Wednesday, January 15, 2025
More
    HomeUncategorizedตม.แถลงโชว์จับกุมต่างชาติก่อคดีอุกฉกรรจ์ 4 ราย

    ตม.แถลงโชว์จับกุมต่างชาติก่อคดีอุกฉกรรจ์ 4 ราย

    วันที่14ม.ค.68 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช. สตม.,พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ช่วยราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

    1. สตม. รวบรองหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยากูซ่าญี่ปุ่น

    สืบเนื่องจาก บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทยมีกลุ่มคนร้ายลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงชาวญี่ปุ่น เป้าหมายเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยหลอกลวงว่าจะได้รับเงินประกันสุขภาพคืน

    มีรูปแบบการหลอกลวงว่า “เป็นการขอคืนเงินค่ารักษาพยาบาล โดยใช้โทรศัพท์หลอกลวงผู้สูงอายุในญี่ปุ่น  อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ”

    ต่อมาวันที่ 16 ธ.ค.2567เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. และ ศปชก.สตม. ได้เข้าตรวจค้นบ้าน 2 หลัง ในพื้นที่เมืองพัทยา จว.ชลบุรีจับกุมผู้กระทำความผิดเป็นชายชาวญี่ปุ่น 5 คน และยังมีอีก 3 ราย ที่ยังไม่ถูกจับกุม

    ผบก.สส.สตม.ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรคนต่างด้าวทั้ง 8 คน และขึ้นบัญชีเป็นบุคคลเฝ้าระวัง (Watch List)

    ต่อมาวันที่ 12 ม.ค.2568  เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่งานตรวจคนเข้าเมืองขาออก ด่าน ตม.ทอ. กรุงเทพ บก.ตม.2  ได้ตรวจพบ นาย YU HAMAJI (นามสมติ) อายุ 34 ปี ชาวญี่ปุ่น   1 ใน 3 คน ที่ยังไม่ถูกจับกุมและถูกขึ้นบัญชีบุคคลเฝ้าระวังไว้ จะเดินทางออกจากประเทศไทย  จึงได้ร่วมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขาออก ด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ บก.ตม.2 ควบคุมตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

    ทั้งนี้ นาย YU HAMAJI เป็นรองหัวหน้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่บริหารจัดการต่าง ๆ ภายในแก๊งและรับคำสั่งจากหัวหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม

    2. สืบตม.รวบหนุ่มแดนโสมหลังมั่วสุมปาร์ตี้ยาฯ ไฮโซ บนโรงแรมหรูย่านทองหล่อ
    กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุมนายโจวอน (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ชาวเกาหลีใต้ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้  ที่ จ.1379/2567 ลงวันที่ 31 ธ.ค.2567

    ฐาน ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน, เมทิลลีนไอออกซีเมทแอมเฟตามีนหรือยาอี, พาราเมทอกซีเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต

    และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรง
    เกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน นำตัวส่งสน.ทองหล่อ ดำเนินคดี จับกุมได้ที่คอนโดมีเนียม แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

    สืบเนื่องจากวันที่ 8 ธ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นงานปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด ภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ย่านทองหล่อ  เบื้องต้นพบเป็น “กลุ่มนักท่องเที่ยวเพศชาย หนุ่มหล่อกล้ามโต” ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 124 คน พร้อมกับของกลางเป็นสารเสพติดในบริเวณงานปาร์ตี้

    ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับนายโจวอน (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ในข้อหา ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต

    จากนั่นวันที่ 13 ม.ค.68  ชุดสืบสวน กก.ปอพ.บก.สส.สตม. สืบทราบว่า นายโจวอน  หลบหนีมาพักอาศัยกับเพื่อนที่คอนโดย่านแขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จึงได้นำกำลังจับกุมได้

    นายโจวอนยอมรับว่าเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2567 ได้เข้าร่วมงานปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติดภายในโรงแรมหรูจริง  จับกุมนำตัวส่งสน.ทองหล่อ  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    3. สืบ ตม. รวบชายชาวไนจีเรียนลักลอบขายคีตามีนในย่านนานา

    กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายเคนเนดี้ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติไนจีเรียน พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) 30 ก้อน น้ำหนักชั่งรวมสิ่งห่อหุ้ม 50 กรัม โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวขยายผล บก.ปส.4 บช.ปส.ดำเนินคดี จับกุมได้ภายในร้านสินค้าในซอยสุขุมวิท 5 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

    หลังมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในย่านนานา แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ได้ติดตามดูพฤติการณ์มากว่า 3 เดือน ก่อนล่อซื้อยาเสพติด 30 กรัมในราคา 60,000 บาท (กรัมละ 2,000 บาท)นัดหมายส่งมอบในร้านสินค้าซอยสุขุมวิท 5 แขวงคลองเตยเหนือ
    เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ก่อนจับกุมได้

    สอบถามนายเคนเนดี้ ยอมรับว่ายาเสพติด (คีตามีน) ของกลางดังกล่าวเป็นของตนเอง ซึ่งได้นำมาจำหน่ายให้กับสายลับในราคา 60,000 บาท ตามที่ตกลงซื้อขายกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

