ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และมอบทุนการศึกษา ตำรวจ บก.น.2 และ สน.สายไหม ย้ำทำงานเชิงรุกเร่งแก้อาชญากรรม ยาเสพติด คดีออนไลน์ โดยใช้เทคโนโลยี ดึงภาคประชาชนมาร่วม พร้อมให้ดูแลสวัสดิการลูกน้อง กำชับตำรวจหมั่นพัฒนาตนเอง เป็นตำรวจมืออาชีพ ให้ภาคภูมิใจในอาชีพ คอยบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน
วันที่ 7 ส.ค.66 ณ ห้องประชุม บก.น.2 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และทุนการศึกษาแก่บุตรตำรวจในสังกัด บก.น.2 มี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ท.สมนึก น้อยคง และ พล.ต.ท. พัฒนา เพศยนาวิน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. , พล.ต.ต.จิระสันต์ แก้วแสงเอก พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรบุณยสิริ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม พล.ต.ต.สยาม บุญสม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พร้อมข้าราชการตำรวจ เข้าร่วม
สำหรับ บก.น.2 เคยเป็นสถานที่ทำงานของ ผบ.ตร.เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบก.น.2 ปี 2554 ประสบปัญหาน้ำท่วมและการชุมนุมประท้วง ตำรวจต้องคอยดูแลช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤติ แต่ผ่านพ้นไปด้วยดี ได้รับความชื่นชมจากประชาชนเพราะความร่วมมือของตำรวจ บก.น.2 ทุกนาย
ผบ.ตร.ได้สักการะพระพุทธรัชมงคลบดีศรีประชาพิทักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ บก.น.2 ก่อนที่จะขึ้นแท่นรับความเคารพ มอบสิ่งของบำรุงขวัญ มอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.น.2 จำนวน 260 ทุน จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้ไปติดตามผลการปฏิบัติงานของตำรวจนครบาล ที่ห้องประชุม บก.น.2 มี ผบช.น. รอง ผบช.น. ผบก.ในสังกัดเข้าร่วม และ ผกก.ทุก สน.ประชุมผ่านระบบวีดีโอทางไกล
ผบ.ตร.ได้กล่าวขอบคุณ ตำรวจในนครบาลทุกนาย แม้จะมีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก ภาระงานที่มากที่สุดของประเทศ แต่ที่ผ่านมาทำงานได้เป็นอย่างดี ขอให้ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน ทั้งการตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อย ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การช่วยเหลือประชาชน การบันทึกข้อมูล เพื่อบริหารจัดการงานต่างๆ เน้นการดึงเอาภาคประชาชน กต.ตร.เข้ามามีส่วนร่วม สนับสนุนช่วยเหลือการทำงาน และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดที่มีอยู่ตามชุมชน ต้องใช้ชุมชนยั่งยืนเข้มแข็งแก้ไข ให้ยาเสพติดหมดไป ออกนอกพื้นที่ให้ได้ ให้ชุมชนสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง เกิดความยั่งยืนทั้งระบบ มีการดูแลสวัสดิการตำรวจในนครบาลที่ต้องตรากตรำทำงานอย่างหนัก ทั้งการซ่อมแซมแฟลตอาคารที่พัก จัดหาแฟลตเพิ่ม ให้ทุนการศึกษาตำรวจ และบุตรข้าราชการตำรวจ รวมทั้งสวัสดิการด้านอื่นๆ
นอกจากนี้ คดีออนไลน์ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากในนครบาล ที่ระบาดอย่างหนัก ต้องช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พนักงานสอบสวนไม่เกี่ยงรับคดี ให้มี บช./บก. ลงมาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติของ สน. มีการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้าอย่างต่อเนื่อง และจัดแถลงข่าวประขาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ต้องทำให้ตำรวจนครบาลทุกนายเป็นครูไซเบอร์
รวมทั้งดึงเอาภาคประชาชน ส่วนราชการมาร่วมให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันวัคซีนไซเบอร์ ให้ประชาชนรู้ทันภัยโกงออนไลน์รูปแบบต่างๆ ทุกกองบังคับการต้องมีการวิเคราะห์สภาพอาชญากรรม คดีออนไลน์ในพื้นที่ เพื่อปราบปรามและหาวิธีการป้องกัน เช่น การประสานคอนโด อพาร์ทเม้น ประชาสัมพันธ์ ติดคิวอาร์โค้ท ให้ความรู้กลโกงต่างๆ ให้ทั่วถึง เข้าถึงประชาชนโดยเร็ว สะดวก และมากที่สุด
โดยในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ก่อนที่จะเดินทางมายัง บก.นก.2 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พร้อมคณะยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่ตำรวจ สน.สายไหม
สน.สายไหม เดิมตั้งอยู่ที่อาคารพาณิชย์ ซอยสายไหม 6 ซึ่งคับแคบ ประชาชนเข้าออก มาใช้บริการไม่สะดวก ในปี พ.ศ 2554 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็น ผบก.น.2 เห็นว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนและตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ เห็นควรจะหาสถานที่ก่อสร้าง สน.แห่งใหม่ ได้ใช้ความพยายาม ทุ่มเท อุตสาหะ หลายต่อหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ
จนกระทั่ง พระครูโสภณภัทรเวทย์ หรือพระอาจารย์อ๊อด ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ผบ.ตร. ก็ไม่ละความพยายาม ได้ไปกราบขออีกครั้ง ความสำเร็จจึงเกิดขึ้น นับว่าเป็นความเมตตาของพระครูโสภณภัทรเวทย์ และเป็นความทุ่มเท อดทน ของ ผบ.ตร. ที่ทำให้ สน.สายไหม ได้ย้าย มายังสถานที่แห่งนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ซึ่งมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้กราบนมัสการ พระครูโสภณภัทรเวทย์ มอบวัตถุมงคลแก่ตำรวจ และ มอบสิ่งของบำรุงขวัญ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติบนสถานีตำรวจ พบปะประชาชน และตรวจเยี่ยมอาคารที่พักของตำรวจ สน.สายไหม โดยสั่งการให้ สน.สายไหมปรับปรุงที่สันทนาการภายในสถานีเพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชน
ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้กล่าวให้โอวาท กับข้าราชการตำรวจ สน.สายไหม ใจความส่วนหนึ่งว่า “ หน้าที่สำคัญที่สุดของพวกเรา คือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบ หรือ นอกเครื่องแบบ ไม่ว่าจะในหรือนอกเวลาราชการ ในสายตาประชาชน เราก็เป็นตำรวจอยู่ดี เราต้องทำตัวให้เป็นที่พึ่ง ขอให้พวกเราภาคภูมิใจกับอาชีพ
ตำรวจเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ เป็นอาชีพที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าตำรวจนครบาล จะเหน็ดเหนื่อย ทำงานหลากหลายภารกิจมากที่สุด แต่ว่าเมื่อเราตั้งใจมาเป็นตำรวจแล้ว ขอให้มีทัศนคติว่าเราต้องทำงานอย่างมีความสุข จากการที่ได้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ทุกสายงานมีความสำคัญหมดทั้งป้องกันปรามปราม สืบสวนสอบสวน จราจร สายอำนวยการที่คอยสนับสนุนข้อมูล ต้องช่วยกันเพื่อช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาประชาชนในพื้นที่
ขอให้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ให้เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก โดยศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หมั่นทบทวนยุทธวิธี มีการวางแผนการทำงาน ทบทวนการปฏิบัติ ปฏิบัติงานโดยยึดอุดมคติตำรวจเป็นที่ตั้ง เน้นรักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันตนเอง อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ให้มีความพร้อมเสมอ