ปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วง3ปีที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางภายใต้การนำของบิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.มีผลงานครบเครื่องทุกมิติ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานอาชญากรรม ตามบก.ที่มีหน้างานรับผิดชอบ รวมไปถึงงานประชาสัมพันธ์และจิตอาสา และเรื่องของสวัสดิการความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจในหน่วยโดยเฉพาะ CIB TOWN
บอกได้เลย…อลังการงานสร้าง ภายในมีเพียบพร้อมทุกสิ่งอันจนอยากให้ตำรวจทุกบช.มาศึกษาดูงานที่ บช.ก.เพื่อนำกลับไปพัฒนาหน่วยงานโดยไม่ต้องไปดูไกลถึงเมืองนอก
วันนี้จะพาไปเปิดลิ้นชักสมอง“บิ๊กก้อง”พูดคุยกันอย่างจุใจ ถึงผลงานก้าวย่างเข้าสู่ปีที่4ในตำแหน่ง“นารายณ์1”ว่า ตำรวจสอบสวนกลางในยุคนายพลคนนี้ พัฒนาไปขนาดไหน
สร้างคนตั้งแต่อยู่กองปราบ
ผมอยู่ในตำแหน่งนี้ 3 ปี ปีนี้ขึ้นปีที่ 4 ที่ผ่านมา 3 ปีพยายามพัฒนาหน่วยทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเรื่องการทำงาน ตั้งแต่เมื่อก่อนที่ผมเป็นผู้การกองปราบพยายามบ่มเพาะคนไว้ คนค่อนข้างมีคุณภาพสูงมีฝีไม้ลายมือ มีคุณธรรมก็บ่มเพาะไว้ พอเป็น ผบช.ก็เริ่มกระจายคนออกมาตาม บก.ต่างๆ
“บิ๊กก้อง”เริ่ม
ผลงานเด่นประจักษ์ทุกบก.
นอกจากกองปราบ บก.อื่นๆก็มีความสามารถสูงขึ้นเรื่อยๆ มีผลจับกุมในงานแต่ละด้านเยอะขึ้น เป็นเรื่องหลักเราที่อยากให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นระดับเครือข่าย
พยายามพัฒนาทุก บก.ถ้าถามนักข่าวประจำที่นี่ อย่างพี่อ้นไทยรัฐ จะเห็นว่าทุก บก.มีการพัฒนาศักยภาพ ผลงานต่างๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน ทุก บก.
ปปป.เห็นชัดจากรับเป็นรุก
อย่าง ปปป.เมื่อก่อนก็เป็นเชิงรับ ปัจจุบันเชิงรุกมากหรืออย่างทางหลวง ปัญหาเรื้อรังเรื่องรถน้ำหนักเกิน ตั้งแต่ผมมาเป็น ผบช.ก.ก็แก้ปัญหาปราบอย่างเต็มที่เชื่อว่าหายไป 80-90% อาจจะมีพวกลักลอบแอบทำบ้างยังไล่จับกันอยู่
ตำรวจป่าไม้เน้นสวล.
ตำรวจป่าไม้ ผมว่ามีผลงานจับกุม ทั้งเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ การบุกรุกที่ การตัดไม้ทำลายป่าสัตว์ป่าหรือตอนหลังๆ เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ปราบบ่อขยะทั่วประเทศ หรือการทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ
ปคบ.-ปอศ.มีคดีสำคัญตลอด
คุ้มครองผู้บริโภค เมื่อก่อนก็เงียบๆ ตอนนี้อย่างคดีดิไอคอนฯ แม่ตั๊ก มีคดีสำคัญตลอด ตำรวจเศรษฐกิจสมัยก่อนจับแต่ของหนีภาษี ละเมิดลิขสิทธิ์ จับกันอยู่แค่นั้น เดี๋ยวนี้จับหลายอย่าง ร่วมกับสรรพากร สรรพสามิต ศุลกากร
ผ่านเกณฑ์แต่ยังท็อปฟอร์มได้อีก
จับแบบพวกอาชญากรรมที่เป็นเครือข่าย จับเคสใหญ่ๆ หลายเคส หรือว่าไปดูเรื่องพวกคอลเซ็นเตอร์ ก็ดูเรื่องบัญชีม้า จริงๆ ทุก บก.ผมว่าพัฒนาหมดแหละ ผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้แต่ยังไม่ท็อปฟอร์ม ยังดีได้อีก แต่ว่าดีกว่าเดิมอย่างมีนัยยะสำคัญ
แต่เรายังมีเป้าหมายที่อยากให้เจ๋งกว่านี้อีก ทั้งฝีไม้ลายมือและผลงาน อยากใหมองเรื่องอาชญากรรมขนาดใหญ่ระดับประเทศ พยายามพัฒนาไปเรื่อยๆครับ
พัฒนาคนให้เป็นระดับอินเตอร์
เรื่องอื่นๆที่พัฒนาอย่างเรื่องคน เราจัดเทรนนิ่งตลอด มีโรงเรียนสืบสวน มีการทำงานร่วมกับต่างประเทศ มีโครงการที่จะทำร่วมกับเขาหลายโครงการ เขาส่งคนมาสอนส่งคนมาเป็นครู เราต้องการให้มาตรฐานตำรวจเราเป็นระดับอินเตอร์
ความสามารถในทุกมิติเลย ทั้งการสืบสวน ความสามารถทางยุทธวิธี เรามีเทรนนิ่งผมว่าเยอะที่สุดในตำรวจไทย คือทั้งต่างประเทศเทรน แล้วที่เราเทรนกันเอง
ปั้น3ปีระบบบิ๊กดาต้า
เรื่องเทคโนโลยี เราทำระบบบิ๊กดาต้าใช้เวลาปั้น 3 ปี บิ๊กดาต้าเราเป็นระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ผมเชื่อว่าที่นี่มีข้อมูลเยอะที่สุดในประเทศไทย มีศักยภาพ มีตัวชี้วัดที่เห็นได้ชัด
อย่างหมายจับในประเทศไทยตอนนี้มีประมาณแสนกว่าหมาย ปกตินักสืบจะไปสืบสักหมายต้องใช้เวลามหาศาลต้องไปนั่งกดข้อมูล โน่น นี่ นั่น ตอนนี้ใช้ระบบบิ๊กดาต้ามอนิเตอร์
เชื่อไหม เจอโดยที่ไม่ต้องสืบ เอาคอมพิวเตอร์ทำมันสามารถโลเคทว่าเจอผู้ต้องหาตามหมายจับ เดือนละประมาณ 1,000 หรือเกือบ 2,000 หมาย แสดงว่าเดือนหนึ่งจะพบมาก แต่จับได้จริง บางทีแจ้งประสานโรงพัก เขาอาจจะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง
บช.ก.ชี้เป้าทางหลวงไล่ล่า
หมายจับ บางทีคนไม่ค่อยอยากจับเพราะขี้เกียจส่ง แต่ของเรานี่เจอเสร็จแล้ว คนของเราไม่ได้อยู่ตามพื้นที่ เราก็ส่งไปตามพื้นที่ ถ้าเราไปเองได้เราก็ไปจับ ส่วนมากใช้ทางหลวงตอนนี้ประมาณ 90% ที่ไปจับ
คือเหมือนส่วนกลาง ระบบบิ๊กดาต้า มอนิเตอร์เจอปุ๊บส่งไปให้ทางหลวงจับ จะได้ประมาณ 200-300 ต่อเดือน แล้วส่งให้หน่วยงานอื่นบ้าง โดยรวมถือว่าไม่น้อย ไม่ต้องมานั่งสืบสวน แค่ชี้เป้าแล้วจับเลย อันนี้เป็นแค่ส่วนเดียวของบิ๊กดาต้า
บิ๊กดาต้า ทำได้อีกหลายอย่าง อย่างเช่นตอนประชุมเอเปก เราก็ใช้บิ๊กดาต้าในการป้องกันอาชญากรรม ผู้ก่อการร้าย หรืออะไรต่างๆ เราก็มอนิเตอร์
ไม่หยุดพัฒนาต้องให้ทันโจร
ปัจจุบันยังไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เทคโนโลยีหรือเรื่องเครื่องมือต่างๆที่ใช้ทำงานสำหรับการสืบสวน มันมีเครื่องมือสมัยใหม่ ต้องมีเทคโนโลยีที่ทันกับคนร้าย ต้องมีเครื่องมือช่วยในการทำงานเหมือนอย่างที่ต้องใช้
ถามว่าเพียงพอไหม ผมว่าในระดับประเทศ เราไม่น้อยกว่าใคร แต่ถ้าในระดับอินเตอร์เราอาจจะอยู่ระดับกลางๆ สามารถพัฒนาไปได้อีก สามารถหาเครื่องมือที่ทันสมัยกว่านี้ ยังไม่ได้มีครบแต่พยายามจะทำต่อไปเรื่อยๆ
”หนุมาน“เด็กใหม่สร้างชื่อหน่วย
ด้านยุทธวิธีเราสร้างหน่วยหนุมาน ยังอายุแค่ 3 ปีกว่า 4 ปีมีผลงานเรียกว่าไม่เป็นรองใคร ถือว่าได้ออกจับ ออกทำงานได้หมด เคสสำคัญๆหลายเคส หรือไปแข่งสวาทชาเล้นท์ แข่งขันด้านปฏิบัติการพิเศษภายในของ สตช.ก็ได้แชมป์เกือบทุกปี มีปีหนึ่งได้ที่ 2 แค่นั้นจะได้ที่ 1 หรือที่ 2 สลับกัน ถือว่าสำหรับน้องใหม่แล้วไม่ขี้เหร่เป็นเด็กสร้างใหม่ทั้งหมด
กีฬาเสริมสมรรถภาพกำลังพล
เรื่องสวัสดิการ เราทำสนามกีฬาทำฟิตเนส คือตำรวจเรื่องสมรรถภาพร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าจะบังคับวิ่งมาออกกำลังกายมาฝึกคงน่าเบื่อเกินไป เลยใช้กุศโลบายสร้างสนามกีฬาขึ้น ใครอยากจะเล่นอะไรก็ไปเล่น แล้วเรามีเทสต์ร่างกาย เอาแบบจริงจัง
เทสต์ร่างกายมีผลต่อขั้น
ผมจ้างกรมพลศึกษามาเทสต์เลยจริงจังประมาณปีละ 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นเหมือนเราบี้ให้เขาต้องเทสต์ร่างกายให้ผ่าน เพราะมีผลต่อทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง มีผลต่อการแต่งตั้งให้ขั้น เขามีหน้าที่ไปหาวิธีออกกำลังกายในสิ่งที่เขาชอบ ผมว่าได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วย การเล่นกีฬาทำให้จิตใจแจ่มใส
สนามยิงปืนเสริมทักษะ
ส่วนการฝึกยุทธวิธี เราสร้างสนามยิงปืนขึ้นในพื้นที่ให้ง่ายต่อการฝึก จากที่ตำรวจเราไม่ค่อยได้ซ้อมยิง ตอนนี้ยิงมากขึ้น มีหลักการมีคนสอนเพราะในอดีตโจรไม่ค่อยกล้ากับตำรวจ ไม่กล้ายิงสวน แต่เดี๋ยวนี้มันยิงสวนเป็นว่าเล่น
ถ้าเห็นในข่าวจะเห็นตำรวจทางหลวงฝึกอยู่ตลอด ฝึกทบทวนแนะนำว่าเจอเผชิญเหตุต้องทำอย่างไร หรือว่าหน่วยอื่น เราก็ฝึกยุทธวิธีเหมือนกัน
ช่วงที่ผ่านมา ผมมีลูกน้องกองปราบถูกไอ้ฉุย ยิงเสียชีวิตไปคนหนึ่ง เราวิสามัญไปรายหนึ่ง แล้วตามจับทั้งแก๊งแต่ว่าไม่คุ้มอยู่ดี มองว่าอยากให้ทุก บก.ฝึกยุทธวิธี ให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย
จัดทำเทรนนิ่งเซ็นเตอร์
เรื่องสถานที่เราจัดทำเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ ฝึกอบรมผู้ใต้บังคับบัญชาทีมงาน ทำห้องอย่างดีเลย สามารถเทรนได้ทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ คือถ้าออฟไลน์ก็มารวมกันที่ชั้น 4 ของตึก บช.ก. แล้วออนไลน์ก็หมายถึงว่า ทุกครั้งที่มีการสอนจะมีการบอร์ดเคสออนไลน์ไปด้วย เพราะสอบสวนกลาง มีคนในพื้นที่ทั่วประเทศ
เก็บข้อมูลในอีไลเบอรี่
บางทีหลักสูตรครึ่งวัน หรือ 1 วัน ให้เขาเข้ามาข้างในไม่คุ้ม เพราะฉะนั้นให้เขาเรียนออนไลน์ได้ถ้าใครเข้าเวรอาจจะรอ เดี๋ยวพอเราเสร็จก็ใส่ไว้ในอีไลเบอรี่ คือเหมือนพอเทรนนิ่งเสร็จใส่ไว้ในอินเตอร์เน็ต อีไลเบอรี่เหมือนเป็นห้องสมุดออนไลน์คือเทรนนิ่งต่างๆเราใส่ไว้ อย่างตำรวจทางหลวงขับรถอยู่ ไม่มีเวลาเรียน ออกเวรว่างมาเปิดคลิปดูได้
มีระบบสื่อสารภายในแจ้งข่าว
สมมติเราสอนเรื่องคริปโตฯ ใครอยากรู้เราก็มีระบบการสื่อสารในองค์กรคือเรื่องของการประชาสัมพันธ์ เราจะแจ้ง สมมติว่าจะมีอบรมเรื่องนี้ ใครสนใจบ้าง อยากจะมาเรียนออฟไลน์ มาเรียนออนไลน์ ก็ลงชื่อได้
ทุกบก.รวมกันเป็นซีไอบีทาวน์
เราพยายามจะพัฒนาตรงนี้ให้เป็นซีไอบีทาวน์ มีความเป็นหนึ่งเดียว เอาทุก บก.รวมกัน ทำเป็นสมาร์ทแคมปัส มีความทันสมัยในนี้มีกล้องเป็นพันตัว มีคนร้ายบุกเข้ามาในพื้นที่ก็สามารถจับได้ ใครจะมาคิดไม่ดีกับที่นี่ก็สามารถเช็คได้ เรื่องระบบต่างๆจะทำให้ทันสมัยหน่อย
2ตึกที่พัก 1,400ห้อง
ซีไอบีทาวน์ เป็นที่พักตำรวจสอบสวนกลาง มี 2 อาคารๆละ 700 ห้อง แบ่งเป็นห้องใหญ่กับห้องเล็ก ห้องใหญ่จะเป็นครอบครัว ห้องเล็กส่วนมากจะคนเดียวหรือห้องใหญ่ถ้าอยู่หลายคนจะพอได้ ก็แต่ยังไม่พอ ยังมีคนรอเข้าคิว
เรามีนโยบายว่าใครที่ไม่พักไม่ให้อยู่ อย่างผมต้องมีห้องประจำตำแหน่งอยู่ไว้เก็บของ ไว้อาบน้ำ แต่เราทำเป็นตัวอย่างไม่เอาเพราะไม่ได้อยู่จริง ยังไงต้องกลับบ้านทุกวัน จะอยู่ที่นี่มันเป็นไปไม่ได้ เวลามาก็ต้องมาทำงาน จะไปอยู่ที่ห้องได้ก็ไม่ถึง 5% ก็เสียดายห้องทำเป็นตัวอย่างให้ทุกคนดู ว่า ผบช.ก.ไม่ได้อยู่ก็ไม่มีสิทธิ์
ดังนั้นทุกคน ถ้าใครไม่อยู่ก็อย่าเอาห้อง ไม่ว่าจะ รอง ผบช. ผบก. รอง ผบก.หรือใคร คือถ้าอยู่จริง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องมีสิทธิ์ แต่ถ้าไม่ได้อยู่จริงหรืออยู่น้อย ก็ให้คนที่เขาอยู่ตลอดจะเกิดประโยชน์กว่า
ระบบสมาร์ทแคมปัสตรวจเช็ก
ที่นี่ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าสมาร์ทแคมปัส มีระบบตรวจจับใครบอกว่าอยู่แล้วไม่ได้อยู่จริงเราเชิญออก เราดีเทคได้จากระบบกล้อง คุณไม่ได้เข้ามาที่ห้องเราก็รู้ รู้ขนาดว่าบางคนไม่มาทำงานสามารถดีเทคได้ เหมือนสแตมป์บัตรไปในตัว คุณไม่มาทำงาน เราก็รายงานไปที่ผู้การแต่ละ บก. ไปตรวจสอบ
อก.-ปฏิบัติ ได้สิทธิ์ก่อน
กำลังพลส่วนใหญ่ในซีไอบีทาวน์จะเป็นผู้ปฏิบัติที่เรียกกำลังได้ มี 2 ฝ่าย มีทั้งอำนวยการและปฏิบัติ ผมให้สิทธิ์คนที่อยู่ในนี้ก่อน เฉพาะคนที่ทำงานในนี้เท่านั้น ใครที่ประจำอยู่ต่างจังหวัดไม่มีสิทธิ์ ใครที่ บก.อื่น ที่ไม่ได้อยู่ในนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ ให้สิทธิ์คนในนี้ก่อนเพราะคนในนี้ยังไม่พอเลย
ดึงนักกีฬาสอนลูกหลานตร.
