ป.คุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกชาวออสเตรเลีย 13 ราย ส่งฟ้องศาลฝากขัง พบมีลิสต์รายชื่อเป้าหมายชาวออสเตรเลีย 14,000 ราย แต่เพราะเพิ่งเริ่มรวมแก๊งได้ จึงหลอกไปได้แค่ 14 ราย มูลค่า 40 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้หัวหน้าแก๊งตั้งเป้าเมื่อถึงปลายปีนี้จะต้องหลอกเงินชาวออสซี่ให้ได้ถึง 2 พันล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)
พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป.พนักงานสอบสวน กก.2.บก.ป. เบิกตัวกลุ่มผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงชาวออสเตรเลีย ประกอบด้วย
1. นายมาร์ค อายุ 54 ปี ชาวออสเตรเลีย (หัวหน้า)
2. นายมาร์ค แอนดรูว์ อายุ 56 ปี ชาวอังกฤษ (หัวหน้า)
3. นายนิโคลัส จอห์น อายุ 43 ปี ชาวออสเตรเลีย
4. นายเบรตต์ ปีเตอร์ อายุ 51 ปี ชาวออสเตรเลีย
5. นายเอลลิส เอียน อายุ 59 ปี ชาวอังกฤษ
6. นายแม็คเคนซี่ อายุ 61 ปี ชาวอังกฤษ
7. นายเจเรมี อายุ 44 ปี ชาวแอฟริกาใต้
8. นายคริสโตเฟอร์ อายุ 48 ปี ชาวออสเตรเลีย
9. นายดีน อายุ 42 ปี ชาวอังกฤษ
10. นายลูอิส ซามูเอล อายุ 30 ปี ชาวอังกฤษ
11. นายลูอิส อายุ 40 ปี ชาวอังกฤษ
12. นายลุค คาเมรอน อายุ 45 ปี ชาวออสเตรเลีย
13. นายเซโต อายุ 58 ปี ชาวแคนาดา ออกจากห้องคุมขังเพื่อนำตัวไปส่งศาลอาญาฝากขัง
ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย หรืออั้งยี่, เป็นคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”
พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญญา รองผบก.ปทส. หัวหน้าชุดจับกุมคดีนี้ เปิดเผยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จับกุมได้นี้ เริ่มสืบสวนมาตั้งแต่เดือนพ.ค.67 หลังพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้รับการประสานมาจากตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) ให้ตรวจสอบบุคคลที่ต้องสงสัยคาดว่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกชาวออสเตรเลีย ที่หลบหนีมาได้หลังจากถูกทลายเครือข่ายที่ประเทศอินโดนีเซีย
รองผบก.ปทส. กล่าวต่อว่า หลังรับคำสั่งได้สืบสวนจนพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือนายมาร์ค เดนนิส (Mr.Mark Dennis) อายุ 54 ปี ชาวออสเตรเลีย และนายมาร์ค แอนดรูว์ ฮาวชิป (Mr.Mark Andrew Howship) อายุ 56 ปี ชาวอังกฤษ หลบหนีมาอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี
จึงได้ส่งข้อมูลให้ตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย ทราบเพื่อพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล แต่ระหว่างนั้นพบว่าทั้งคู่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ใน กทม. ก่อนจะรวบรวมสมาชิกตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขึ้นมาใหม่ใช้บ้านพัก ม.9 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการ
รองผบก.ปทส.กล่าวต่อว่า สำหรับฐานที่ตั้งใหม่แก๊งคอลฯ นี้ ต้องใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียดเพราะกลุ่มผู้ต้องหาระวังตัวเป็นอย่างมาก การเข้าออกจะมีการใช้ผ้าใบปิดกั้นตลอดเวลาเพื่อบดบังสายตาจากภายนอกตลอดเวลา
เมื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆ จนแน่ชัดว่ามีการกระทำผิดจริง จึงได้ขอหมายค้นจากศาลอาญา พร้อมประสานตำรวจกก.2.บก.ป. เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งขบวนการได้ดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาบางรายให้การเป็นประโยชน์ว่า ของกลางลิสต์รายชื่อชาวออสเตรเลีย 14,000 ราย ที่พบนั้น เป็นเป้าหมายของแก๊งคอลฯ ที่เตรียมไว้หลอกลวงจริง แต่ขบวนการนี้เพิ่งจะรวมตัวกันได้และมีการสอนการหลอกลวงได้ไม่นาน จึงเริ่มหลอกลวงชาวออสเตรเลียได้แค่ 14 ราย มูลค่าความเสียหาย 40 ล้านบาทเท่านั้น
โดยหัวหน้าแก๊งคอลฯ ตั้งเป้าไว้ว่าเมื่อถึงเดือนธันวาคมปลายปีนี้ จะต้องหลอกเอาเงินชาวออสเตรเลียมาให้ได้ 2 พันล้านบาทตามเป้าให้ได้
