Sunday, November 24, 2024
More
    Homeวิเคราะห์ฟุตบอลไทยลีกบอลไทย“ระวังฟองสบู่แตก”

    ลีกบอลไทย“ระวังฟองสบู่แตก”

     

    หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ต้องมีอันตกเก้าอี้ “นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ” ทั้งที่ครองตำแหน่งนี้มาหลายสมัย และก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสียเก้าอี้ตัวนี้ให้กับใคร

    แต่ก็เหมือนฟ้ากำหนด เมื่อ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” มีคำสั่งแบน “บังยี” ทำให้มดสิทธิ์ลงชิงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล อย่างน่าเสียดาย สุดท้าย “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตัดสินใจเข้ามาช่วงชิงตำแหน่งแทน พร้อมกับได้รับเสียงสนับสนุนจากสโมสรสมาชิก อย่างท่วมท้น จนก้าวขึ้นมาเป็น นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

    หลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำวงการฟุตบอลของประเทศ มาเกือบ 2 ปี ทั้งเรื่องของทีมชาติไทย และฟุตบอลลีก มีการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง และมีเรื่องไม่ดีเกิดหลายสิ่ง หลายอย่าง เช่น ระบบฟุตบอลลีกอาชีพ ก็ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่ได้มือระดับแนวหน้าและผ่านการทำงาน สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ทั้งคนไทยและต่างชาติ มาร่วมงานก็ตาม

    ที่สำคัญตอนนี้เริ่มมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อหลายสโมสรเริ่มติดค้างเงินเดือนนักฟุตบอลและสตาฟฟ์โค้ช นอกจากนี้ยังมีเรื่องการสร้างฟุตบอลลีกต่าง ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่สะสางปัญหาเก่าๆ ที่เกิดขึ้น

    ที่สำคัญฟุตบอลลีกในบ้านเรา ไม่มีแหล่งเงินทุนที่จะให้การสนับสนุนฟุตบอลลีกอาชีพอย่างจริงจัง มีเพียงเงินทุนจาก “นักการเมือง” ที่ว่างเว้นเรื่องของการเมือง เข้ามาบริหารทีม เรื่องนี้ก็เข้าใจอยู่เหมือนกัน คือต้องการที่จะให้มีชื่อติดปากชาวบ้านเท่านั่น เพื่อรอให้เรื่องการเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

    ดังนั้นถ้าเรื่องเรื่องของการเมืองกลับเข้าสู่เวทีการเมืองปกติแล้ว “นักการเมือง”ที่เข้ามาสนับสนุนทีม ถามว่าจะบริหารทีมต่อไปหรือไม่ ยิ่งปัจจุบันนี้แต่ละฤดูกาล ยังขาดทุน 30-40 ล้านบาท เมื่อธุรกิจขาดทุนทุกปี ๆ ๆ จะมีใครหน้าไหนดื้อรั้นทำทีมต่อไป นอกเสียจากคนนั้น “บ้า”

    ถ้าทุกคนเลิกทำทีม ฟุตบอลลีก จะทำอย่างไร สุดท้ายก็ถึงทางตัน ล้มไม่เป็นท่า ไม่ต่างกับ “ฟองสบู่แตก”

    เราต้องยอมรับความจริงว่า ฟุตบอลลีกอาชีพ ยังไม่เป็นอาชีพ 100 เปอร์เซ็นต์ หลายสโมสร ยังไม่สามารถหางบประมาณที่มาจาก “กีฬาฟุตบอล” โดยตรง เพื่อเข้ามาเลี้ยงตัวเอง แต่ส่วนใหญ่จะใช้เงินจากสินค้าของตัวเอง หรือสินค้าในเครือเข้ามาช่วย

    เมื่อระบบภายในของแต่ละทีม ยังไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ เขื่อว่าในอนาคตอันใกล้ คงเหลือทีมเข้าแข่งขันฟุตบอลลีกอีพเพียง 4-5 ทีมเท่านั้น ส่วนทีมระดับรองลงมา ก็คงต้องโบกมือลาไปตามๆ กัน

    เรื่องนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ภายใต้การนำของ “บิ๊กอ๊อด” และ สภากรรมการฯ ต้องรู้รากเหง้าของตัวเอง ว่าศักยภาพเป็นอย่างไร และควรหาวิธีว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้ “ฟุตบอลลีกไทย” เดินหน้าต่อไปได้

    สิ่งสำคัญควรประเมินและวัดมาตรฐานทีมที่ผลงานแย่ที่สุดเสียก่อน ถ้าทีมเหล่านี้อยู่ได้ และสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง “ฟุตบอลลีกอาชีพของไทย” ก็จะอยู่รอด แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ ก็นั่งรอวันตาย

    ดังนั้น “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกลูกหนังไทย และ สภากรรมการฯ ควรรู้ว่า เมื่อฝนตก อากาศจะเย็น และ ถ้าแดดออกเปรี้ยงๆ อากาศก็จะร้อน นั้นหมายความว่า “อย่าทำตัวไม่รู้ร้อน รู้หนาว” รวมถึงเรื่องของ วงการผู้ตัดสิน ยังฉาวโฉ่อยู่ในขณะนี้ด้วย

    คนเก่งๆ ในสมาคมกีฬาฟุตบอลมีอยู่เยอะ !!!!

    ยันแข้ง

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments