สวนสัตว์เปิดเขาเขียวทดลองปล่อยนกกระสาคอขาวคืนสู่ธรรมชาติ ระยะที่ 2 เพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ หลังปล่อยนกเกรียนพันธุ์ไทย จนขยายพันธุ์เองได้สำเร็จ มั่นใจแหล่งชุ่มน้ำจังหวัดบุรีรัมย์ เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ของนกใกล้สูญพันธุ์
วันที่ 4 ส.ค.66 ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ. บุรีรัมย์ นายสิงหชัย ผ่องบุรุษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับนายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว พร้อมคณะเจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ และหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง
ร่วมกันเปิดงาน “โครงการปล่อยนกกระสาคอขาวคืนสู่ธรรมชาติ ระยะที่ 2 เพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ. บุรีรัมย์”
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้พยายามในการดำเนินการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ นกกระสาคอขาวที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งของประเทศไทย มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2535 และประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์ต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และเพื่อให้เป็นไปตามพันธะกิจหลักขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าหายาก
ทั้งในถิ่นอาศัยและนอกถิ่นอาศัย จึงได้ร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม บริษัทแปซิฟิคเฮลล์แคร์ จำกัด(มหาชน), โรงพยาบาลสัตว์พรีเมี่ย, Save our souls bird and turtle
ได้ดำเนินการนำนกกระสาคอขาว 5 ตัว ฟื้นฟูพฤติกรรมในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ในวันที่ 16 พฤษภาคม 66 จนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการส่งเสริมและฟื้นฟูพฤติกรรมในด้านต่างๆของนกกระสาคอขาวก่อนทำการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในระยะที่ 2 ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จ. บุรีรัมย์
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ และวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ผ่านมา
นายสิงหชัย ผ่องบุรุษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการทดลองปล่อยนกกระสาคอขาวมาแล้วก่อนหน้านี้ 14 ตัว ยังพบว่ายังใช้ชีวิตตามปกติ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 จำนวน 5 ตัว
รองผู้ว่าฯกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์ ประสบความสำเร็จในการปล่อยนกเกรียนพันธุ์ไทยมาแล้ว ปัจจุบันมีชาวบ้านพบเห็นและอาศัยอยู่กับชาวบ้านได้แล้ว สามารถวางไข่ตามทุ่งนาของชาวบ้าน กลายเป็นความผูกพันซึ่งกันและกัน ชาวบ้านเมื่อทราบว่านกเกรียนพันธุ์ไทยไปอยู่ที่นาของตนเอง จะแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ ทุกคนทราบกันดีว่า”จะไม่ไปรบกวน” จึงอยากจะฝากถึงชาวจังหวัดบุรีรัมย์ หรือจังหวัดใกล้เคียง หากพบนกกระสาคอขาว ให้ช่วยกันดูแลเพราะถือเป็นนกหายากใกล้สูญพันธุ์ เพื่อให้ลูกหลานไว้ศึกษาต่อไป
