“ผบช.ภ.7 ” เปิดอบรมหลักสูตร “ นักสืบสวนธุรกรรมทางการเงินและนักสืบทรัพย์ “ ยกระดับเจ้าหน้าที่แกะรอยเส้นทางการเงินยาเสพติด ฟอกเงิน หนุนนโยบาย ยึดทรัพย์ ตามกฎหมายใหม่
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 2 จว.นครปฐม
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ผอ.ศอ.ปส.ภ.7 เป็นประธานเปิดอบรมหลักสูตร “ นักสืบสวนธุรกรรมทางการเงินและนักสืบทรัพย์ ” เพื่อพัฒนาศักยภาพข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการสืบสวนขยายผล ธุรกรรมทางการเงิน ตรวจยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 และพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564 แก่เจ้าหน้าที่สืบสวน ของตำรวจภูธรภาค 7 ” ระหว่างวันที่ 28 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพข้าราชการตำรวจ
มี พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม รอง ผบช.ภ.7 รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.7 พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.อก.ภ.7 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พล.ต.ต.จำลอง งามเนตร ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหัวหน้างานสอบสวนและหัวหน้างานสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ผกก.หรือ รอง ผกก.สืบสวน ในสังกัด กก.สืบสวน ภ.จว.รอง ผกก.หรือ สว.ในสังกัด บก.สส.ภ.7 ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 และข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องจำนวน 224 นาย เข้าร่วมพิธี
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ผอ.ศอ.ปส.ภ.7 กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ
ที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในสภาวะที่มีความรุนแรง โดยเฉพาะหมู่บ้าน ชุมชน และตามแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม
รัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วน การจัดการยาเสพติดต้องเริ่มที่แหล่งต้นตอ ซึ่งมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในหลายจังหวัด ชายแดนภาคเหนือ และภาคเหนือตอนบน เคลื่อนย้ายมาตามแนวชายแดน รวมถึงต้องมีการจัดการจุดระบาด ในหลายจังหวัดที่น่าเป็นห่วง ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ให้ดำเนินการเร่งรัดขับเคลื่อน แก้ไขปัญหายาเสพติด ครอบคลุมทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ และปัจจุบันกลุ่มเครือข่ายการค้ายาเสพติด มีการเปลี่ยนแปลงและเป็นลักษณะองค์กรอาชญากรรมขยายตัว มีการถ่ายโอนทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในอดีตเราจะรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวบุคคลเป็นหลัก
แต่ปัจจุบันการตรวจสอบร่องรอยการสื่อสารและร่องรอยทางการเงิน เพื่อแสวงหาพยานหลักฐาน มีความสำคัญขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปลายทางการกระทำผิดของอาชญากรรมล้วนมีจุดมุ่งหมายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน ซึ่งการกระทำธุรกรรมเพื่อเงินหรือทรัพย์สินเหล่านั้นล้วนทิ้งร่องร่อย รวมถึงอาชญากรที่อาจใช้การฟอกเงิน เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงจำเป็นต้องพัฒนาความรู้ถึงเทคนิคในการสืบค้นเพื่อให้ได้พยานหลักฐานจากการทำธุรกรรมเหล่านั้น เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ ตามเป้าหมาย
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ผอ.ศอ.ปส.ภ.7 กล่าวต่อว่า การสืบสวนทางการสื่อสารและร่องรอยการเงินนอกจากเป็นเครื่องมือช่วยในการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษแล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำไปใช้ในการริบทรัพย์สิน ตามรูปแบบการยึดทรัพย์รูปแบบใหม่ คือการยึดทรัพย์ตามมูลค่า โดยประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำการปราบปรามยาเสพติด ยึดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรยาเสพติด พัฒนายกระดับการทำงานของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะด้านปราบปรามยาเสพติด ซึ่งจำเป็นต้องมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ผอ.ศอ.ปส.ภ.7 กล่าวอีกว่า การอบรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีหัวข้อการอบรมประกอบด้วย เนื้อหานโยบายการปราบปรามยาเสพติดโดยใช้มาตรการริบทรัพย์สิน การสืบสวนทางการเงินควบคู่กับการสืบสวนพฤติการณ์ เทคนิคการสืบสวนเส้นทางการเงินและการติดตามร่องรอยทางบัญชี การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อการวิเคราะห์ทรัพย์สิน,การรับฟังพยานหลักฐานทางการเงินในชั้นศาล การสืบหาทรัพย์สินเพื่อการบังคับคดี,มาตรการทางภาษีกับการทำธุรกรรมทางเงินที่ผิดกฎหมาย และการประสานข้อมูลเพื่อการสืบสวนธุรกรรมทางการเงิน “
มีวิทยากรในการอบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและกองบังคับการกฎหมายและคดีตำรวจภูธรภาค 7 มาให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม วัตถุประสงค์ในการอบรม คือ เน้นให้มีการสืบสวนพฤติการณ์การกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดควบคู่ไปกับการยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด
ผู้เข้ารับการอบรมจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกับการวิเคราะห์ทางการเงิน ร่องรอยทางบัญชีที่เกินกว่าฐานะ เงินที่ไม่สามารถหาที่ไปที่มาได้ รูปแบบในการปฏิบัติงานในการรวบรวมพยานหลักฐานในการสืบสวนปราบปราม และตรวจสอบทรัพย์สิน อีกทั้งจะสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานไปในทางเดียวกัน ในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่
