สืบนครบาล แกะรอยกว่า1เดือน รวบ “สองผัวเมียมโนรมย์” ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ผ่านกลุ่มปิดโซเชียล
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้นำอาวุธปืนไปประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ปล้น ชิงทรัพย์ ในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายมีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก อาทิ เหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้า , เด็กนักเรียนนักศึกษาต่างสถาบันนำอาวุธปืนไปใช้ยิงคู่อริ เป็นต้น ซึ่งหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ความพยายามสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเพื่อมาก่อเหตุผ่านช่องทางออนไลน์
วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
ร่วมกันจับกุมนายวีรวุธ หรือบอส และ น.ส.พิทยาภรณ์ หรือมิ้วขณะขี่รถจักรยานยนต์นำกล่องพัสดุซึ่งภายในมีปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ไปจัดส่งให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อคนได้ที่หน้าร้าน FLASH EXPRESS สาขามโนรมย์ ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
ตรวจยึดปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 จำนวน 2 กระบอก ในสภาพบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุพร้อมจัดส่งให้แก่ผู้รับ พร้อมตรวจยึดสลิปการจัดส่ง และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เพื่อความสะดวกแก่การนำอาวุธปืนไปจัดส่ง จึงจับกุมตัวทั้งสอง ดำเนินคดีฐาน“ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ”
ชมคลิปนาทีจับ https://youtu.be/CyAcxgmhx98?si=9-bvbP7-w08szo6v
จากการซักถามนายวีรวุธ และ น.ส.พิทยาภรณ์ ทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การว่าเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น คบหาอยู่กินด้วยกันได้ประมาณ 1 ปี ทำอาชีพหลักรับจ้างทั่วไปในพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานีด้วยกัน
เมื่อประมาณปลายเดือนเมษายน 2567 ตนได้เข้าไปเห็นในเฟซบุ๊กว่ามีการโพสต์ประกาศขายปืนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าตนและแฟนหันมาทำเป็นงานเสริมน่าจะได้กำไรดี จึงลองสั่งซื้อมาและลองเอาไปโพสต์ขายทางโซเชียล ปรากฏได้กำไรดี เฉลี่ยได้กำไรกระบอกละ 2,000 บาท (ซื้อมากระบอกละ 4,000 บาท ขายกระบอกละ 6,000 บาท) จึงหันมาทำเป็นอาชีพเสริม ที่ผ่านมาเคยสั่งปืนเพื่อนำมาส่งขายแล้วประมาณ 10 กว่าครั้ง เงินที่ได้นำมาใช้จ่ายในครอบครัวกันสองคนผัวเมีย ก่อนจะถูกจับกุมที่สุด
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดีส่ง พงส.สภ.หางน้ำสาคร ภ.จว.ชัยนาท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้การก่ออาชญากรรมมีลักษณะที่มีใช้อาวุธปืนประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ปล้น ชิงทรัพย์ ในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเพิ่มมากขึ้น อาทิ เหตุกราดยิง นักศึกษาต่างสถาบัน เหตุทะเลาะวิวาท สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก สั่งการให้ทุกชุดปฏิบัติเร่งปราบปรามและหาทางป้องกันอย่างจริงจัง
เตือนผู้ ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท