

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 13 พ.ย.68 พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบ.ตร. พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.น.1 พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รองผบก.น.1 พ.ต.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส. บก.น.1 พ.ต.ท.มนูญ กู้เมือง รองผกก.สส.บก.น.1
จับกุมนายจาย หนุ่มแลง อายุ 20 ปี และน.ส.หอม อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ชาวพื้นที่สูงพื้นที่อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่พร้อมของกลางยาไอซ์บรรจุในถุงชาอู่หลง และแบบแท่ง 300 ชิ้น รวมน้ำหนัก 300 กก. และยาบ้า 2,400,000 เม็ด โทรศัพท์มือ 2 เครื่อง และ รถกระบะอีซูซุ รุ่น ดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน บร 5646 ลำพูน
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนกก.สส.บก.น.1 จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่กทม. ขยายผลได้เบาะแสเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ลักลอบนำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ลักลอบค้ายาเสพติดใช้รถกระบะ อีซูซุสีขาว ขนยาเสพติดจากภาคเหนือให้ส่งให้ลูกค้านำยาเสพติดซุกซ่อนกะหล่ำปลีอำพรางตบตาเจ้าหน้าที่ นัดส่งมอบยาเสพติดริมถนนกาจญนาภิเษก ย่านบางบัวทอง
ชุดสืบสวนสกัดจับได้บริเวณริมถนนนบ.10002 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา
จากการตรวจค้นบริเวณกระบะรถพบยาไอซ์และยาบ้าดังกล่าว บรรจุอยู่ในถุงกระสอบสายรุ้งซุกซ่อนอยู่ใต้กองกระหล่ำปลี จับกลุ่มนายจาย ผู้ขับขี่ และน.ส.หอม นั่งผู้โดยสาร
จากการสอบสวนนาย จายรับสารภาพว่า ได้ค่าจ้างขนยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้า 20,000 บาท แบ่งกับเพื่อนผู้หญิงคนละ 10,000 บาท รับจ้างขนเป็นครั้งแรกคนสั่งการเป็นชาวลาว
พล.ต.อ.สำราญ กล่าวว่า ยาเสพติดของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้จำนวนมากหลายๆคดี ของกลางที่ยึดได้ทั้งหมดนำส่งบช.ปส. เมื่อรวบรวมยาเสพติดได้ยอด น้ำหนัก 22 ตัน จะมีเผาทำลาย จากการตรวจสอบรถกระบะที่ใช้ขนยาเสพติดดังกล่าวพบว่า เคยขับไปที่จ.สตูล ขบวนการค้ายาเสพติดเปลี่ยนวิธีการจ้างต่างด้าวลำเลียงยาเสพติด และซุกซ่อนในสินค้าทางการเกษตร ก่อนหน้านี้ตำรวจ 191 เพิ่งจับกุมผู้ลักลอบขนยาเสพติดของกลางยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกองข้าวโพด ได้สั่งการให้จุดตรวจหรือด่านสกัดตรวจสอบให้เข้มงวดตรวจสอบรถขนสินค้าทางเกษตร หากมีเบาะแสยาเสพติด หรือพบว่าตำรวจเกี่ยวข้องยาเสพติดแจ้งเบาะแสได้ที่โทร.สายด่วน 191 ตลอด 24 ชม.
จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งบช.ปส. ดำเนินคดีข้อหาร่วมจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามึนหรือยาไอซ์) และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป

























