เมื่อวันที่ 31 มี.ค.66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้จับกุมปราบปรามการกระทำความผิดทางออนไลน์ รวมถึงการติดตามจับกุมเครือข่ายเป็นธุระจัดหาบัญชี (บัญชีม้า) ในช่วงวันที่ 29 มี.ค.–10 เม.ย.2566
มอบหมายให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค./หน.ด้านปฏิบัติการ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ.ตร./หน.ด้านข่าวสารฯ พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว. สระแก้ว, พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส. สตม3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT4 เข้าตรวจค้นเครือข่ายกลุ่มว่าจ้างให้เปิดบัญชีม้าให้กับเว็บพนันออนไลน์
ทั้งนี้จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้จ้างวานให้ประชาชนทั่วไป โดยชักชวนผ่านสื่อออนไลน์ จึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายค้นพื้นที่ อ.บางกรวย จว.นนทบุรี
ผลการปฏิบัติพบผู้ต้องหาชื่อ น.ส.ภัทรานิษฐ์ (สงวนนามสกุล) พร้อมของกลาง 4 รายการ มีโทรศัพท์ 8 เครื่อง, ไอแพด 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 9 บัญชี และซิมการ์ดโทรศัพท์ 500 ซิม
แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด, เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ (ตามมาตรา 10, 11 พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาญชากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ) นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ดำเนินการ
พล.ต.ท ไตรรงค์ กล่าวว่า จากการสืบสวนกลุ่มว่าจ้างเปิดซิมการ์ดโทรศัพท์ พร้อมรูปสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนนี้ พบว่าข้อมูลดังกล่าวนำไปเปิดบัญชีธนาคารผ่านร้านสะดวกซื้อ สามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมเป็นบัญชีม้าในการรับจ่ายโอนเงินของเว็บพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลุ่มอาชญากรรมผิดกฏหมายต่างๆ
ขอให้ประชาชนได้รับทราบถึงโทษของการเปิดบัญม้า ซิมการ์ดม้า ซึ่งเป็นต้นทางในการเกิดอาชญากรรมออนไลน์ต่างๆ หากท่านใดเคยถูกชักชวนให้เปิดบัญชีม้า ขอให้รีบไปติดต่อธนาคารเพื่อปิดบัญชีโดยเร็ว จะได้ไม่ต้องตกเป็นผู้ต้องหาตาม มาตรา 9 ของ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาญชากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีโทษอาญา จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของซิมการ์ดโทรศัพท์ที่เป็นของกลางนั้น เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป