พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรียกประชุมติดตามความคืบหน้า คดีฆ่ายกครัว เร่งติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งขบวนการ พร้อมประสานงานกัมพูชาล่าตัวนายทุนจีน
จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 เกิดเหตุสลดกรณีนายสาณิช อายุ 42 ปีฆ่าปาดคอภรรยาและบุตรชายอีก 2 คน เสียชีวิตภายในบ้านตนเองพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทร ปราการ ก่อนพยายามปาดคอตนเองเพื่อหนีความผิดแต่แค่บาดเจ็บสาหัส
สาเหตุเกิดมาจากเป็นหนี้สินจำนวนมากจนทำให้ถูกยึดบ้าน ประกอบกับถูกแก๊งคอลเซ็น เตอร์หลอกเงินไป 1.7 ล้านบาท รู้สึกเครียดและหมดหนทางจนก่อเหตุดังกล่าว ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สืบสวนขยายผล เนื่องจากมูลเหตุในการก่อเหตุดังกล่าวมีความเกี่ยวเนื่องกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง
วันที่ 30 ส.ค.66เวลา 11.00 น.ณ ห้องประชุม สภ.บางแก้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าการสืบสวนขยายผลในส่วนของคดีฆ่านั้น เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับดำเนินคดีนายสาณิชฯ ผู้ก่อเหตุในคดีนี้ไว้แล้ว นายสาณิชฯ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอายัดตัวไว้แล้ว
ส่วนการขยายผลดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น สืบสวนพบบัญชีที่ถูกใช้ในการรับโอนเงินจากการหลอกลวงประชาชน ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับเจ้าของบัญชีม้าแล้ว 11 รายติดตามจับกุมได้แล้ว 2 ราย ผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นเจ้าของบัญชีม้าที่อยู่ในจ.สระแก้ว ทำหน้าที่กดเงินสดออกจากบัญชีและข้ามแดนนำไปให้นายทุนชาวจีนซึ่งอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา
รวมทั้งเข้าตรวจค้นตามหมายค้นเป้าหมายอีกหลายจุดชายแดน จว.สระแก้ว ตรวจยึดบัญชีธนาคาร เงินสด และบัตรเอทีเอ็มอีกหลายรายการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังสั่งการให้ขยายผลดำเนินคดีกับนายทุนชาวจีนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยจะไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาด้วยตนเอง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นเหตุสลด ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สาเหตุของการก่อเหตุฆาตกรรมดังกล่าว เกิดจากปัญหาหนี้สินและการถูกหลอกเงินจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง
ได้สั่งการให้มีการขยายผลดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ให้หมดทั้งขบวนการสืบสวนทราบว่า กลุ่มนี้มีนายทุนจีนเป็นหัวหน้าอยู่ที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ดังนั้นจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายทุนจีนกลุ่มนี้เพื่อนำตัวมาลงโทษให้ได้หลังจากนี้จะเดินทางไปประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา เพื่อขอให้ติดตามตัวผุ้ต้องหากลุ่มนี้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยจนถึงที่สุด
