บ่ายวันที่ 26 ม.ค.64 ที่ บช.สอท. เมืองทองธานี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.คมกฤช สุขไทย รอง ผบก.สอท.1
พ.ต.อ.ศราวุธ จุณณวัฒน์ รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.วีระวิทธ์ ผลประสิทธิ์ ผกก.3 สอท.1 และ เจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.สอท.1
ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหรือสตรีทางอินเตอร์เน็ต
การใช้อินเตอร์เน็ตในการซื้อขายทางลามกอนาจารเด็ก การบริการซื้อขายทางเพศ การบังคับใช้แรงงาน รวมไปถึงการค้ามนุษย์
พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายสุริยะ อายุ 25 ปี
ข้อหาพยายามรีดเอาทรัพย์ นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ จับได้ระหว่างทางใน จ.นครศรีธรรมราช
อีกคดีจับกุมน.ส.สุพิศ อายุ 27 ปี ข้อหาครอบครองสื่อ ลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ สําหรับตนเองหรือผู้อื่น ส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น เพื่อ ประสงค์แห่งการค้าฯ
นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชน ทั่วไปอาจเข้าถึงได้ฯ บังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ฯลฯ
จับกุมได้ที่อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ผบช.สอท. กล่าวต่อว่า คดีแรก กก.3 บก.สอท.1 ได้ติดตามแอปพลิเคชันวีเค (VK) พบมีการกระทําความผิด โดยผู้เสียหายได้รับข้อความทางแอปพลิเคชันบีโก้ไลฟ์ (BIGO LIVE) จากผู้ต้องหา
ชักชวนให้วิดีโอคอลส่วนตัว เต้นโป๊ เปลือย ในลักษณะยั่วยุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ หรือให้มีการสําเร็จความใคร่ตามที่ผู้ต้องหาบอก เป็น เวลา 15-30 นาที
มีค่าตอบแทนให้ครั้งละ 25,000 บาท มีการส่งเครดิตการพูดคุยกับผู้อื่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหามีการจ่ายเงินให้จริง
มีการถ่ายรูปบัตรประชาชน รวมทั้งส่งหลักฐานการโอนเงินค่าจ้างให้ผู้เสียหายก่อนวิดีโอคอลส่วนตัว
หลังจากทราบว่าถูกหลอกลวง มีการบันทึกคลิปไว้ระหว่างวิดีโอคอล ผู้เสียหายได้ทักไปหาผู้ต้องหาให้ลบคลิปวิดีโอดังกล่าว กลับถูกข่มขู่เรียกเงินเพื่อเป็นค่าลบคลิป
แต่กลับพบคลิปวิดีโออยู่ในแอปพลิเคชันวีเค (VK) เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย พบมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกกระทําในลักษณะเดียวกัน
บางรายถึงขั้นขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยเพื่อแลกกับการลบคลิป จนมีการแจ้งความไว้ กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาในที่สุด
ส่วนคดีที่2ว่า มีกลุ่มผู้ผลิตสื่อลามกอนาจารเด็กที่เผยแพร่ในรูปแบบสตีมมิ่ง (Streaming) ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่ชื่อว่า เอ็มไลฟ์ (Mlive) เพื่อแสวงประโยชน์จากผู้ที่เข้ามาชม
โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะนําเด็กหลายรายมาไลฟ์สดโชว์ลามกอนาจาร มีโฆษณาในลักษณะชักชวน เรียกร้อง ติดต่อค้าประเวณี
ผู้ที่จะเข้าชมจะต้องจ่ายเงินซื้อคูปอง 13,000 คูปอง (มูลค่า 250 บาท) ในการรับชมต่อครั้ง แต่ละครั้งจะมีผู้เข้ามาชมไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย
ระหว่างสตีมมิ่งหรือไลฟ์สด ผู้จัดยังเรียกรับผลตอบแทนจากผู้เข้าชมผ่านผู้ให้บริการเจ้าใหญ่แห่งหนึ่งได้อีกด้วย
กระทั่งชุดจับกุมได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ ก่อนจับกุมตัวได้ในที่สุด