Wednesday, October 30, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันผบช.ก.แถลงผล ”Shut down one billion Hybrid Scam”ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

    ผบช.ก.แถลงผล ”Shut down one billion Hybrid Scam”ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

    สอบสวนกลางแถลงผลปฏิบัติการ ”Shut down one billion Hybrid Scam” ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ยัน กีกี้ แม็กซิม นางแบบสาวร่วมด้วย พร้อมขยายผลออกหมายจับเพิ่ม

    วันที่ 31 ส.ค.66-ที่ ห้องประชุมชั้น 2 บก.ป. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต. วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. พร้อมด้วย ตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , สำนักงานอัยการสูงสุด, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)

    ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ”Shut down one billion Hybrid Scam” ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลังนำเจ้าหน้าที่กว่า 270 นาย พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมานกองปราบ” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 30 จุด ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร , สมุทรปราการ ,ชลบุรี และอุดรธานี

    จากปฏิบัติการดังกล่าวเจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ 9 คน น.ส.เบียน ฉี ( MISS BIAN QI ) อายุ 40 ปี ชาวจีน ทำหน้าที่กลุ่มบริหาร เปิดบริษัทในประเทศไทย เพื่อฟอกเงิน

    น.ส.ไช่ ผิงเฝย ( MISS PENGFEI CAI ) อายุ 32 ปี ชาวจีน ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า และกระเป๋าวอลเล็ตม้า

    น.ส.อัจฉรา อายุ 28 ปี ทำหน้าที่เป็นกลุ่มบริหาร รวบรวมบัญชีม้า, กระเป๋าวอลเล็ตม้า, ขายเหรียญคริปโต และนำเงินสดไปส่งมอบให้หัวหน้าเครือข่าย

    น.ส.จักรีณา หรือ กีกี้ แม็กซิม อายุ 28 ปี ทำหน้าที่ขายเหรียญคริปโต และนำเงินสดไปส่งมอบให้หัวหน้าเครือข่าย ทั้ง4 คนนี้ถือเป็นผู้ต้องหาระดับหัวแถวใกล้ชิดกับหัวหน้าแก๊งชาวจีน

    นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ที่ทำหน้าที่ เปิดบัญชีม้า และกระเป๋าวอลเล็ตม้า ประกอบด้วย น.ส.ภัสรา อายุ 26 ปี นายณัฐฐินันท์ อายุ 30 ปี น.ส.สุภาวินี อายุ 32 ปี น.ส.สุมาลี อายุ 34 ปี และ น.ส.ศิริวรรณ อายุ 30 ปี  

    ผู้ต้องหาทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง,นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน

    จากการเปิดปฏิบัติการตรวจยึดของกลาง บ้านหรู 17 หลัง, รถยนต์หรู ลัมโบกีนี เบนท์ลี่ย์ เมอเซเดสเบนซ์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู และรถตู้อัลพาร์ท รวม 12 คัน,เงินสดกว่า 6 ล้านบาท, สร้อยคอทองคำกว่า 10 รายการ, นาฬิกาหรู,กระเป๋าแบรนด์เนม, คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ก, โทรศัพท์มือถือ, สมุดบัญชีธนาคารหลายรายการ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 1,000 ล้านบาท

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า  ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (ไฮบริดสแกม) ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงคนควบคุมบัญชีม้า , คนรับจ้างเปิดบัญชีม้า และคนที่ดูแลเรื่องฟอกเงินตามหมายจับ 14 คน จับผู้ต้องหาได้ 9 คน เป็นชาวจีน 2 คน และคนไทย 7 คน ในจำนวนนี้มี น.ส.จักรีณา หรือ กี้กี้ แม็กซิม นางแบบสาวเซ็กซี่รวมอยู่ด้วย

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ส่วนที่มาของปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายใช้ Facebook ปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดีเข้ามาพูดคุยตีสนิท จนผู้เสียหายไว้เนื้อเชื่อใจ หลอกชักชวนให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ผ่านเว็บไซต์ชื่อ CBOEX เป็นแอปพลิเคชั่นที่กลุ่มคนร้ายปลอมขึ้นมาทั้งหมด ทำให้มีลักษณะคล้ายกับแอปพลิเคชันดั้งเดิมที่ใช้ชื่อ CBOE ปัจจุบันได้ปิดไปแล้ว

