‘ห่มผ้าพระธาตุ’ วัดมหาธาตุวชิรมงคล ชมความงดงามองค์มหาธาตุเจดีย์แบบพุทธคยา
ห้วงไวรัสโควิด-19 กำลังทำให้หลายคนหวาดวิตกกับการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ
หลายครอบครัวหันมาพักผ่อนท่องเที่ยวในประเทศแทน ประเทศไทยมีสถานที่น่าเที่ยวเยอะมากจริงๆ
หนึ่งในสถานที่สำคัญที่เรามาแนะนำในวันนี้ ลัดเลาะไปจ.กระบี่อีกครั้ง ตามโปรแกรมคือเที่ยวทะเลนั่นล่ะ
แต่เราพาไปสัญจรนอกโปรแกรมสักหน่อย ไปในสถานที่มาถึงแล้วอิ่มใจ สุขใจอย่างบอกไม่ถูก ก็คือการเข้าวัดไหว้พระทำบุญ
มีคนพื้นที่แนะนำให้เราไปวัดมหาธาตุวชิรมงคล หรือชื่อเดิม วัดบางโทง ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 3 ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
วัดที่สวยงาม สงบ ร่มรื่น และน่าทึ่งมากสำหรับเรา
ที่บอกว่าน่าทึ่ง เพราะเส้นทางก่อนถึงวัดมีบ้านชาวบ้าน สวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันพืชเศรษฐกิจของจ.กระบี่ปลูกอยู่สองข้างทาง
ไม่มีเค้าว่าจะมีวัดที่มีการก่อสร้างได้สวยงามอลังการอยู่ใกล้ๆกัน ทำให้เรารู้สึกประทับใจเมื่อแรกเห็น และร้องว้าวววอยู่ในใจดังๆ
จะบอกว่าเหมือนมาอยู่อีกโลกหนึ่งก็ไม่โอเว่อร์เกินไปกับองค์พระมหาธาตุเจดีย์ที่สูงตระหง่านอยู่ตรงหน้า
วัดมหาธาตุวชิรมงคล มีเนื้อที่ 111 ไร่ 3 งาน 48 ตารางวา มีความงดงามในแบบที่เราไม่เห็นมาก่อนไม่เหมือนวัดไหนๆในประเทศไทยที่เราเคยไปมา
โดดเด่นด้วยองค์พระมหาธาตุเจดีย์ สีเหลืองทองอร่ามตา เป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวยิ่งนัก
องค์มหาธาตุเจดีย์มีความสูงถึง 95 เมตร มีความคล้ายคลึงกับพุทธคยา สถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ในอำเภอคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
แม้เราจะไม่เคยไปพุทธคยา แต่ก็เคยเห็นภาพในสารคดีต่างๆ ซึ่งเหมือนกันมาก
บริเวณโดยรอบองค์มหาธาตุเจดีย์ มีทางเดินหรือเรียกกันว่าระเบียงราย เป็นทางเดินล้อมรอบองค์เจดีย์ทั้ง 4 ด้าน
มีพระพุทธรูปต่างๆ ประดิษฐานอยู่จำนวนมาก ตั้งอยู่ตามแนวทางเดินให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ ทางเดินนี้จะเชื่อมต่อไปยังองค์เจดีย์ได้เลย
ภายในองค์มหาธาตุเจดีย์จะมีพระพุทธรูปเป็นพระประธานองค์ใหญ่ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า ที่ชาวบ้านและผู้เลื่อมใสศรัทธาต่างหลั่งไหลมากราบไว้บูชา
นอกจากนี้ฝาผนังยังมีภาพจิตรกรรมบอกเล่าเรื่องพุทธประวัติและตกแต่งด้วยลายกนกลายไทยอ่อนช้อยอย่างวิจิตรตระการตา
รวมถึงภายในบริเวณวัดมีต้องไม้นานาพันธุ์สร้างความความร่มรื่นและสามารถนั่งพักได้
ประวัติ วัดมหาธาตุวชิรมงคล สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2483 ในที่ดินของนายเปล้า ทองศิริ นายมั่น เพ่งกิจ นายน่วม คำพันธ์ โดยมีพระห์เส้ง ญาณพโล ร่วมกับพุทธบริษัทสร้างขึ้น
มีการพัฒนาต่อเนื่องเรื่อยมาจนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2496 และได้รับการพัฒนาอีกครั้งเมื่อปี 2545 หลังจากที่พระวิสิฐพัฒนวิธาน เดินทางมาพำนักที่วัดแห่งนี้
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2545 พระพรหมวรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม วัดยานนาวา ได้เดินทางมาเยี่ยมที่วัด เพื่อจัดสร้างพุทธศาสถาน และพระมหาธาตุเจดีย์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
จากนั้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จแทนพระองค์ทรงวางศิลาฤกษ์มหาธาตุเจดีย์ และทรงเททองหล่อพระพุทธปฏิมาประจำพระชนมวาร
ในโครงการจัดสร้างพุทธสถานและมหาธาตุเจดีย์ เฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ
ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามวัดใหม่ จากวัดบางโทง เป็น วัดมหาธาตุวชิรมงคล สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
วันนี้เราได้ชมความงดงาม กราบสักการะบูชาและห่มผ้าองค์พระธาตุ ทำให้รู้สึกอิ่มใจและมีความสุขมาก
เราเข้าใจแล้วว่า ทำไมถึงมีคนบอกว่าถ้ามากระบี่ไม่มาวัดมหาธาตุวชิรมงคล อาจเสียใจไปตลอดชีวิต ก็เป็นจริงอย่างที่เขาพูดนั่นล่ะ
อ้อ!! แนะนำนิดนึงสำหรับผู้ที่จะเดินทางกราบสักการะบูชาองค์มหาธาตุเจดีย์ ขอให้แต่งกายสุภาพด้วยนะคะ ^^
ปร์วีร์8/3/63
///////////////////