ปส.ทลายเครือข่ายยานรก ยึดเครื่องอัดแท่งกัญชา พบวิธีซุกใหม่ สอดไส้ยาเคใส่กัญชา
สายวันที่ 7 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรชัย. เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.
,พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส.และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3
แถลงผลจับกุมและสกัดกั้นผู้ค้ายาเสพติด รายใหญ่3คดี
พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า คดีที่ 1 จับกุมนายพีรพัฒน์ อายุ 24 ปี น.ส.จริยา อายุ 24 ปี
ของกลางกัญชาอัดแท่ง 400 กก.รถตู้ฮุนได เอช 1 สีน้ำเงิน ข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมีกัญชาไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ
จับกุมได้ที่ถนนนิตโย หน้าไปรษณีย์สว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลังลอบลำเลียงจากชายแดน จ.นครพนม มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ
คดีที่ 2 จับกุมนายทรงกลด อายุ 40 ปี นายชัยศรี อายุ 63 ปี และ น.ส.รัชนก อายุ 36 ปี
พร้อมยาบ้า 1.4 ล้านเม็ด รถยนต์กระบะอีซูซุ ในข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย
จับกุมได้หน้าซอยทางเข้าหมู่บ้านแม่ปะดอย อ.เถิน จ.ลำปาง หลังขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดได้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยึดของกลางยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด
คนร้ายใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุของกลาง เดินทางจากพื้นที่ภาคกลางขึ้นมาทางภาคเหนือ และขับตามกันขึ้นไปถึง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่รับยาเสพติด แล้วเดินทางกลับลงมา
เมื่อถึงด่านตรวจวังดิน อ.ลี้ จ.ลำพูน ชุดจับกุมเรียกตรวจ แต่ไม่ยอมหยุดรถ ซ้ำขับเบียดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหลบหนี
เจ้าหน้าที่ติดตามพบว่าถูกจอดซุกซ่อนอยู่ในซอยเข้าหมู่บ้านแม่ปะดอย อ.เถิน จ.ลำปาง จึงจัดกำลังซุ่มเฝ้าดู
จากนั้นมีรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส ขับมาจอดมีนายทรงกลด เป็นคนขับ และนายชัยศรี นั่งมาด้วย ส่วน น.ส.รัชนก ลงไปเปิดรถกระบะ
ชุดจับกุมคุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด เมื่อตรวจค้นรถยนต์กระบะ พบยาบ้าของกลางกว่า 1.4 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นอนเก่าและสุ่มไก่เหล็กในกระบะ
สอบสวนผู้ต้องหารับว่า รับคำสั่งจากนายอิฐ ที่ร่วมกันทำธุรกิจรับถมที่ดิน โดยได้ตั้งไลน์กลุ่มชื่อ “ทีมงานคนใต้นิ”
ทั้งนี้นายอิฐ สั่งให้ผู้ต้องหาทั้งสาม มานำรถกระบะของกลางดังกล่าวออกไป โดยให้ไปเอากุญแจรถที่ซ่อนไว้ในช่องของฐานรองแผ่นโต๊ะหินอ่อนที่ตั้งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อที่สามแยกดอนไชย อ.เถิน จ.ลำปาง
ต่อมาชุดจับกุมขยายผลตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสามคน ยึดทรัพย์สินไว้ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ
เป็น บ้านพร้อมที่ดิน 2 หลัง และโฉนดที่ดินอีกหลายรายการ มูลค่าประมาณ 18,000,000 บาท, รถยนต์ 1 คัน 500,000 บาท
อายัดเงินในบัญชี 3,705,232 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด 22,205,232 บาท
คดีที่ 3 จับกุมนายมงคล อายุ 31 ปี,นายธนบดี อายุ 48 ปี,น.ส.บุษยาภรณ์ อายุ 36 ปี,นายนิโรจน์ อายุ 35 ปี,นายบุญพร้อม อายุ 30 ปี และ น.ส.ภัทรชา อายุ 38 ปี
พร้อมกัญชา 2,000 กิโลกรัม,เคตามีน 6 กิโลกรัม,รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า
ในข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ
จับกุมได้ริมถนนสายหนองหาน-กุมภวาปี หมู่ 4 ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ต่อเนื่องริมถนน หมู่ 7 ต.บ้านจืด อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี และพื้นที่หมู่ 5 ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
ชุดจับกุม พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า มีตู้ทึบฝาปิดท้ายกระบะ และรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า กับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ขับตามกันมาโดยทิ้งช่วงห่างเป็นระยะบริเวณถนนสาย อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
เมื่อขอตรวจค้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า มีนายมงคล เป็นคนขับ พบกัญชาแห้งอัดแท่ง ภายในซุกซ่อนเคตามีนวางอยู่ในกระบะหลัง
ส่งพนักงานสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนตรวจยึดรถยนต์ 21 คัน รวมมูลค่านับสิบล้านบาท
รวมถึงที่ดิน 7 ไร่ ใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่ตรวจพบเครื่องอัดแท่งกัญชา โดยการสืบสวนพบว่าเป็นเพียงการย่อขนาดกัญชาให้เล็กลง ผู้ต้องหาไม่ได้ผลิตเองแต่นำกัญชาเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน