“หิน เหล็ก ไฟ วง Rock ใจบุญ”ทัวร์คอนเสิร์ตแสงเหนือ ประเทศสวีเดน ประสบความสำเร็จเกินคาดมีต่างชาติ พร้อมคนไทยสายบุญร่วมคึกคัก ยันปีต่อไปพร้อมไปร่วมบุญเป็นปลื้มชาวต่างชาติ รับปากจะมาเที่ยวเมืองไทยแน่นอน
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 นายปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์ หรือโป่ง หินเหล็กไฟ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศสแกนดิเนเวียและ-แถบยุโรป ซึ่งตนพร้อมเพื่อนสมาชิกของวงทุกคน ได้มีแนวคิดอยากร่วมเป็นมุมเล็กๆของนโยบาย ซอฟต์พาวเวอร์(Soft Power)ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่
โดยการเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ผ่าน ได้นำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับวัดไทยในประเทศสวีเดนและวัดไทยแถบประเทศนั้นๆ ได้รับตอบรับจากพี่น้องชาวไทยใจบุญที่อาศัยอยู่ในประเทศ เช่น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก
สำหรับไฮไลท์ของทัวร์คอนเสิร์ต ครั้งนี้อยู่ที่ ประเทศสวีเดน เป็นการจัดคอนเสิร์ต ที่ใช้ชื่อว่า”คอนเสิร์ตแสงเหนือ” จะตรงกับช่วงที่มีปรากฏการทางธรรมชาติ ที่ประเทศสวีเดน สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าว มีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อเดินทางไปชื่มชมบรรยากาศที่สวยงามที่เกิดขึ้นปีละเพียงแค่ครั้งเดียว
ตนพร้อมพี่น้องชาวไทยมาร่วมชมคอนเสิร์ตนพร้อมสมาชิก หิน เหล็ก ไฟ ได้ถือโอกาส เชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเหล่านั้น มาท่องเที่ยวเมืองไทย ที่มีสถานที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย เป็นการช่วยรัฐบาลประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่งจะเป็นการนำเม็ดเงินเข้าประเทศได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยได้รับการยืนยันจากชาวต่างชาติที่มาร่วมชมการแสดงครั้งนี้ ว่าจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตามที่ได้เชิญชวน แน่นอน
พร้อมทั้งยังได้ยืนยันในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศแถบนี้ได้เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยอันดับต้นๆอยู่แล้ว ตนและสมาชิกในฐานะเป็นศิลปินร๊อคของคนไทยรู้สึกดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเชิญชวนช่าวต่างชาติและได้รับการยืนยันว่าจะเดินทางมาท่องเที่ยวแน่นอน ”โป่ง หินเหล็กไฟ กล่าว“
ขณะเดียวกันนายอรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส เอกอัครราชทูต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ประจำประเทศสวีเดน ได้เข้าร่วม “งานประเพณีสงกรานต์ สืบสานประเพณีไทย” ที่ Fryshuset Hammarby Sjöstad กรุงสตอกโฮล์ม จัดขึ้นโดยวัดพุทธาราม แวร์มเดอร์ สวีเดน และชุมชนไทยในเมืองสตอกโฮล์ม มีพระวิเทศปุญญาภรณ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
นอกจากการเจริญพระพุทธมนต์แล้ว ในงานยังมีการสรงน้ำพระ การประกวดนางสงกรานต์ การแสดงดนตรีการกุศล วงร๊อคชื่อดัง หิน เหล็ก ไฟ (SMF)และการจำหน่ายอาหารไทยด้วย
โดยท่านเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวเปิดงาน แสดงความชื่นชมในความเข้มแข็งของชุมชนไทยที่ช่วยกันรักษาประเพณีที่ดีงามและความสำคัญของวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งได้อวยพรให้คนไทยในสวีเดนได้รับความมีสิริมงคลในโอกาสปีใหม่ของไทยในปีนี้ด้วย
On 12 April 2024, Ambassador Arunrung Phothong Humphreys, and staff from the Royal Thai Embassy, participated in a Songkran Celebration at Fryshuset Hammarby Sjöstad, Stockholm. The event was organised by Buddharam Temple Sweden and the Thai Community in Stockholm. Besides a religious ceremony, the event also included a charity concert and a Thai food market.
Ambassador Arunrung gave an opening remarks at this event expressing her gratitude for the Thai community in preserving this beautiful and important Thai New Year tradition. The Ambassador also wished the Thai people in Sweden the best on this Thai New Year celebration.
ด้าน พระวิเทศปุญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดวัดพุทธาราม แวร์มเดอร์ สวีเดน กล่าวเพิ่มเติมว่า ถือได้ว่าการจัดงานบุญครั้งนี้ซึ่งตรงกับช่วงประเพณีสงกรานต์ของชาวไทยพอดี ทำให้มีญาติโยมชาวไทยที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศย่านแสกนดิเนเวีย และยุโรป ได้มาร่วมบุญเป็นจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งร่วมกันถวายปัจจัยร่วมทำบุญเพื่อนำไปใช้จ่ายในการบำรุงวัดในหลายๆส่วนที่ยังชำรุดและขาดแคลนอีกมาก
ทางวัดนี้มีชาวต่างชาติจำนวนมากที่สนใจที่จะมาศึกษาธรรมตามวิถีพุทธ การนั่งสมาธิวิปัสนากรรมฐาน เพื่อให้เกิดความสงบทางจิตใจ ตามแนวของพระพุทธเจ้า จึงใคร่เชิญชวนญาติโยม ชาวไทยได้ข่วยกันแนะนำชาวต่างชาติ มาร่วมกิจกรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นวิทยาศาสตร์
พร้อมทั้งขออนุโมทนาบุญ กับวงดนตรี หิน เหล็ก ไฟ ที่ได้มาร่วมแสดงในงานประเพณีสงกรานต์ให้วัดอาตมาในครั้งนี้ ทั้งนี้โยมโป่ง ยังแจ้งกับอาตมาว่าในปีต่อๆไปขอมาร่วมบุญแสดงคอนเสิร์ตให้กับทางวัดอีก
ในปีต่อไปอยากเชิญชวนให้ภาครัฐมาร่วมเป็นแกนนำมาร่วมจัดกิจกรรมแบบนี้อีกมันเป็นกุศล และยังใช้โอกาสแบบนี้ชักชวนนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเมืองไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจะเกิดผลต่อต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย สำหรับทางวง หิน เหล็ก ไฟ อาตมาขออนุโมทนาสาธุ ”ท่านเจ้าคุณฯเจ้าอาวาสฯกล่าว“