ไม่กี่วันที่ผ่านมา พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ”โรงเรียนนักสืบกองปราบปราม”
ระยะเวลาในการฝึกอบรม 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. – 4 มิ.ย.61 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม 50 นาย เป็นตำรวจในสังกัด บช.ก.36 นาย นครบาล , ภาค 1 , ภาค 2 , ภาค 7 , บช.ท่องเที่ยว, บช.ส. และบช.ศ.หน่วยละ 2 นาย
สำหรับโรงเรียนสืบสวนกองปราบปราม เป็นไปตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่จะสร้างหน่วยงานให้สามารถเป็นที่พึ่งของสังคมได้อย่างแท้จริง
การเป็นหน่วยสนับสนุนการปฏิบัติของตำรวจพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมาตรฐานสากล จำเป็นจะต้องพัฒนาใน 3 ด้าน คือ Tools , Team , และ Training หรือนโยบาย 3 T
T ที่ 1 ในปี พ.ศ.2561 กองบังคับการปราบปราม ได้รับงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือพิเศษ จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และปรับปรุงศูนย์ข้อมูลอาชญากรรม ประมาณ 80 ล้านบาท
ด้าน T ที่ 2 นับว่าเป็นจุดแข็ง ของกองบังคับการปราบปราม เพราะในคดีสำคัญๆ ทุกคดี นอกจากจะมีทีมบูรณาการภายในหน่วยงาน มีทั้งฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวน ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ ยังได้บูรณาการกับหน่วยงานภายในสังกัด บช.ก. และหน่วยงานอื่นๆเช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น
T ที่ 3 กองบังคับการปราบปราม ได้ให้ความสำคัญในการสร้างบุคคลากรให้มีความรู้ความสามารถทั้งด้านงานเทคนิคสืบสวนสอบสวน และด้านยุทธวิธี มีทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมหลักสูตรพิเศษกับหน่วยงานต่างๆ และมีแผนการฝึกอบรมภายในหน่วยงานเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพบุคคลากร อยู่เป็นประจำ
สำหรับที่มาที่ไปของโรงเรียนนักสืบพล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผบก.ป.และพ.ต.อ.จิรภพภูริเดช รองผบก.ป.เป็นผู้จัดทำโครงการ
ที่มาที่ไป เริ่มจากสมัย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง เป็นผบก.ป.เห็นว่าควรมีการtrainingตำรวจนักสืบ เพื่อแชร์ความรู้ซึ่งกันและกัน โดยแนวทางเป็นลักษณะwork shop จะเรียนกันบ่ายวันจันทร์ของทุกสัปดาห์ตั้งแต่ กพ.-ก.ย.60
นอกจากเป็นการเพิ่มเติมความรู้เทคนิคใหม่ๆในการค้นหาพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ การสืบสวนทางเงินการธนาคาร และยังแชร์ความรู้ซึ่งกันและกัน รวบรวมองค์ความรู้ให้เป็นระบบ สร้างวัฒนธรรมการทำงานร่วมกัน
หมดสมัย one man show
สำหรับโครงการ อบรมทีมบูรณาการเครือข่ายนักสืบเฉพาะทาง” โรงเรียนสืบสวนกองปราบ” มีวัตถุประสงค์ คือ
1. สนองนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผบ.ตร.ในการพัฒนาตำรวจให้เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง
2. สร้าง “นักสืบ” และ “ทีมสืบสวน” ที่ดี มีคุณภาพ มีภาวะผู้นำ เป็นผู้บริหารงานสืบสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการนำดิจิทัลเทคโนโลยี มาใช้ในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด และเพิ่มขีดความสามารถ ในการนำอุปกรณ์เครื่องมือ หรือ Software ที่ทันสมัยมาใช้ในการสืบสวน
4. เป็นการฝึกทบทวนและแลกเปลี่ยนความรู้เทคนิคการสืบสวน
การฝึกให้รู้จักถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับรุ่นต่อไป รวมทั้งการประเมินผล ทำให้เราเห็นแววการทำงานของแต่ละคน
กองปราบมีความจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการสร้างคน เพราะเราแทบจะเป็นหน่วยสุดท้ายที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เหมือนหมอเฉพาะทาง ที่คนไข้แทบจะหมดหนทาง เมื่อมาถึงเราต้องมีทาง
เป็นอีกก้าวของกองปราบปราม หน่วยงานที่พึ่งสุดท้ายที่หมายพึ่งครับ
กากีกลาย23/5/61