    4. สืบ ตม. รวบหนุ่มแดนกังหันลมหลอกขายทองหวังฉกดอลลาร์
    กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับการร้องเรียนมีกลุ่มชายชาวต่างชาติผิวสีมีพฤติกรรมหลอกลวงขายเม็ดทองคำในราคาถูก  เชื่อว่าเป็นเม็ดทองปลอม โดยอ้างว่ามีทองคำนำเข้ามาจากแอฟริกาจะขายให้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพราะนำเข้าประเทศไทยแบบไม่เสียภาษี พร้อมทั้งโชว์เม็ดทองคำจำนวนมาก

    จากการตรวจสอบทราบว่า หากมีผู้ใดสนใจซื้อ จะนัดพูดคุยและมอบเม็ดทองคำตัวอย่างซึ่งเป็นทองคำแท้ให้เหยื่อนำไปตรวจสอบก่อน  หากเหยื่อหลงเชื่อตกลงซื้อจะนัดพบกันเพื่อซื้อขายเม็ดทองโดยขายในราคา 55,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2 ล้านบาท) และมักจะให้เหยื่อเตรียมเงินสดเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐตามจำนวนที่ตกลงซื้อขาย   หากเหยื่อหลงเชื่อจะรับเงินสดและส่งเม็ดทองปลอมให้แล้วหลบหนีไป

    หากเหยื่อสงสัยว่าเม็ดทองทั้งหมดเป็นของจริงหรือไม่ จะพยายามหาวิธีการเบี่ยงเบนความสนใจ และสับเปลี่ยน
    เงินของเหยื่อด้วยเงินปลอมที่เตรียมมาด้วย แล้วหลบหนีไป

    จากการสืบสวนทราบว่ามีชายผิวดำซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้หลอกลวง พักอยู่ที่โรงแรมในซอยสุขุมวิท 5ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ ตรวจสอบกระทั่งพบตัว

    สอบถามทราบชื่อ MR.NDILLE (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาวดัตซ์ จากการตรวจสอบห้องพักพบกระเป๋าเสื้อผ้าภายในมี
    ถุงบรรจุสิ่งของลักษณะคล้ายเม็ดทองคำน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม 1 ถุง และพบถุงพลาสติกใสบรรจุสิ่งของลักษณะคล้ายเม็ดทองคำน้ำหนักประมาณ 100 กรัมอีก 2 ถุง

    MR.NDILLE ให้การว่า ซื้อเม็ดทองมาจากประเทศจีน โดยเม็ดทองถุงน้ำหนัก 5 กิโลกรัม เป็นเม็ดทองปลอม และเม็ดทองที่บรรจุในถุงพลาสติกถุงละประมาณ 100 กรัม2 ถุง เป็นเม็ดทองจริง 1 ถุง และเป็นเม็ดปลอม 1 ถุง จึงยึดไว้พร้อมเงินสด สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเงินเยน เงินปอนด์ รวมกันประมาณ 117,600 บาท

    เตมื่อรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ พบแชทพูดคุยผ่านWhatApp กำลังหลอกเหยื่อเพื่อขายเม็ดทองคำ มีภาพโชว์เม็ดทองคำจำนวนมากให้ดูและเสนอขายในราคาถูก  มีการให้ตัวอย่างเม็ดทองคำให้ไปตรวจดูก่อนแล้ว จากการตรวจสอบเป็นเม็ดทองคำแท้  ตกลงซื้อ 1 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 55,000 ดอล ลาร์ (ประมาณ 2 ล้านบาท)

    ทั้งนี้ในการซื้อขาย MR.NDILLE จะรับเป็นเงินดอลลาร์ นัดส่งมอบเม็ดทองคำ ที่ห้างสรรพสินค้าในแขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรงเทพฯ จึงได้ติดต่อผู้ที่พูดคุยกับ MR.NDILLE
    ดังกล่าวทราบว่า ได้ตกลงซื้อเม็ดทองจาก MR.NDILLE แล้ว และได้นัดพบกันเพื่อซื้อขาย

    โดย MR.NDILLE  มากับเพื่อนอีก 3 คนพยายามเบี่ยงเบนความสนใจและหาโอกาสสับเปลี่ยนเงินดอลลาร์ของปลอมที่เตรียมมา  โชคดีที่เหยื่อสังเกตเห็นความผิดปกติโวยวายและยกเลิกการซื้อขาย

    นอกจากนี้ยังพบข้อมูลการแชตพูดคุยกับเหยื่ออีกหลายคน เพื่อหลอกขายเม็ดทองปลอมดังกล่าว เบื้องต้น ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ MR.NDILLE เนื่องจากมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้อื่นเป็นภัยต่อสังคม ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง และขึ้นบัญชีเป็นคนต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ควบคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อกักตัวเตรียมผลักดันกลับประเทศต่อไป

    ระหว่างนี้ ได้ประสานเหยื่อที่เคยถูกหลอก หรือกำลังจะถูกหลอก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments