Wednesday, December 18, 2024
More
    Homeข่าวเด่นรอบวันเปิดคำร้องฝากขัง“โกทอน”และสมุน พบขัดแย้งรุนแรงเรื่องเลือกตั้งนายก อบจ.

    เปิดคำร้องฝากขัง“โกทอน”และสมุน พบขัดแย้งรุนแรงเรื่องเลือกตั้งนายก อบจ.

    คำร้องฝากขัง เปิดพฤติการณ์โหด สังหาร สจ.โต้งจัดเตรียมคนและอาวุธไว้สังหาร

    ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อเวลา 16.00 . วันที่ 13 ..67 พนักงานสอบสวน สภ..ปราจีนบุรี คุมตัวนายธนศรัณย์ เตชะธนัตถโชติ อายุ 32 ปี (กอล์ฟ)  มือยิง,นายศักดิ์สิทธิ์  ชินวงษ์อายุ 34 ปี ( ตูน ) มือยิง, นายธนภัทร ส่งแสง อายุ 18 ปี , นายอภิสิทธิ์ สดชื่น อายุ 34 ปี , นายสิทธิชัย ศรีภักดี อายุ 41 ปี,นายภัทรนนท์ บุญชู อายุ 38 ปี ,นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร อายุ85 ปี  มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน

    คำร้องฝากขังระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ..เวลาประมาณ 20.30 . เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุได้ยินเสียงอาวุธปืนจำนวนหลายนัด ที่บ้าน ถนนโรมันอุทิศ .หน้าเมือง.เมืองปราจีนบุรี .ปราจีนบุรี จึงได้ร่วมกันไปตรวจสอบที่บ้านดังกล่าว

    เมื่อไปถึงบริเวณหน้าบ้านมีลักษณะสามชั้น มีรั้วรอบไว้ทุกด้านเปิดประตูไม่ได้ จึงได้วางกำลังปิดล้อมไว้และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นเมื่อผู้บังคับบัญชาเดินทางมาถึง จึงได้มีการเจรจากับคนที่ดูแลบ้านเบื้องต้นยินยอมให้เฉพาะเจ้าพนักงานตำรวจ เข้าไปในบ้านเพื่อตรวจสอบเหตุฯ

    เมื่อเข้าไปในบริเวณบ้านได้แล้ว พบนายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้ถูกจับกุมที่ 7 อยู่บริเวณหน้าบ้านนอกตัวบ้านและเมื่อเข้าไปในตัวบ้านพบนายสิทธิชัย ศรีภักดี ผู้ถูกจับกุมที่ 5 และ นายภัทรนนท์ บุญชู ผู้ถูกจับกุมที่ 6 อยู่ที่ห้องโถงชั้นล่าง และ และพบศพนายชัยเมศร์หรือสจ.โต้ง สิทธิสนิทพงศ์ นอนอยู่บริเวณบันไดทางขึ้น ปลายเท้าอยู่ตรงบันได

    พบปลอกกระสุนหลายนัดและหลายขนาด อยู่ข้างศพ โดยนอนหงายปลายเท้าอยู่ที่บันไดและพบแม็กกาซีนแบบยาวขนาด 9 มม.ตกอยู่หนึ่งอันใต้โซฟา และร่องรอยกระสุนปืนที่พื้นใกล้กับศพผู้ตาย 

    จากนั้นขึ้นไปตรวจสอบบนชั้นที่ 2ของบริเวณบ้านดังกล่าว ไปพบกับนายธนศรัณย์กรณ์หรือกอล์ฟ ผู้ถูกจับที่ 1ให้การเบื้องต้นได้ใช้อาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยิงผู้ตาย และอาวุธปืนยาว ลูกซองขนาด 12 วางอยู่ที่พื้นใกล้กับบันได

    นายศักดิ์สิทธิ์หรือตูน ผู้ถูกจับที่ 2 ให้การเบื้องต้นว่า ใช้อาวุธปืนลูกยาวที่วางอยู่ที่พื้นยิงผู้ตายในที่เกิดเหตุ โดยผู้ถูกจับกุมที่ 1,2 ให้การอีกว่าที่ต้องยิงผู้ตายเพราะว่า เกิดทะเลาะกับผู้ตายในที่เกิดเหตุ

    พบนายธนภัทร ผู้ถูกจับที่ 3 และนายอภิสิทธิ์ ผู้ถูกจับที่ 4 อยู่บนชั้นที่ 2 ของบ้านบริเวณห้องนอนใหญ่ขึ้นบันไดอยู่ทางขวามือของบ้านหลังดังกล่าว จึงควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมที่ 1-4 ไว้ 

    จากนั้นจึงได้รายงานเหตุเบื้องต้นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นพนักงานสอบสวนและพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ก็มาตรวจสถานที่เกิดเหตุฯและชันสูตร

    เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำตัวผู้ถูกจับกุมที่ 1-7 มายัง สภ.เมืองปราจีนบุรี และแจ้งให้กับผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับกุม ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปินและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

    เนื่องจากคดีมีพฤติการกระทำที่อุกอาจร้ายแรงไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เป็นอันตรายต่อสังคม และเชื่อว่าผู้ถูกจับกุมที่ 1-7รู้เห็นเป็นใจ และมีการแบ่งหน้ากันทำ และ มีส่วนร่วมกันในการกระทำผิด โดยผู้ถูกจับกุมที่ 7 เป็นเจ้าของบ้านนัดหมายให้ผู้ตายมาพบที่บ้านที่เกิดเหตุฯ

    จึงเชื่อว่า มีการร่วมกันกระทำผิดในคดีนี้ และเกรงว่าผู้กระทำผิดจะหลบหนี ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรืออาจก่อเหตุร้ายประการอื่นและไม่อาจจะขอหมายจับจากศาลได้ จึงต้องจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1-7เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อดำเนินคดีให้ได้รับโทษตามฎหมาย

    ผู้ถูกจับกุมที่ 1,2 รับว่า ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตายจริงส่วนผู้ต้องหาที่ 3-7ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงบันทึกจับกุมตัวและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนุนรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

    ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับผู้ต้องหาที่ 7 มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมากจนผู้ตายบอกกับใครๆ ว่า เป็นลูกบุญธรรมของผู้ต้องหาที่7

    ต่อมาผู้ตายกับผู้ต้องหาที่7ได้มีการขัดแย้งทางการเมืองกันอย่างรุนแรงเพื่อรับเลือกตั้งเป็นนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง โดยผู้ตายประสงค์จะให้ภรรยาลงรับสมัครเลือกตั้งในตำแหน่งดังกล่าว ส่วนผู้ต้องหาที่ 7 จะส่งบุคคลอื่นลงรับสมัครเลือกตั้งดังกล่าว

    สร้างความไม่พอใจและทำให้เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงทำให้ต่างฝ่ายต่างระมัดระวังตัวว่าจะถูกลอบทำร้ายจึงได้มีการตระเตรียมกำลังคน อาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้

    ในวันเกิดเหตุวันที่11 ..67  ผู้ต้องหาที่ 1-7 ได้วางแผนที่จะฆ่าผู้ตาย โดยแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งจัดเตรียมกำลังคน อาวุธปืนร้ายแรงและเครื่องกระสุนจำนวนมาก

    จึงนัดหมายให้ผู้ตายมาพบผู้ต้องหาที่ 7 ที่สำนักงานที่ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านพักที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบผู้ต้องหาที่ 7 ผู้ตายกับพวกจึงได้พากันเดินไปที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่ 7 โดยผู้ต้องหาที่ 7 ได้ออกมาพบผู้ตายที่บริเวณหน้าบ้านพัก และได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง

    ระหว่างนั้นผู้ต้องหาที่ 1-6 ก็ได้หลบซุ่มรอก่อเหตุอยู่ภายในห้องและภายในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อการโต้เถียงกันเสร็จสิ้นลงเหมือนจะทำความเข้าใจระหว่างกันได้แล้ว ผู้ตายจึงได้เข้าไปภายในบ้านพักเพื่อจะไปส่งผู้ต้องหาที่ 7 เข้านอนและพูดคุยกันตามปกติที่เคยทำมาโดยตลอด

    ระหว่างนั้นผู้ต้องหาที่ 1-6ได้แบ่งหน้าที่และแบ่งกำลังกัน โดยเตรียมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ก่อเหตุ ได้ดักรอผู้ตายอยู่ภายในห้องพักบนชั้นที่ 2 ของบ้านที่เกิดเหตุ

    ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 รออยู่ที่บริเวณชั้นล่างของบ้านพัก เมื่อผู้ตายพูดคุยกับผู้ต้องหาที่ 7 เสร็จสิ้นก็ออกจากห้องพักของผู้ต้องหาที่ 7 ขณะกำลังเดินลงบันไดเพื่อลงมาที่ชั้นล่าง

    ระหว่างนั้นผู้ต้องหาที่ 1-6ได้ใช้อาวุธปืนของกลางยิงใส่ผู้ตายหลายนัด จนตกลงมานอนเสียชีวิตที่บริเวณทางขึ้นลงบันใด

    หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปเข้าตรวจสอบในที่เหตุ และจับกุมผู้ต้องหาที่ 1-7 พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ปลอกกระสุนปืนปืนจำนวนมากที่ใช้ก่อเหตุ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

    พนักงานสอบสวนแจ้งพฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานเพิ่มเติมว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาและขอให้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาและได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบแล้ว

    สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้คือ

    1.อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.ยี่ห้อGlock สีดำ พร้อมแม็กกาซีน1 อัน บรรจุอยู่ในตัวปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 122นัด และ 1 นัดอยู่ในรังเพลิง รวมเครื่องกระสุนปืนจำนวน 53นัด

    2.ปืนกลมือกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ EMTAN ISRAEL สีดำ จำนวน 1 กระบอก ขนาด 9มม. พร้อมแม็กกาซีน 1 อันบรรจุอยู่ในตัวปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9มม. จำนวน27นัด และ 1นัดอยู่ในรังเพลิง รวมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 28 นัด

    3.แม็กกาชีน GLOCK 1 อัน เครื่องกระสุนขนาด 9มม.จำนวน 15 นัด บรรจุในแม็กกาซีน  เครื่องกระสุนปืนขนาด 9มม. จำนวน 28 นัด บรรรจุในแม็กกาชีน ROCK ISLAND 1 อัน เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 ACP. จำนวน 13นัด

    4.ปืนพก กึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ ROCK ISLAND ขนาด.45 ACP. สีเทาดำ เครื่องกระสุนปืนปีนขนาด.45ACP. บรรรจุในแม็กกาขึ้น1นัดในรังเพลิง รวมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 13นัด

    5.ปืนรีวอลโว่ แบบลูกโม่ ยี่ห้อ SMITH & & WESSON ขนาด357สีเงิน พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืน ขนาด .357บรรจุในลูกโม่จำนวน 6นัด นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป้าสะพายข้างสีเทาดำ ซุกซ่อนอยู่บริเวณเคาท์เตอร์ภายในห้องโถง

    6.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9มม. จำนวน 34นัด บรรจุในกล่องเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน377นัดบรรจุอยู่ในกล่อง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป้าสะพายข้าง ดำ ซุกซ่อนอยู่บริเวณเคาท์เตอร์ภายในห้องโถง

    7.เสื้อคลุมสีดำเเขนยาวมีหมวกคลุม

    8.อาวุธป็นสั้นถึงอัตโนมัติขนาด 9มม.ยี่ห้อ Glock 19 สีดำไม่ได้บรรจุเครื่องกระสุนปืน วางแอบซ่อนอยู่ใต้หมอนภายในห้องพักชั้นสามพร้อมแม็กกาชีน 3 อัน

    9.ปืนพกกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อ บาเร็ตต้า ขนาด 9 มม. สีดำ ไม่ได้บรรจุเครื่องกระสุนปืน พร้อมแม็กกาชีน 2 อัน

    10.ซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด สีดำ 1 เครื่อง

    ในชั้นจับกุมเเละสอบสวนผู้ต้องหา1-2ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 3-7 ให้การปฏิเสธผู้ร้องยังต้องสอบพยานอีก6 ปากรอผลตรวจรายนิ้วมือประวัติอาชญกรรมผู้ต้องหา รอผลตรวจพิสูจน์ของกลางจึงขออนุญาตศาลฝากขังครั้งเเรก

    ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี,ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูงกระทำผิดเป็นอุกอาจร้ายแรง อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นการกระทำในลักษณะของผู้มีอิทธิพลไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และความสงบเรียบร้อยของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี

    หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจะหลบหนียุ่งเหยิงกับพยานพยานหลักฐานหรือเหตุร้ายประการอื่นอาจมีการข่มขู่พยาน ทำให้ความเสียหายร้ายแรงต่อการสอบสวนดำเนินคดีโดยผู้เสียหายเเละพยานในคดีก็ขอคัดค้าน เนื่องจาก คดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี,ผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานด้วย

    ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังเป็นเวลา 12 วัน โดยภายหลังผู้ต้องหาที่ 3-7 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ส่วนผู้ต้องหาที่ 1-2 ไม่ยื่นคำร้อง โดยคดีนี้มีการตีราคาประกัน 4-8 เเสนบาทต่อคน  

    ศาลพิจารณาเเล้วไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากพฤติการณ์ตามคำร้องเป็นพฤติการณ์ที่อุกอาจ เเละเป็นที่สนใจของประชาชนเกรงว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับผู้เสียหายค้านการประกันตัว

    หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาเกรงว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะหลบหนี แม้ผู้ต้องหา ที่ 7 มีโรคประจำตัวแต่พ... ราชทัณฑ์ก็ให้อำนาจราชทัณฑ์ อนุญาตให้ไปรักษาตัวนอกเรือนจำได้ ในชั้นนี้จึงให้ยกคำร้อง ของผู้ต้องหาทั้ง 7  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ไปคุมขังยังเรือนจำระหว่างฝากขังต่อไป

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments