Wednesday, October 30, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันสืบนครบาลทลายแก๊ง "ดาว บางแค" ใช้ขี้ยาลักจยย.นำมาสวมทะเบียนขาย

    สืบนครบาลทลายแก๊ง “ดาว บางแค” ใช้ขี้ยาลักจยย.นำมาสวมทะเบียนขาย

    พยัคฆ์ร้ายเทพนคร ร่วมสืบ TOP G ทลายแก๊งโจรกรรมและสวมทะเบียนรถจักรยานยนต์ “ดาว บางแค”

    วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติแสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส. บชน. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.

    สั่งการให้ชุดจับกุมจาก กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ประกอบด้วย พ.ต.ท. พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1ฯ,พ.ต.ต. กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สว.กก.สส.1ฯ,พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก. สส.1ฯ, พ.ต.ต. คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 1 2 3 และ 4 และ ชุดพยัคฆ์ร้ายเทพนคร เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร่วมกับสืบสวนอาญาขั้นพิเศษ TOP G

    จับกุมนายสุรพงษ์ อายุ 33 ปี ชาวอ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยกล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์)โดยฝ่าฝืนกฎหมาย” และนายบุญคงคา   อายุ 43ปี
    โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษ(ยาบ้าและยาไอซ์)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าและยาไอซ์)โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”จับกุม ภายในบ้าน ม.5 ถ.กำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

    ชมคลิปจับกุม คลิก https://youtu.be/wV-TxsmQpzQ?si=R_3OJksExAhmf-fg

     ตรวจยึดของดังนี้ คือ1. รถจักรยานยนต์ 6 คัน2. โครงรถจักรยานยนต์ 6 คัน 3. แทงค์เครื่องรถจักรยานยนต์  1 เครื่อง4. เครื่องรถจักรยานยนต์  1 เครื่อง5. ซากเครื่องยนต์ 2 เครื่อง 6. ป้ายรถจักรยานยนต์ 7 แผ่น 7. ใบคู่มือจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ 12 เล่ม
    8. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 3 เล่ม9. โทรศัพท์ Apple iphone 12 pro max จำนวน 1เครื่อง 10. หมวกนิรภัย  3 ใบ 11. กล้องวงจรปิด  2ตัว 12. รองเท้า 3 คู่
    13. เสื้อคลุมและเสื้อยืด  3 ตัว14. อุปกรณ์ช่าง   8ชิ้น 15. ชุดตอกเลข 22 ชิ้น

    พบประวัติบุคคลต้องโทษดังนี้ 1. นายบุญคงคา เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับ คดีลักทรัพย์ เมื่อปี พ.ศ.2551 ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ, คดีความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เมื่อปี พ.ศ.2561 ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน, คดีร่วมกันลักทรัพย์ จยย. เมื่อปี พ.ศ.2562 ในพื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์ 2. นายสุรพงษ์ เคยต้องโทษในความผิดเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ เมื่อปี พ.ศ.2557 ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน

    เนื่องจากชุดจับกุมได้สืบสวนหาข่าว กรณีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และนำรถที่โจรกรรมมาส่งขายและบางคันนำมาตอกเลขตัวถังใหม่เพื่อสวมทะเบียนรถคันอื่นส่งขายภายในประเทศตลอดจนส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี

    จนสืบทราบว่าบ้าน หมู่ 5 ถนนกำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งพักพิงชำแหละรถและเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดในชุมชนย่านบางแค  ในแต่ละวันจะมีนายบุญคงคาฯ ซึ่งเป็นหัวหน้าระดับสั่งการให้สมาชิกในแก็งออกตระเวนลักขโมยรถจักรยานยนต์ในหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ อาทิ ย่าน รามคำแหง บางเขน ทุ่งสองห้อง มักกะสัน คลองตัน พระโขนง และอีกหลายพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี

    งจากการสืบสวนพบว่า ในบางคืนมีการตระเวนลักรถและนำมาสวมทะเบียนมากถึง 4 คัน ต่อหนึ่งคืน และพบพฤติกรรม โดยจะมีลักษณะการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนเป็นทอดๆ เพื่อหลบเลี่ยงและยากต่อการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่  จะนำรถจักรยานยนต์มารื้อชำแหละรถและตอกเลขตัวถังใหม่  ใช้ทะเบียนรถที่ประมูล, รับซื้อหรือรับจำนำมาได้แล้วสวมทะเบียนกับรถคันที่ถูกโจรกรรมมา โดยสมุนที่ทำหน้าที่รับรถตามที่สั่งการจะได้ค่าจ้าง ครั้งละประมาณ 1,500 – 2,000 บาท

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พยานหลักฐานและจัดทำรายงานการสืบสวนเพื่อขออนุมัติขอออกหมายค้นต่อศาลอาญาธนบุรี เพื่อทำการตรวจค้น พบ และยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด อันเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถและความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเพื่อดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาลพร้อมกำลังกว่า 40 นาย ได้ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวทั้งทางบกและทางน้ำและร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการดำน้ำค้นหาหลักฐานบริเวรหลังบ้านของเป้าหมายซึ่งอยู่ติดกับคลองเพื่อพิสูจน์ความผิดและความเชื่อมโยงในการกระทำดังกล่าว จนเจ้าหน้าที่ตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบได้จำนวนหลายรายการข้างต้น อีกทั้งยังตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางจำนวนมากพร้อมอุปกรณ์การเสพอีกหลายรายการ

    จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง แต่ในส่วนพฤติกรรมการโจรกรรมรถผู้ถูกจับให้การภาคเสธว่าเคยทำมาก่อนแต่ได้เลิกทำแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ได้ตรวจยึดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป จากการสืบสวนขยายผลและตรวจสอบข้อมูลรวมถึงเส้นทางการเงินของนายบุญคงคาหรือดาว

    เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า ยังมีหลักฐานอันมีพฤติการณ์และข้อบ่งชี้ว่ายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถ อีกทั้งยังพบข้อมูลการติดต่อพูดคุยกับผู้ร่วมขบวนการการโจรกรรมรถจักรยานยนต์นี้อีกจำนวนมาก ซึ่งพบความเชื่อมโยงไปถึงร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และบริษัทขนส่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลและดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก็งโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายนี้ต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับทั้งสองพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สน.บางขุนเทียน  ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

    ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ได้กล่าวไว้ว่าการปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมรายสำคัญในพื้นที่ให้หมดไปอย่างจริงจัง โดยใช้มาตรการการปราบปรามอาชญากรรมองค์กรอย่างเข้มงวดเชิงรุกทุกรูปแบบ ซึ่งนับว่าเป็นบ่อเกิดอาชญากรรมอื่นๆที่จะตามมา อันสร้างความเดือนดร้อนและสร้างความเสียหายต่อสังคมในรูปแบบต่างๆ เป็นวงกว้าง สอดคล้องตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments