Friday, November 22, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบนครบาลซิวสาวหล่อบช.ม้าแก๊งคอลต้มนักเรียนนอกโอนเงินหมด6ล.

    สืบนครบาลซิวสาวหล่อบช.ม้าแก๊งคอลต้มนักเรียนนอกโอนเงินหมด6ล.

    สืบนครบาล รวบ แนนสาวหล่อหนึ่งในบัญชีม้า อ้างเป็นจนท.ทูตประเทศดัง ยัดข้อหา passport ปลอม ผู้เสียหายหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 6 ล้านบาท

    ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน

    ชุดลาดตระเวนออน์ไลน์สืบนครบาลสืบสวนพบองค์กรอาชญากรรม call center ที่มีพฤติการณ์ฉ้อโกง หรือหลอกลวงประชานในสังคม จนสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง

    วันที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา12.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.

    สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.ฯ พ.ต.ต.สุนทร ทองพงษ์เนียม สว.กก.สส.1ฯ , ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.กก.สส.1 ได้ร่วมกันจับกุมน.ส.ปภัสศร หรือ แนน อายุ 19 ปี อยู่ที่ อ.ประจันตคาม จว.ปราจีนบุรีตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 4691/2567 ลงวันที่ 25 กันยายน 2567

    ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง หมู่ 1 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จว.ปราจีนบุรี

    พฤติการณ์กล่าวคือ ตามวันเวลาเกิดเหตุ ช่วงประมาณ กลางเดือน เม.ย.67 ผู้เสียหายได้รับแจ้งจากบุตรชายของตนซึ่งกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ (แคนนาดา) ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์ติดต่อมา โดยอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตประเทศไทย ประจำประเทศแคนนาดา อ้างว่า บุตรชายของผู้เสียหาย มี passport ปลอม

    หลังจากผู้เสียหายหลงเชื่อ กลุ่มมิจฉาชีพจึงได้โอนสายต่อให้พูดคุยกับอีกบุคคลหนึ่งโดยอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสอบสวนกลางออกอุบายให้บุตรของผู้เสียหายโอนเงินมาเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็น กับพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าว

    ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินชื่อบัญชีบุตรชายให้ไปยังบัญชีม้าจำนวน 4 บัญชี เป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท  หนึ่งในนั้น ได้โอนเงินเข้าบัญชีของนางสาวปภัสศรฯ ผู้ถูกจับ เป็นมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท

    หลังจากนั้น เมื่อผู้เสียหายพบความผิดปกติ จึงรู้ว่าถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว

    น.ส.ปภัสศรฯรับสารภาพว่า เมื่อประมาณ ต้นปี 2567 ตนได้ถูกเพื่อนสาวคนสนิทชักชวนให้ไปทำงานย่านปอยเปต ประเทศกัมพูชา  หลอกให้ตนเปิดบัญชีออนไลน์ 3 ธนาคาร ได้แก่ ธ.กรุงไทย , ธ.ออมสิน และ ธ.ไทยพาณิชย์ โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรวม 6,000 บาท ก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ

    จากนั้นเมื่อตนได้เดินทางไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกับคนอื่นอีกประมาณ 2-3 คน และถูกกักตัวให้อยู่แต่ภายห้องแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยพักอาศัยอยู่ร่วมกันทั้งชาย-หญิงกว่า 10 ราย ซึ่งแต่ละรายก็ถูกหลอกให้เปิดบัญชีคนละอย่างน้อย 2-3 ธนาคาร

    ระหว่างที่ตนพักอยู่ที่นั้น ทางกลุ่มมิจฉาชีพมิได้ว่าจ้างให้ตนทำงานแต่อย่างใด โดยแต่ละวันเพียงให้ตนกับกลุ่มคนที่พักอยู่ด้วยกันนั้น ยืนยันตัวบุคคลด้วยใบหน้าทางโทรศัพท์เท่านั้น

    ตนอาศัยอยู่ที่นั้นได้เพียง 3 วัน กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวได้แจ้งว่าให้กลับบ้านได้ จากนั้นกลุ่มบุคลดังกล่าวได้ทิ้งให้ตนกลับภูมิลำเนาเอง จนมีเงินติดตัวเหลือเพียงประมาณ 2,000 กว่าบาท หลังจากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อเพื่อนสาวคนสนิทได้อีกเลย จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ รู้สึกเสียใจ สำนึกในสิ่งที่ตนเองกระทำ เพียงเพราะต้องการ “เงิน” เท่านั้น และไม่คิดว่าตนเองจะมาลงเลยแบบนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนางสาวปภัสศรฯ นำส่ง พงส.สน.ประชาชื่นดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากเตือนไปยังประชาชนและบุคคลทั่วไปทุกท่าน ควรระลึก และมีสติทุกครั้ง ก่อนที่ท่านจะเปิดบัญชีธนาคาร เปิดซิมโทรศัพท์ ให้แก่บุคคลอื่น บุคคลแปลกหน้า ที่ท่านไม่รู้จัก หรือเพิ่งจะรู้จัก หรือบุคคลที่เคยพูดคุยและติดต่อทางสื่อสังคมออนไลน์

    โดยให้ท่านพึงระลึกไว้เสมอว่า บุคคลเหล่านี้คือ “มิจฉาชีพ” ที่จ้องจะหาผลประโยชน์จากนั้น มิฉะนั้นท่านอาจตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพพวกนี้ หรือที่เรียกว่า “บัญชีม้า” หรือ “ซิมผี” ก็เป็นไปได้ถือว่าท่านอาจตกเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีอัตราโทษทั้งโทษจำและโทษปรับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    หากท่านพบเห็นเหตุสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments