ตำรวจ.ปปป. บุกแจ้งข้อหา คณบดี ม.บูรพา จัดโครงการอบรมทิพย์ เลิกกินงบค่าจ้างวิทยากร
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ต.ค.65 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รองผบกปปป.พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ รอง ผบก.รฟ. ช่วยราชการ บก.ปปป.พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปปป. พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป.
นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เดินทางมาที่ มหาวิทยาลัยบูรพา ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี
เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรพงษ์ อายุ 48 ปี คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ นางศญาพัฒน์ อายุ 46 ปี รักษาการหัวหน้าสำนักงานคณบดี
ในความผิดฐาน “เป็นผู้รักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นพนักงานรักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันใช้อํานาจในหน้าที่โดยหารทุจริต,เป็นพนักงาน มีหน้าที่จ่ายทรัพย์ ร่วมกันจ่ายทรัพย์นั้นเกินกว่าที่ควรจ่าย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และ เป็นพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”
สืบเนื่องจากตำรวจ บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มหาวิทยาลัยบูรพา ได้มีการจัดโครงการวิชาการขึ้นเป็นจำนวนมากรวมกว่า 47 โครงการ มีบางโครงการเป็นการจัดทำในลักษณะต้องสงสัยว่าจะมีความไม่ชอบมาพากล หรือ มีการหาผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
จัดกำลังพื้นที่สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบว่ามี 8 โครงการที่พบความผิดปกติในการจัดทำหนังสือเบิกจ่ายเงินค่าดำเนินการ โดยเฉพาะการจัดทำโครงการบริการวิชาการการจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล ภายใต้วงเงินงบประมาณ 1,122,922.70 บาท จัดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 7 ม.ค. 61 ถึง วันที่ 16 ม.ค. 61 โดยมีนายธีรพงษ์ เป็นหัวหน้าโครงการฯ กับ ประธานกรรมการ และมี นางศญาพัฒน์ เป็นกรรมการและเลขานุการ
จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำใบเบิกจ่ายค่าจัดจ้างวิทยากรชาวต่างชาติ 3 คน ในอัตราค่าจ้างคนละ 150,000 บาท รวมเป็นเงิน 450,000 บาท
แต่เมื่อตรวจสอบประวัติการเข้า – ออก ราชอาณาจักรไทย ของวิทยากรทั้ง 3 คน กลับพบว่า มีการเข้ามาในประเทศ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 60 และ ออกจากราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 60 หลังจากนั้นไม่พบข้อมูลการเข้าราชอาณาจักรไทยอีกเลย ทั้งนี้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นคนละช่วงเวลากับที่มีการจัดทำโครงการนี้ด้วย
ผบก.ปปป.กล่าวต่อว่า ส่วนชาวต่างชาติที่สมัครเข้ารับการสัมนาอบรม ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณรายละ 3-4 หมื่นบาท แต่เมื่อสืบสวนแล้วพบว่า แต่ละคนไม่เคยเข้ารับการอบรมเลย แต่มีการจองหัองพักของโรงแรมไว้ไห้ลักษณะเหมือนเป็นการมาเที่ยว รวมถึงโครงการทำขึ้นมานี้ ไม่มีการจัดบรรยายในสถานที่ หรือบรรยายผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์แต่อย่างไร
นอกจากนี้การตรวจสอบอย่างละเอียด ยังพบว่าไม่มีการจัดดำเนินการอบรมสัมมนาตามที่มีการกล่าวอ้าง รวมทั้งโรงแรมที่จัดสัมนายังพบว่าไม่มีการจองห้องประชุม มีแต่เปิดห้องพักให้ผู้สัมนามาพักเท่านั้น ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณ นำมาสู่การเชิญตัวทั้งสองมาแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้
สอบสวนทั้งคู่ให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ไม่หนักใจเนื่องจากพยานหลักฐานที่ได้มามีความแน่นหนา เบื้องต้น นำตัวไปทำบันทึกพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบข้อกล่าวหา ที่ สภ.แสนสุข ก่อนปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบเจ้าหน้าที่อีกครั้งในภายหลัง