ระทึก กองปราบ ล้อมจับหนุ่มคลั่งยา พกปืน 2 กระบอก กระสุนครึ่งร้อยหวังบุกชิงลูกที่โรงเรียน
วันที่ 7 ต.ค.65 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปิดล้อมจับกุมชายเมายาบ้า คลุ้มคลั่งพกปืนจะไปชิงตัวลูกวัย 7 ขวบ ที่โรงเรียน ในพื้นที่ ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่หวาดกลัวว่า จะเกิดเหตุการณ์ร้ายเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู เพราะพฤติดรรมของผู้กาอเหตุนั้นลักษณะคุ้มคลั่งรวมทั้งมีอาวุธปืนด้วย
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5.บก.ป. ที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ทำกิจกรรมจิตอาสา อยู่ใกล้เคียง รีบนำกำลังไปตรวจสอบ พบรถกระบะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงขับรถจอดประกบด้านขวา เพื่อแสดงตัว
ขณะลงจากรถคนร้ายได้ถอยรถไปชนกับรถสายตรวจกองปราบที่จอดปิดท้ายไว้อย่างแรง จนได้รับความเสียหาย จากนั้นคนร้ายยังได้ขับรถพุ่งชนรถเก๋งอีกคนของเจ้าหน้าที่อีก ทำให้ไม่สามารถขับต่อไปได้
เมื่อตำรวจที่ปิดล้อมอยู่สังเกตุเห็นคนร้ายเปิดประตูลงจากรถ ล้วงอาวุธปืนพกสั้นออกมา เจ้าหน้าที่จึงได้รีบเข้าชาร์จและควบคุมตัวเอาไว้ได้ดังกล่าว ทราบชื่อนายธีระพงษ์ อายุ 34 ปี ชาวอ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
จากการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 17 เม็ด ปืน9 มม. ขึ้นลำพร้อมยิง เครื่องกระสุนปืน 10 นัด ปืนยาวเดี่ยวลูกกรด .22 พร้อมกระสุน 5 นัด กระสุนปืน .22 จำนวน 50 นัดและยังพบเพื่อนผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในรถด้วย
สอบสวน นายธีระพงษ์ รับสารภาพ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้ามา 2 เม็ด จากนั้นทะเลาะกับภรรยา จนเกิดความเครียดชวนเพื่อนมารับลูกที่โรงเรียนแต่ถูกจับกุมเสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ, ร่วมกันพาอาวุธปืนฯ, มียาบ้าไว้ในครอบครองฯ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)และทำให้เสียทรัพย์” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ เบื้องต้น เป็นลักษณะการ Copy cat หรือพฤติกรรมเลียนเเบบจากเหตุที่เกิดขึ้นในอดีต ิเมื่อวานนี้ก็เพิ่งเกิดเหตุสลดขึ้น โดยตำรวจสอบสวนกลาง เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยได้
ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ รีบสั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเข้าตรวจสอบทันที โดยขณะนั้นตำรวจ กก.5 บก.ป. กำลังทำกิจกรรมจิตอาสาบริเวณใกล้เคียงอยู่พอดี ทำให้สามารถระงับเหตุได้ทันท่วงที
มีรายงานว่า ระหว่างที่ทราบข่าวว่ามีคนเมายาบ้าถือปืนจะบุกเข้าไปโรงเรียนเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก ทำให้บรรดาผู้ปกครองต่างตกใจกลัว รีบเดินทางมารับลูกๆ กลับบ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุเศร้าสลดเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู
