Saturday, November 23, 2024
More
    Homeกุหลาบโล่เงินจ่าฝน-ณิชชา พลหนองหลวง

    จ่าฝน-ณิชชา พลหนองหลวง

     

    ไม่มีสิ่งไหนที่ตำรวจพลร่มทำไม่ได้

    เป็นคำพูดส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น จากครูฝึกไปยังหน่วยรบพิเศษ “ร้อยร่ม”

    ชีวิตพลิกผันสาวสวยไม่รู้ว่าบังเอิญหรือชะตา ได้ค้นหาตัวตน

    จ่าฝน-จ.ส.ต.หญิง ณิชชา พลหนองหลวง วัย 34 ปี

    ตำแหน่ง ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.1 บช.ทท.

    สาวสวยบู๊คนนี้ อดีตเป็นครูฝึกประจำสถานีล้มตัว กองร้อยส่งกำลังทางอากาศ(ร้อยร่ม) ที่เย้ยความตายมานับไม่ถ้วน

    จ่าฝนเป็นบุตรสาวคนกลางจากครอบครัวชาวนา จังหวัดร้อยเอ็ด

    สไตล์เธอเป็นผู้หญิงรักสวยรักงาม ชอบการแต่งตัว ไว้ผมยาวทาเล็บ มีความฝันอยากทำงานออฟฟิศ นั่งในห้องแอร์สวยๆเริ่ดๆ

    ชะตาชีวิตมาจุดนี้เริ่มจากสมัยมัธยมมีเดอะแก๊ง 1 ใน 10 คน ได้ชักชวนกันมาสมัครเป็นตำรวจพลร่ม(สอ.คิดว่า สิบเอก?) จึงมากันทั้งหมด

    ผลปรากฏว่าเธอสอบติดคนเดียว และมีเพื่อนอีก 2 คน ติดสำรอง ที่เหลือตกหมด

    สรุปผลสุดท้ายมาฝึกเพียงคนเดียว คิดว่าคงแค่สอบพละกำลังทั่วไป และฝึกนิดหน่อย คิดว่าเป็นตำรวจทำงานด้านเอกสาร เดินตามนาย เสริฟกาแฟ สบายๆ

    วันแรกมารายงานตัวค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี ครูฝึกถือแบตตาเลี่ยนโกนหัวต่อหน้าครอบครัว แล้วพูดว่า

    “ถ้าผมยังเสียดายอย่างอื่นก็ไม่สามารถทำได้”

    ทำเอาทุกคนถึงกับสตั้นกันไป 30 วินาที เลยทีเดียว ทำเอาน้ำตาแม่คลอเบ้าเราจึงบอกไปว่าสู้อยู่แล้ว ไหนๆก็มาละ

    ฝนมาทราบภายหลังว่าสังกัดที่ฝนเข้าไปฝึกนั้นคือกองร้อยส่งกำลังทางอากาศ หรือเรียกสั้นๆว่า ตำรวจร้อยร่ม เป็นกองกำลังหน่วยรบพิเศษ

    ชุดถวายความปลอดภัยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

    ประสบการณ์ฝึกในค่ายบอกเลยว่าโหดมาก โหดสุดๆ แบบอธิบายทั้งวันทั้งคืนยังยังเล่าไม่หมด

    เอาสั้นๆย่อๆต้องเรียนรู้ทุกกลยุทธ์ให้ ถึก อึด ทน ว่องไว ไหวพริบ

    ขณะเข้าฝึกนั้นฝนเปลี่ยนความท้อให้เป็นแรงผลักดัน ทำให้เกิดความฝัน ว่าสักวันฉันจะเป็นครูฝึกให้ได้ อยากฝึกเด็กรุ่นถัดไปให้มีคุณภาพดั่งที่เคยได้ฝึกมา

    จนฝึกจบเป็นตำรวจพลร่มรุ่น 126 ปี 50 แล้วก็เลือกเดินสายครูฝึกดั่งใจ ได้รับไว้วางใจให้ประจำสถานีล้มตัว