    คนร้ายจะแนะนำให้ผู้เสียหายสมัครเปิดบัญชีกับแพลตฟอร์มเทรดสกุลเงินดิจิทัลของไทยเพื่อสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล ไปซื้อเหรียญดิจิทัลสกุลเงิน USDT ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว จากนั้นคนร้ายได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเหรียญดิจิทัลเข้าไปยังกระเป๋าเหรียญดิจิทัลของคนร้าย มีการแจ้งยอดผลกำไรจากการลงทุนให้แก่ผู้เสียหาย ยิ่งทำให้หลงเชื่อโอนเงินไปลงทุนเพิ่มอีก รวมเป็นเงินความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

    พล.ต.ต.อธิป กล่าวว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและเส้นทางของเหรียญดิจิทัลของผู้เสียหายพบว่า มีการโอนจากกระเป๋าผู้เสียหายไปยังกระเป๋าเหรียญดิจิทัลส่วนตัวกว่า 20 กระเป๋า จากนั้นจะนำมาเข้าบริษัทนอมินีและบริษัทกฏหมาย ที่กลุ่มคนร้ายตั้งขึ้นเพื่อฟอกเงิน ที่ได้จากการกระทำผิด

    โดยให้นอมินีคนไทย 3 คนถือหุ้น 51 เปอร์เซ็น คนจีนถือหุ้น 49 เปอร์เซ็น เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ก่อนจะเทขายเวินดิจิตอบเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทย นำไปซื้อบ้านหรู รถหรู และทรัพย์สินมีค่าต่างๆ  พบว่าในปี 2565 คนร้ายแก๊งนี้มีการขายเหรียญดิจิทัลที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนมีเงินหมุนเวียนกว่า 1000 ล้านบาท

    “ส่วนรูปแบบการกระทำความผิดพบว่าทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ คือ ระดับหัวหน้าสั่งการ , กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ติดต่อพูดคุยหลอกลวงเหยื่อ , กลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้า และกระเป๋าเงินดิจิทัลม้า , กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า และกระเป๋าเงินดิจิทัลม้า และกลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน โดยนำเงินไปซื้อทรัพย์สินมีค่า และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ”

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายผลจับกุมคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกๆ ที่สามารถขุดรากถอนโคนตั้งแต่ผู้เปิดบัญชีม้าไปจนถึงตัวการสั่งการระดับหัวหน้า สามารถอายัดทรัพย์สินได้จำนวนมาก จากการขยายผลตรวจสอบข้อมูลของบริษัทนอมินี และคนไทยที่เป็นนอมินี ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายพบว่า มีการครอบครองบ้านหรู 17 หลัง , รถยนต์หรู 11 คัน , เงินสดกว่า 6 ล้านบาท , ทองรูปพรรณกว่า 10 รายการ , นาฬิกาหรู , กระเป๋าแบรนด์เนม , คอมพิวเตอร์ , โทรศัพท์มือถือ และสมุดบัญชีธนาคารหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ได้ตรวจยึดส่งให้ ปปง. ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์ต่อไป ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 5 คนที่ยังหลบหนี และจะขยายผลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมต่อไป

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า ส่วนบริษัทกฏหมานที่อยู่มนเครือข่ายนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นกังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะเริ่มสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีดังกล่าวนั้น ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีทำงานด้วยความรอบครอบ เก็บรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด อีกทั้งทางตำรวจเองมีทางสำนักงานอัยการสูงสุด คอยให้คำปรึกษาแนะนำต่างๆ ส่วนบริษัทกฎหมายดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกับการร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานข้อเท็จจริง

    รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการสืบสวนแกะรอยคนร้ายแก๊งนี้ ต้องใช้เวลานานหลายเดือน เนื่องจากแก๊งคนร้ายนั้นใช้วิธีแยบยลในการหลอกลวงและกระจายเงิน เพราะมีการใช้ระบบเงินดิจิตอล ทำให้ยากต่อการตรวจสอบด้วยวิธีทั่วไป ทั้งนี้หลังได้ข้อมูลจากผู้เสียหายเจ้าหน้าที่กก.1.บก.ปอท. ต้องสืบสวนตามแกะรอยเงินดิจิตอลตามกระเป๋าเงินวอลเล็ทต่างๆทำให้ยากต่อการตรวจสอบแต่ละเส้นเงิน จนสุดท้ายสามารถขยายกลุ่มผู้ต้องหาและเส้นทางการเงินได้ทั้งขบวนการ

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments