สืบนครบาลนำนักเรียนสืบรุ่น 113 รวบ “หนุ่มเฮงเงินทุน” ทวงหนี้โหด สุดท้ายไม่พ้นถูกรวบดำเนินคดี
วันที่ 14 กันยายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ,
พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ , สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ชุด PCT5 พร้อมนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 113 (ชุดปฏิบัติการที่ 7)
ร่วมกันจับกุมนาย พีระพันธุ์ หรือหนุ่ม อายุ 28 ปี ชาวอ.พยัคภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม
ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.556/2566 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2566
ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ”จับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก
ในชั้นจับกุมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เดิมทีประกอบอาชีพช่างโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ต่อมาได้รับการชักชวนจากเพื่อนและหลานซึ่งทำงานเก็บเงินกู้รายวันมาก่อน ชักชวนให้มาทำงานเก็บเงินกู้ย่านมีนบุรี บอกว่ารายได้ดี งานสบาย จึงมาสมัครทำงาน ได้ค่าจ้างเป็นรายเดือน เดือนละ 6,000 บาท เบี้ยเลี้ยงวันละ 100 บาท โดยทำหน้าที่ร่อนนามบัตร “ เฮงเงินทุน ” และเก็บเงินกู้
ส่วนที่เกี่ยวกับข้อหาตามหมายจับ น่าจะเป็นกรณีซึ่งจำได้ว่าเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ตนและหลานซึ่งเป็นคู่ขาเก็บเงินกู้ ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายซึ่งเปิดร้านอาหารตามสั่งแถวถนนราษฎร์ร่วมใจ แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ สนใจกู้เงิน10,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อเดือน กำหนดให้ชำระเป็นรายวัน วันละ 500 บาท 24 วัน โดยโอนเงินให้ผู้กู้ 9,000 บาท (หักค่าส่งงวดแรกจำนวน 500 บาท หักค่าเอกสาร จำนวน 500 บาท) ให้ส่งค่างวดรายวันโดยวิธีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตน
ต่อมาผู้กู้แจ้งว่าขาดสภาพคล่องไม่สามารถส่งเงินกู้รายวันได้ทันตามกำหนด ตนและคู่ขาเก็บเงินกู้จึงเดินทางไปด่า ข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายผู้กู้และทำลายทรัพย์สินภายในร้านของผู้กู้ รวมทั้งสามี และบุตรของผู้กู้ น่าจะเป็นสาเหตุให้ผู้กู้ไปแจ้งความดำเนินคดี เมื่อรู้ว่าตนน่าจะถูกดำเนินคดี เกิดความกลัวและได้หลบหนีมาพักอาศัยใน จ.นครนายก
ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบข้อมูลกระทำความผิด 2 คดี ประกอบด้วย
(1) ปี 2565 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ” ท้องที่ สภ.คอนสาร
(2) ปี 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันในข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราโดยให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ” ท้องที่ สน.มีนบุรี
นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพตลอดจน ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาการใช้ความรุนแรง และภยันตรายจากอาชญากรรมต่างๆ ในสังคม มีหลายรูปแบบ ของให้พี่น้องประชาชนจงช่วยกันระมัดระวังป้องกันเหตุ หรือช่วยเหลือแจ้งเบาะแส แจ้งเหตุให้ทันท่วงที
หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลใดจะเข้ามาก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มากหรืออื่นๆ แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.