    รวมแล้วอยู่ร้อยร่มมาเกือบ 9 ปี มีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตา

    สิ่งที่สลดใจที่สุดคือการเห็นทั้งครูฝึกที่เคารพและลูกศิษย์ตายต่อหน้ามาเยอะ

    รวมถึงตัวฝนเอง ร่มหลักไม่กาง แต่ยังมีสติดึงร่มสำรองออกมาได้อย่างมีสติ

    ผลงานที่ภูมิใจเราคัคมาเด่นๆ 3 อย่าง คือการโดดร่ม ชั้น 3 (ร่มกลม) รุ่น 197/51 การโดดร่มใหม่แบบกระตุกเอง (ร่มสกาย) รุ่น 2/52

    การโดดร่มนักกีฬาแข่งขัน 4 เหลาทัพ ปี 55 (ทีมร่มโพธิ์ทอง) สถิติดีสุด เหยียบที่ 03 ได้รับดับที่ 2

    สิ่งที่ประทับใจในค่ายมีเยอะมาก แต่อยากบอกในสิ่งที่รู้สึกว่า ทุกๆปีวันเด็ก เหมือนตัวเองเป็นนางฟ้า^^

    เพราะโดดร่มลงมากลางวงล้อมของเด็กๆแล้วมอบของขวัญให้ ทำให้เห็นรอยยิ้มเห็นความสุขของเด็ก เป็นสิ่งที่ประทับใจมากๆ

    ต่อมา ปี 60 ย้ายสังกัด มาเป็น ตร.ทท. อยู่ประจำสถานี1 กก.1บก.ทท. ดูแลนักท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบ วัดพระแก้ว สนามหลวง

    สาเหตุที่ย้ายเพราะครอบครัว เวลาเห็นข่าวคนกระโดดร่มเสียชีวิต “ใจมันแทบสลาย” กลัวครอบครัวไม่สบายใจ ฝนจึงขอย้ายสายงานก่อน ของดโดดร่มสักระยะ

    แต่ก็ไม่ได้แขวนนวมยังคงฝึกซ้อมร่างกายเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ

    จากนี้ก็เข้าทางคอลัมน์เราแล้วหนุ่มๆทั้งหลาย จึงชิงยิงคำถามทันที นอกจากครอบครัวที่เป็นห่วง ยังมีหนุ่มไหนเป็นห่วงบ้างไหม

    จ่าฝนอมยิ้มหน้าแดง เงียบไปพักใหญ่ก่อนค่อยๆเล่าว่า

    ไม่ค่อยมีใครเข้ามา คงกลัวฝนมั่ง55555+ เห็นหน้านิ่งๆคงคิดว่าดุ หรือไม่ก็มีเพื่อนผู้ชายเยอะรวมถึงพี่ชายและน้องชาย ทำให้รู้ทันหนุ่มๆรึปล่าวอันนี้ไม่แน่ใจ

    “แต่ถ้ารู้จักกันจริงๆฝนเป็นคนสนุก เม้าท์เก่งมากกก ชอบผู้ชายรูปร่างสันทัด จริงใจ พูดตรงๆแมนๆ

    ที่สำคัญนิสัยใจคอ ชอบผู้ชายที่รักครอบครัว ถ้าเค้ารักครอบครัวแล้วเค้าจะรักเรา ทำได้สักครึ่งของคุณพ่อก็โอเคแล้ว

    เพราะพ่อรักครอบครัว เสียสละ อดทน ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยสักคำ ก็จะประมาณนี้นะคะ

    จ่าฝนกล่าวไว้

    สุดท้ายฝนเชื่อเสมอว่าทำดีต้องได้ดี

    ยืนยันที่จะรับใช้ดูแลประชาชนด้วยไมตรี ให้พี่น้องชาวไทยมีความสุขที่สุดค่ะ

    เกรียงไกร พรมยะดวง บันทึก23/12/62

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments