ตม.1 จับกุมหนุ่มไซปรัสตามหมายจับฐานบุกรุกในยามวิกาล หลังพบพฤติกรรม stalking สาวไทย ค้นตัวพบตราประทับสถานกงสุลปลอม เร่งขยายผล
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. รับนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม.
โดยสั่งการและกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวน X-RAY พื้นที่เสี่ยง และบุคคลต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะกลุ่มบุคคลต่างด้าวที่กระทำความผิดในประเทศไทย และถูกออกประกาศสืบจับในราชอาณาจักร
ชุดสืบสวนสังกัด กก.สืบสวน บก.ตม.1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวนฯ และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก. ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่า
เมื่อวันที่ 10-11 ก.ค. ที่ผ่านมา MR.Nicholas อายุ 36 ปี ชาวไซปรัส บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ข้อหากระทำความผิดฐาน “บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์” ได้มาพักอยู่ที่โรงแรม Hostel แห่งหนึ่งย่านราชเทวี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปที่โรงแรมดังกล่าวฯ
เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับจะเดินทางกลับมาที่โรงแรมในเวลาประมาณ 20.30 ถึงเวลา 21.00 น. ชุดจับกุมจึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์
จนกระทั้งเวลาประมาณ 21.40 น. พบผู้ถูกจับมีลักษณะคล้ายกับผู้ต้องหาตามหมายจับฯ ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับแสดงบัตรประจำตัวให้ผู้ถูกจับดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางพร้อมกับได้แสดงหมายจับให้ผู้ถูกจับดู ปรากฎว่าผู้ถูกจับ เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม จริง
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกจับทราบว่ากระทำความผิดฐาน “บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์” พร้อมกับแจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับให้ทราบแล้ว โดยผู้ต้องหาทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาดีแล้ว และรับว่าตนเป็นบุคคลเดียวกันตรงตามหมายจับดังกล่าวจริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใด
นอกจากนี้ จากการค้นตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังพบตราประทับของสถานกงสุลไซปรัส ประจำประเทศไทย ได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบเนื่องจากเชื่อว่าน่าจะเป็นตราประทับปลอมซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะได้ประสานงานกับสถานกงสุลไซปรัสประจำประเทศไทยเพื่อขยายผลในฐานความผิดอื่นๆต่อไป
จากการสอบปากคำ เบื้องต้น Mr.Nicholas รับสารภาพ เกี่ยวกับการลักลอบเข้าไปในคอนโดของอดีตแฟนสาว ไปนอนดักรอในพื้นที่ส่วนกลาง เช่นล็อบบี้ รวมถึงงัดแงะประตูอัตโนมัติ โดยมีพฤติกรรมดังกล่าวซ้ำๆหลายครั้ง จนผู้เสียหายทนไม่ไหวจึงไปร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี จน นำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมในที่สุด