑสถานหญิงกลางว่า ไม่เป็นความจริง เบื้องต้นได้รับรายงานจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำนำตัวหญิงไก่มาตรวจร่างกายอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยว ชาญ ซึ่งจากการตรวจร่างกายพบว่าสภาพร่างกายโดยทั่วไปปกติ แต่อาจมีความเครียดบ้างเหมือนกับผู้ต้องขังรายอื่น ที่เพิ่งถูกควบคุมตัวเป็นครั้งแรก หลังจากการตรวจร่างกายเสร็จแล้ว หากไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วงอีก เจ้าหน้าที่จะนำตัวกลับไปควบคุมยังเรือนจำเหมือนเดิม
ผู้ สื่อข่าวถามว่าหลังจากหญิงไก่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำได้ร้องขออะไรบ้าง หรือไม่ นายปฏิคมกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่การร้องขอนั้น ผู้ต้องขังสามารถทำได้อยู่แล้ว หากสิ่งที่ร้องขอไม่ขัดต่อระเบียบของเรือนจำ
วัน เดียวกัน นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความโพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงหญิงไก่ โดยนำเลขคดีที่อ้างว่าเป็นคดีที่หญิงไก่ถูกศาลสั่งล้มละลาย ก่อนจำหน่ายคดีออกจากสารบบในปี 2546 ซึ่งจากข้อมูลส่วนนี้ นายสงกานต์ระบุว่า จากรายละเอียดนี้เป็นการยืนยันสถานภาพทางการเงินของหญิงไก่ว่า ไม่ได้มีเงินหรือทรัพย์สินมากมายตามที่กล่าวอ้างไว้ พร้อมชื่นชมพล.ต.ต.จารุวัตร ไวยศยะ รองผบช.น. ที่เห็นความผิดปกติในสำนวนคดีตั้งแต่ต้น ก่อนสอบสวนหาข้อเท็จจริง
ที่มา นสพ.ข่าวสด
