สืบนครบาล รวบ 2วัยรุ่นรังสิต ยึดยาไอซ์ 80 กิโล พร้อมยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน หลังถูกจับฝากขังทั้งคู่ที่สน.พญาไทออกอุบายทำร้ายสืบเวรก่อนหลบหนี ก่อนมอบตัวที่สีดาโคราช
วันที่ 17 กันยายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย และ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น.
สั่งการให้ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ, พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.
จับกุมนายอ้น อายุ 23 ปี ชาวอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และนายนิพนธ์ อายุ 31 ปี ชาวสายไหม กรุงเทพมหานคร
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.ยาไอซ์80 กิโลกรัม คีตามีน ชนิดผงสีขาว 38.14 กรัม คีตามีน ชนิดผงสีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสกดปิดดึงเปิด 1 ซอง น้ำหนักรวมถุงรวมหลอดพลาดสติกสีขาวประมาณ 0.88 กรัม ปืน 9 มม. ยี้ห้อ Smith & Wesson รุ่น 5906 สีเงิน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 ซอง ปืนลูกซองยี่ห้อ Remington รุ่น 870 สีดำ 1 กระบอก กระสุนปืน 9 มม. 50 นัด กระสุนปืน .38 จำนวน 2 นัด กระสุนปืน .380 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 41 นัด.โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องรถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU-X สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร 1 คัน
โดยนายอ้น กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ” และ“หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา”
ส่วนนายนิพนธ์ กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ ) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป , มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ( คีตามีน ) ไว้ในครอบครองโดยกฎหมายและ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา”
จับกุมบริเวณพื้นที่ให้เช่าจอดรถในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องริมถนนหน้าร้านเล็บ ซอยรังสิต-ปทุมธานี 12 ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง บ้านพัก ซอยรังสิต-ปทุมธานี 14 ซอย 9 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดย่านรังสิตใช้รถยนต์ยี่ห้อ ISUZU รุ่น MU-X สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานคร และได้จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ภายในซอย รังสิต-ปทุมธานี 14 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าวมักมีพฤติกรรมมามั่วสุมกันอยู่บริเวณบ้านดังกล่าว จึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณระแวก ใกล้เคียง สถานที่ดังกล่าว กระทั่งจับกุมได้พร้อมของกลาง
.ขณะที่ได้ควบคุมตัวไว้ที่ สน.พญาไท นั้น เนื่องจากสืบนครบาลไม่มีสถานที่ควบคุม เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองได้ออกอุบายกับสิบเวร สน.พญาไท อาศัยจังหวะล็อกคอทำร้ายสิบเวรของ สน. จับขังคุกแทน
หลังเกิดเหตุ ผู้การจ๋อได้รับรายงาน จึงได้รีบสั่งการจัดกำลังไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด พร้อมกดดันอย่างหนักทุกวิถีทาง จนสุดท้ายผู้ต้องหาขอมอบตัวที่ สภ.สีดา จว.นครราชสีมา ตำรวจจึงคุมตัวกลับมา สน.พญาไท ช่วงบ่ายวันที่ 19 ก.ย. 2567
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมในฐานระบบข้อมูล มีดังนี้
– นายอ้น
1.พ.ศ.2562 ข้อหา “ร่วมกันในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันในข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ” สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ปทุมธานี
2.พ.ศ.2563 ข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ฯ” สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ปทุมธานี
3.พ.ศ.2564 ข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” สภ.ธัญบุรี ปทุมธานี
– นายนิพนธ์
1.พ.ศ.2551 ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” ฯ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ปทุมธานี
2.พ.ศ.2558 ข้อหา “ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ฯ” สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ปทุมธานี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้าที่จะถูกจับ วันที่ 17 กันยายน 2567 ช่วงเช้าตรู่ได้ขับรถยนต์ IZUSU MU-X ไปรับยาไอซ์มาจากผู้ค้าแถวจ.นนทบุรี 100 กิโลกรัม ขับรถมาจอดไว้บริเวณลาดจอดรถใกล้บ้านและได้แบ่งยาไอซ์ 20 กิโลกรัมไปไว้ในรถโตโยต้ายาริส (รถยนต์ IZUSU MU-X ยังเหลือของกลางอีก 80 กิโลกรัม)
ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์โตโยต้ายาริส ซึ่งมียาเสพติด (ไอซ์) 20 กิโลกรัม ออกไปส่งให้กับลูกค้าของผู้สั่งการได้สั่งการให้ติดต่อกับบุคคลที่ใช้บัญชีแอปพลิเคชันไลน์(ผู้สั่งการ ส่ง QR code มาให้สแกน แอด line เพื่อติดต่อกัน) ซึ่งมีอยู่ในโทรศัพท์เครื่องที่ผู้สั่งการได้ให้ไว้ใช้ทำงานยาเสพติด โดยผู้สั่งการให้ไปส่งของ (ไอซ์) ที่บริเวณจังหวัดสมุทรสาคร โดย นัดหมายนักบิน (คนรับยาเสพติด) บริเวณซอยเลยโรงพยาบาล
ผู้ต้องหาทั้งสองได้ช่วยกันยกยาเสพติด (ไอซ์) 20 กิโลกรัม ซึ่งบรรจุในถุงพลาสติกสีดำวางไว้ที่ป้ายสีขาวแดงบริเวณดังกล่าว และส่งพิกัดโลเคชันให้กับนักบิน (ผู้ที่จะมารับยาเสพติด) เมื่อส่งยาเสพติดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้โทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ไปหาผู้สั่งการ เพื่อแจ้งว่าทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นได้ขับรถกลับมายังบริเวณหน้าบ้านและออกไปทำธุระ ในส่วนของค้าจ้างนั้น ก่อนหน้านี้ผู้ต้องได้รับออเดอร์ให้ยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค จำนวนไม่มาก ได้ค่าจ้างประมาณ 10,000 – 15,000 บาท แต่รอบนี้ผู้ต้องหารับออเดอร์ส่งยาไอซ์จำนวนมาก ได้ค่าจ้าง 100,000 บาท ซึ่งจะนำมาแบ่งกัน
จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาทำบันทึกจับกุม และ ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน บก.ปส.4 บช.ปส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
