เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม ศูนย์ประชุมนานาชาติอิมแพ็คเมืองทองธานี
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.พร้อมด้วยรองผบช. ผบก.และข้าราชตำรวจในสังกัด บช.ก.
จัดประชุมเพื่อมอบนโยบายให้กับนายตำรวจตั้งแต่ระดับสารวัตรหัวหน้าสถานีขึ้นไปกว่า 400 นาย
เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ไปในแนวทางเดียวกัน
พร้อมกันนี้ยังได้นิมนต์พระเทพปริยัติมุนี เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร พระอุปัชฌาย์ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. และพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.
มาบรรยายในหัวข้อธรรมะกับงานในหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า นโยบายที่ ผบ.ตร. กำหนดมานั้นดีอยู่แล้ว คือ ตำรวจเป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา ดังนั้นตนจึงมีเรื่องขอแค่ 3 ประการ
ในเรื่องแรกคือการถวายความปลอดภัยพระบรมวงศ์ศานุวงศ์อย่างสมพระเกียรติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่2 คือการผดุงความยุติธรรมที่จะต้องดูแลปกป้องทรัพย์สินของประชาชน โดยจะเน้นไปที่เรื่องการควบคุมและจัดการกับกลุ่มอิทธิพล และดำเนินการตามกฎหมาย
เพราะ บช.ก. เป็นที่คาดหวัง เช่น กองปราบฯเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน เพราะเขาไม่สามารถพึ่งพาตำรวจพื้นที่ได้แล้วจึงมาหาพวกเรา
“ผมอยู่กองปราบปรามมา 18 ปี และอยู่ บช.ก. มารวม 21 ปี ผมอยู่นานมากพอๆกับตำรวจชั้นประทวน
งานของกองปราบฯ เกิดขึ้นเมื่อตำรวจท้องที่เข้าไปทำงานไม่ได้ ตำรวจกองปราบฯก็จะเข้าไป เพราะมีอำนาจทั่วราชอาณาจักร
มีกองกำลังคอมมานโดที่ผมอยู่มาทั้งชีวิต ถือเป็นกองกำลังพิเศษของ ผบ.ตร. เป็นส่วนสำคัญที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน”
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวและบอกต่อว่า ต่อไป บช.ก. จะเป็นหน่วย one stop service โดยราวกลางปีหน้า บช.ก. จะย้ายไปอยู่ที่เดียวกับที่ทำการของตำรวจกองปราบฯ ถ.พหลโยธิน
ที่ต้องย้ายมา เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการเดินทางสะดวกต่อการแจ้งความของประชาชน ทุกหน่วยในสังกัดจะมารวมกันหมดสามารถแจ้งความจบได้ในที่เดียว
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องสุดท้าย คือ เรื่องจิตอาสาพระราชทาน ซึ่งเป็นพระราโชบายของในหลวง
ที่นำมาเป็นตัวเชื่อมให้ประชาชนเกิดความรักความสามัคคี และชี้แจงให้น่วยงานราชการต่างๆเข้าใจ ถึงความตั้งใจของในหลวงที่ให้ทำงานแบบปิดทองหลังพระ
“ที่นี่ตำแหน่งเลือกคนไม่ใช่คนเลือกตำแหน่ง ได้ให้สิทธิผู้การแต่ละบก.ในการแต่งตั้งโยกย้าย เพราะรู้ดีว่าใครเป็นใคร
ไม่ต้องไหว้ครู ชกได้เลย สามารถเริ่มทำงานได้เลย ที่สำคัญจะต้องมีการฝึกและให้ความรู้ทางกฎหมาย และดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด” ผบช.ก. กล่าว
ด้าน พระเทพปริยัติมุนี กล่าวว่า อยากบอกกับเจ้าหน้าที่ทุกนายว่า ว่า เมื่อรับตำแหน่งมาแล้วต้องทำงานอย่างเต็มที่ในตำแหน่งนั้นๆ ตำรวจไม่ว่าสังกัดใดๆก็ตามมีความสำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ส่วนตัวแล้วอาตมารู้จักกับพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ มาตั้งแต่สมัยเป็นรองสารวัตร สังกัดตำรวจท่องเที่ยวมาเนิ่นนาน ท่านเป็นคนใจบุญ จึงได้นิมนต์อาตมา มาเผยแผ่บุญต่อตำรวจทุกนายในครั้งนี้ด้วย
“การทำงานของตำรวจไม่เคยได้หยุดพัก ถ้าคนไม่เสียสละทำไม่ได้ จึงอยากฝากไว้ว่าให้ยกระดับตัวเองพัฒนาตัวเองด้วยความรู้สองอย่าง คือ
1.ความรู้ที่ต้องรู้ คือ กฎหมายที่ตัวเองจะต้องใช้อยู่เสมอ และต้องหมั่นทบทวน เช่น ประมวลกฎหมายอาญา
2.คือความรู้ที่ควรรู้ คือ ความรู้เสริมทำให้ภาระประสบความสำเร็จ จึงจะเกิดประโยชน์ และเป็นตำรวจก็อย่าแบ่งกับประชาชนและขอให้ทำงานอย่างมีสติด้วย” พระเทพปริยัติมุนี กล่าวตีอยังไม่