Sunday, November 24, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวัน”ผู้ช่วยหวาน“แถลงสืบภาค2ทลายแก๊งคอลเซนเตอร์เหิมเช่าบ้านทำออฟฟิศใน จ.ชลบุรี

    ”ผู้ช่วยหวาน“แถลงสืบภาค2ทลายแก๊งคอลเซนเตอร์เหิมเช่าบ้านทำออฟฟิศใน จ.ชลบุรี

    ตามนโยบายของทางรัฐบาลมีข้อสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี โดยให้สืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิด และเร่งแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนโดยด่วน

    วันที่7ส.ค.67 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศปอส.ตร. , พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 ได้ทำงานสนองตามนโยบาย และสืบสวนจับกุมอย่างต่อเนื่อง

    ตามที่ได้มีมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร ตัดซิม เสา สาย ตามแนวชายแดน” ที่กลุ่มมิจฉาชีพแก๊งคอล เซนเตอร์ใช้ในการหลอกลวงเหยื่อทั่วประเทศ จนทำให้สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศที่แก๊ง คอลเซนเตอร์ใช้หมดลง หรือไม่สะดวกต่อการใช้งาน

    แก๊งคอลเซนเตอร์จึงปรับตัว ลักลอบนำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และพนักงานในแก๊ง มาตั้งเป็นออฟฟิศคอลเซนเตอร์หลอกลวงประชาชนในประเทศไทย  การจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่จับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงประชาชนชาวไทยโดยตั้งออฟฟิศอยู่ในประเทศ

    เมื่อวันที่ 5 ส.ค.67 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2  สืบทราบว่า มีขบวนการ แก๊งคอลเซนเตอร์ ใช้บ้านในหมู่บ้านดิไอคอน ม.9 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตั้งเป็นออฟฟิศทำงาน  เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  ไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบชายไทย 4 คน ทราบชื่อภายหลัง คือ นายชนาภัทรฯ (สงวนนามสกุล) , นายโชคชัยฯ (สงวนนามสกุล) , นายชิชณุพงษ์ฯ (สงวนนามสกุล) และนายจีรวัฒน์ฯ (สงวนนามสกุล)

    จากการตรวจค้นพบว่าภายในบ้านมีคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะิ 10 เครื่อง และพบข้อมูลการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์  ทั้งหมดรับว่าร่วมกันเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตั้งเพจเฟซบุ๊คหลอกช่วยเหลือเหยื่อยิงแอดโฆษณา หลอกว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ หรือทนายความ ที่สามารถช่วยเหลือเหยื่อในการทำเรื่องฟ้องร้อง  และทำให้ได้เงินที่ถูกหลอกไปกลับคืนมา โดยหลอกซ้ำเติมเหยื่อให้โอนเงินเข้ามาเพื่อลงทะเบียนในการช่วยเหลือ

    นอกจากนี้ยังมีการหลอกลวงในรูปแบบโรแมนซ์สแกม (หลอกให้รัก)จะมีสคริปต์การพูดหลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้  

    รายละเอียด คลิกhttps://policenewsvarieties.com/รู้ทันเล่ห์แก๊ง-call-center-จากสค/

    ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดพบว่ามีการสนทนากับเหยื่อในแอปลิเคชันเมสเซ็นเจอร์เฟซบุ๊ค และแอปพลิเคชันไลน์ออฟฟิศเชียลเป็นจำนวนมาก

    เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบการกระทำความผิด ครอบครองอาวุธปืนพกสั้น แบบกึ่งอัตโนมัติ , เครื่องกระสุนปืน และเสพยาเสพติด  ได้จับกุมและแยกดำเนินคดีที่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

    จากการขยายผลทำให้ทราบว่าขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์นี้ มีหัวหน้ากลุ่มเป็นชาวจีน คือ Mr.ZHOU หรือ นายเจ้า สัญชาติจีน , มีรองหัวหน้า คือ Mr.CHEN หรือ ปีเตอร์ สัญชาติจีน และมีเลขาเป็นคนไทย คือ นายภาวัตฯ หรือ เหว่ย มีพฤติกรรมทำธุรกิจเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ , ค้ามนุษย์ , บ่อนการพนัน และฟอกเงินฯ

    ต่อมาได้ขยายผลและขออนุมัติศาลขอหมายค้นอีก 3 จุด ในกทม.หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยทราบว่าหัวหน้าและรองหัวหน้าคนจีนได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ซึ่งกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ได้ขยายฐานออฟฟิศมาประเทศไทย เนื่องจากความไม่สะดวกเรื่องการติดต่อสื่อสารและสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ต่างประเทศ จึงกล้าเสี่ยงมาเปิดออฟฟิศในประเทศไทย

    โดย บก.สส.ภ.2 จะสืบสวนและขยายผลผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดดำเนินคดีในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน” มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และจะติดตามผู้เสียหายซึ่งถูกแก๊งคอลเซนเตอร์นี้หลอกลวง เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานฟอกเงินต่อไป

    หากใครเป็นผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์นี้หลอก สามารถให้ข้อมูลได้ที่ บก.สส.ภ.2 หมายเลขโทรศัพท์ 038 276 724 เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments