จักรทิพย์ ร่วมประชุมคดีหวย 30 ล้านที่กองปราบปราม ขีดเส้นให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ผบ.ตร.เผยส่วนตัวคิดว่าคล้ายคดีครูจอมทรัพย์ ต้องมีผู้ถูกดำเนินคดีแน่ ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจถ้าร่วมอยู่ในขบวนการ ด้านผบช.ก.ยันต้องทำความกระจ่างทุกข้อสงสัย ใครผิดใครถูก ใครมีหน้าที่ทำอะไร ใครเป็นตัวการ หรือสนับสนุน เพราะเชื่อว่าพวกพ้องเป็นคนดี จึงออกมาช่วยกัน
บิ๊กแป๊ะนั่งหัวโต๊ะ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 13 ก.พ. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้เดินทางมายัง บก.ป.เพื่อร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีหวยอลเวง แย่งสิทธิครอบครองลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ กับ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ที่ต่างฝ่ายต่างออกมายืนยันว่าตนเองเป็นเจ้าของลอตเตอรี่รางวัล ที่ 1 ดังกล่าว ด้วยตนเอง โดยมี พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผบช.ก.พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส.พร้อมพนักงานสอบสวนบก.ป.และบก.ปอท เข้าร่วมประชุมที่ห้อง ชิวปรีชา
บิ๊กหมูให้มอง เกิดคดีนี้ได้ยังไง
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวว่า อยากขอเวลาสักนิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง และตอบสังคมได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นกรณีศึกษา เป็นปรากฏการณ์ของสังคม ไม่ใช่เพียงแค่คดีธรรมดาคดีหนึ่ง แต่ต้องมองว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร
ขณะนี้คดียังไม่ถึงกระบวนการในชั้นศาล แต่ทางจิตวิทยาน่าจะตอบคำถามได้ว่า ใครคือเจ้าของที่แท้จริง ใครพูดความจริง ใครพูดโกหก ซึ่งในส่วนของการดำเนินการของตำรวจ คาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนนี้
ถือเป็นกรณีศึกษา
“นี้ถือเป็นกรณีศึกษาของประเทศไทยต้องมีการดูแลประชาชนมากกว่านี้หรือเปล่า ระบบคัดกรองทั้งตำรวจ ทั้งครู ทั้งพระ ทหาร ตำรวจ ทุกสาขาอาชีพ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่นั้น ๆ เพราะทุกคนบอกเป็นคนดีหมดเลย” พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าว
บางคนอาจไม่ได้ตั้งใจ
ผบช.ก.กล่าวอีกว่า สำหรับพยานหลักฐานต่างๆ พนักงานสอบสวน บก.ป.รวบรวมไว้มากพอสมควร ไม่ขอประเมินเป็นตัวเลขว่าคืบหน้าเท่าใด แต่ยืนยันว่าจะทำให้สมบูรณ์ในทุกประเด็น กระจ่างชัดทุกข้อสงสัย รู้ว่าใครผิดใครถูก มีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวบ้าง และทำหน้าที่อย่างไร ใครเป็นตัวการ หรือเป็นผู้ร่วมสนับสนุน ต้องพิจารณาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย บางคนอาจจะไม่ได้ตั้งใจเกี่ยวข้อง แต่อาศัยความเป็นพวกพ้อง และเชื่อว่าคนนี้เป็นคนดี จึงออกมาช่วยกัน
คดีเกิดหลายพื้นที่ ต้องลุยเอง
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ที่ผ่านมาคดีลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ และเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บช.ก. จึงจำเป็นที่จะต้องลงไปทำคดี เพื่อจะได้รู้ว่ามีขบวนการหรือมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ส่วนประเด็นการสืบสวนสอบสวนของ บก.ป.สอดคล้องกับการดำเนินการของตำรวจภูธรภาค 7 หรือไม่นั้น ไม่อยากให้มีการนำไปเปรียบเทียบ
บช.ก.เจอคดีหลากหลายกว่า
ที่ผ่านมาตำรวจ บช.ก. อาจเจอคดีเยอะ หลากหลาย การทำแต่ละคดีต้องระมัดระวัง รอบคอบและละเอียด ส่วนคำให้การของพยานที่ผ่านมาจะขัดแย้งกับข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นไม่ขอเปิดเผย แต่เชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนมีอยู่ ประกอบกับความรู้ ประสบการณ์ซึ่งมีมากพอที่จะทำให้คดีดังกล่าวมีความชัดเจนขึ้นได้ ส่วนกรณีที่นายปรีชา ได้ฟ้องคดีต่อศาลแพ่งจะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่ ในส่วนนี้ไม่ขอกล่าวถึง ขอกล่าวถึงเพียงคดีที่ตนรับผิดชอบเท่านั้น
บิ๊กแป๊ะอยากให้เสร็จใน ก.พ.
หลังการประชุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ ทั้งนี้ได้กำชับ พล.ต.ท.ฐิติราช เกี่ยวกับเรื่องการวางแนวทางสืบสวน และเรื่องของกรอบระยะเวลาที่อยากให้สามารถสรุปผลทางคดีได้ภายในไม่เกินสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ส่วนตัวมองคล้ายคดีจอมทรัพย์
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ผลทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน และยอมรับว่าบางอย่างอาจจะแตกต่าง แต่ไม่ได้ถึงขนาดไปคนละทิศทางกับผลของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยตนเชื่อมั่นในกองปราบว่ามีประสิทธิภาพจะสามารถคลายข้อกังขาของประชาชนได้ ซึ่งในความรู้สึกส่วนตัวยอมรับว่าจะเป็นคดีคล้ายกับกรณีครูจอมทรัพย์ กรณีนี้ต้องมีคนถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว หากพบมีคนเกี่ยวข้องในการทำพยานหลักฐานหรือในส่วนที่ไม่ถูกต้องต้องถูกดำเนินคดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจท้องที่หรือไม่ก็ตาม
รับมีบิ๊กตำรวจพัน
ต่อข้อถามกรณีดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ยอมรับว่ามีบางส่วน แต่ยังไม่ขอกล่าวถึงเพราะเป็นรายละเอียดในสำนวนคดี ต้องตรวจสอบให้แน่ชัด ทั้งนี้ยืนยันว่าคดีนี้เมื่อถึงที่สุดแล้วจะต้องมีผู้ถูกดำเนินคดีแน่นอน ส่วนการที่ตนให้โอนสำนวนคดีมาให้ บก.ป.เนื่องจากมีเหตุผล 3 ส่วน คือ 1.เรื่องของการไม่ได้รับความเป็นธรรม 2.ประชาชนให้ความสนใจ และ 3.มีการกระทำเป็นขบวนการ