เวลา 15.00 น.วันที่ 29ส.ค.65 ที่ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 8/2565 วาระเพื่อพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.- ผบก.ประจำปี 2565 ใช้เวลาในประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง มีรายงานว่าผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งประกอบไปด้วย
ระดับ รองผบ.ตร.
พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้ช่วยผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร.
ผู้ช่วยผบ.ตร.
พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผบช.ศ. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผบช.รร.นรต. พล.ต.ท.กรชัย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผบช.ศพฐ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองจตช.เป็น ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรพล ชัยจันทร์ ผบช.กมค. เป็น รองจตช.
ระดับ ผบช.หมุนเวียนระนาบเดียวกัน
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 เป็น ผบช.น. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สกพ.เป็น ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร เป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จตร. เป็น ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. เป็น ผบช.ส. พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐ์พงษ์ ผบช.สยศ. เป็น ผบช.สกบ.
ระดับ ผบช.ตำแหน่งเดิม
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสเสถียร ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภาค 9 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.
ระดับรองผบช.ขึ้น ผบช.
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผบช.สตม.เป็น ผบช.สกพ. พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองผบช.สกพ. เป็น ผบช.ก.ตร. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผบช.ภ.7 เป็น ผบช.สยศ.พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น. เป็น ผบช.กมค. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รองผบช.ก. เป็น ผบช.สอท.พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ รองผบช.น.เป็น ผบช.รร.นรต.
ระดับผบก.ขึ้น รองผบช.
พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน. เป็น รองผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. เป็น รองผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. เป็น รองผบช.น.พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จ.ยะลา เป็น รองผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา เป็น รองผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รองผบ.ภ.7 เป็น รองผบช.ภ.2
ผบก.หมุนเวียนระนาบเดิม
พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2 เป็น ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิทย์ ผบก.อคฝ.เป็น ผบก.น.6 พล.ต.ต.จักรภพ สุคนวิภาค ผบก.น.1 เป็น ผบก.น.7พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.สส.จตช.เป็น ผบก.ภ.จ.ยะลา พล.ต.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.อก.บช.ภ.3 เป็น ผบก.ตม.4
รองผบก.ขึ้น ผบก.
พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล รองผบก.สปพ.เป็น ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อัฎพร วงศ์ศิริปรีดา รองผบก.น.7 เป็น ผบก.น.1 พ.ต.อ.สินเลิศ สุขุม รองผบก.น.4 เป็น ผบก.ส.3 พ.ต.อ.สุรพันธ์ นาควรทัศน์ รองผบก.น.4 เป็น ผบก.น.4 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ ควรจินดาสนอง รองผบก.น.5 เป็น ผบก.น.5 พ.ต.อ.รองผบก.น.9 เป็น ผบก.อคฝ. พ.ต.อ.อนุวัฒน์ สุวรรณภูมิ รองผบก.น.9 เป็น ผบก.อก.บช.น.
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า วันนี้มีการประชุมก.ต.ช. และประชุมก.ตร. ครั้งที่ 8/ 2565 ในทางก.ต.ช. มีการเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ ผ่านคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว
ผลการแต่งตั้งต้องรอผลตามกฎหมายอีกครั้งจะต้องรอหลังจากที่มีการพิจารณาโปรดเกล้าแต่งตั้งฯ และมีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ตั้งแต่ตำแหน่ง ระดับผบก. ถึง รอง ผบ.ตร.เพื่อทดแทนตำแหน่งว่าง ผู้เสียชีวิต และเกษียณอายุราชการรวมการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลตามความเหมาะสม
สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้มีการพิจารณาตามที่ ผบ.ตร.เสนอไว้ โดยตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.เลื่อนเป็น รอง ผบ.ตร. 4 ราย ผู้ช่วย ผบ.ตร.หมุนเวียน 1 รายผบช.เลื่อนเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. 6 ราย ผบช.หมุนเวียน 7 ราย รอง ผบช.เลื่อนขึ้นเป็น ผบช. 16 ราย รอง ผบช.หมุนเวียน 23 ราย ผบก.เลื่อนเป็น รอง ผบช. 40 ราย ผบก.หมุนเวียน 71 ราย รอง ผบก.เลื่อนขึ้นเป็น ผบก. 86 ราย รวม ทั้งสิ้น254 ราย ทั้งนี้ต้องรอการโปรดเกล้าฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า นอกจากนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมก.ต.ช. และก.ตร. กำชับตำรวจ 5 เรื่อง คือ
1.เรื่องยาเสพติด ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นด้านปราบปรามให้สืบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ผลิต ผู้ค้า อย่างจริงจัง ให้ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายผู้เกี่ยวข้องทุกรายในด้านป้องกัน มุ่งเน้นการลดจำนวนผู้ใช้ ผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดลงให้ได้
โดยใช้ชุมชนหมู่บ้านเป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหา สร้างความรับรู้กับทุกภาคส่วนว่าผู้เสพคือผู้ป่วย เมื่อสมัครใจเข้ารับการบำบัดแล้วจะไม่เสียประวัติและไม่มีความผิด และใช้มาตรการเชิงรุกด้านการค้นหาผู้เสพยาเสพติดนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ให้เดินหน้าโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ให้สำนักงานตำรวจ รวมทั้งให้มีการประเมินผล อย่างมีประสิทธิภาพ
2.เรื่องแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ให้กวดขันจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานฝ่ายทหาร ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยเน้นไปที่ผู้ปฏิบัติงานระดับพื้นที่ตามแนวชายแดน และชุมชนตามแนว หากมีการจับกุมให้ขยายผลให้ถึงขบวนการอย่างเด็ดขาด
กรณีเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
3.เรื่องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เร่งรัดสืบสวนจับกุม ปราบปราบขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเครือข่ายฉ้อโกงประชาชนในความผิดต่างๆรวมทั้งสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน คนเปิดบัญชีม้า และดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดทุกราย โดยนำมาตรการตามกฎหมายฟอกเงินมาบังคับใช้ติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น
ให้กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดที่ใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ค้าอาวุธปืน การพนัน ออนไลน์ ยาเสพติด และอื่นๆ โดยให้ขยายผลไปยังกลุ่มทุนทุกราย และเน้นมาตรการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อแจ้งเตือนประชาชนทุกรูปแบบให้ทราบถึงกลโกง วิธีการของคนร้าย เพื่อให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของการ หลอกลวงประเภทต่างๆ ให้ทั่วถึงประชาชนทุกกลุ่ม
4.แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้สืบสวนจับกุม กลุ่มผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้ และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่ รวมถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง อย่างจริงจังเด็ดขาด ให้ยึด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เช่นเงินสด ยานพาหนะ ของกลุ่มคนร้ายเพื่อเป็นการตัดวงจรการกระทำผิดซ้ำ ให้จัดทำสารบบข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนจับกุม ผู้กระทำผิด
และ 5. กำชับข้าราชการตำรวจทุกนาย ห้ามมิให้เรียกรับ ยอมรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือกระทำการใดที่เป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ โดยในผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุม ตรวจสอบ และกำกับดูแล หากพบการฝ่าฝืนให้พิจารณาทางปกครอง วินัย และอาญาอย่างจริงจังทุกราย