เราคิดไปถึงครอบครัวเลยนะ อยู่แล้วครอบครัวมาเล่นกีฬาได้ เอาตำรวจที่เป็นนักกีฬาทำจิตอาสาสอนเด็กๆ เห็นได้อย่างเด็กๆที่เล่นแบดฯ จากไม่เป็นเลยปัจจุบันไปได้เหรียญระดับประเทศ ไม่ว่าจะได้ที่ 1 หรือที่ 2 ที่ 3
เป็นอะไรที่น่ารัก เด็กไม่ไปเสียคนที่ไหน เลิกเรียนมาก็เข้าสนามแบดฯ ปิดเทอมก็กินนอนกันอยู่ที่คอร์ทแบดฯ พ่อแม่ก็สบายใจทำงานไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง เย็นๆนี่ ไปลฟ์รี่มาก เตะบอล ตีแบดฯ ตีเทนนิส เล่นบาสฯ
ทำจิตอาสาทุกเดือน
เรื่องจิตอาสา เราเห็นว่าท่านมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เราพยายามจะทำจิตอาสาทุกเดือน ในสอบสวนกลางเราผลัดกันออกไปทุกเดือนมีหลายเรื่อง ทั้งช่วยภัยพิบัติเช่น อุทกภัย จะไประดมช่วยกัน
ช่วงไหนไม่มีอะไร จะไปช่วยดูโรงเรียนอย่างโรงเรียน ตชด.ที่อยู่ชายแดนติดเมียนมาบ้างชายแดนภาคเหนือ ชายแดน จ.กาญจนบุรี ขาดอะไรก็ไปช่วย พวกนี้ลำบากขาดเยอะ ครูนี่แทบจะเอาเงินเดือนตัวเองเลี้ยงนักเรียนก็ไปเติมให้เขา
จะให้อะไรจะถามเขาก่อน
วิธีการเติมให้เขาจะไปสัมภาษณ์ โรงเรียนขาดอะไรอยากได้อะไร อยากได้ชุดนักเรียนใช่ไหม บางที่อยากได้สนามเปตอง ก็ไปทำสนามเปตอง ดูความต้องการของเขา
ไม่ใช่ไปถึงแจกๆ เขาอยากได้หนังสือไปพัฒนาห้องสมุด ไปทาสีห้องสมุดใหม่ ผมไปขอสปอนเซอร์หนังสือที่เขาบริจาคเอาไปใส่ในห้องสมุด
อย่างที่ลิบง ขาดน้ำจืด ทั้งอุปโภค บริโภค คือทั้งน้ำกินน้ำใช้ สำรวจแล้วไปช่วยเขาหาวิธีไปขุดน้ำบาดาลไม่รู้เป็นเพราะอะไรแตก็โชคดี เจาะครั้งเดียวลึกไป 35 เมตร เจอตาน้ำเลย ได้หมื่นลิตรต่อชั่วโมงคือเจาะครั้งเดียวแล้วได้
ถือว่าเป็นเดชะพระบารมีนะผมว่า ทำให้ประชาชนทั้งในโรงเรียนและคนแถวนั้นได้ใช้ก็คุ้มค่าโดยเฉพาะในหน้าแล้ง
แล้วผมถามเขาว่าเขาขาดอะไร อย่างเด็กๆเดินระหว่างอาคาร บางทีฝนตกเดินลำบากก็ทำทางเดินมีหลังคา หรืออย่างเขาเป็นอิสลามส่วนใหญ่บนเกาะลิบง ขาดที่จัดกิจกรรมของศาสนาในการละหมาดหรือใช้ประกอบพิธีการก็สร้างอาคารเอนกประสงค์ ทั้งโรงเรียนและในชุมชน แล้วไปช่วยกันสร้าง
ร่วมสร้างทำกับชาวบ้านในพื้นที่
เรามีผู้ใหญ่ใจดีเป็นสปอนเซอร์ บางทีอาจจะไปขอสนับสนุนหน่วยงานราชการที่มีเครื่องมือเครื่องใช้ คนของเราก็ไปช่วยสร้างเองเลย แล้วชาวบ้านคนในพื้นที่ ชวนเขามาทำด้วยกัน
พอมาทำแล้วเขามีจิตใจที่รู้สึกว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตำรวจไม่ใช่เป็นผู้มีอำนาจมาจากไหน เป็นเพื่อนเขานั่นแหละที่ช่วยพัฒนาชุมชน ตัวเขาเองได้ร่วมพัฒนาชุมชน เขาจะรู้สึกรักชุมชนของเขา
:การแสวงหาการมีส่วนร่วมของประชาชนกับซีไอบี ที่ทำอยู่ อย่างทีมประชาสัมพันธ์ที่ออกไป ในปีนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป มีเป้าหมายอะไรเพิ่มขึ้นไหม ในการขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน
จริงๆผมว่าความร่วมมือจากประชาชน เป็นอะไรที่สำคัญมาก อย่างทฤษฎีตำรวจที่เรียกว่า คอมมูนิตี้ โพลิสซิ่ง คือชุมชนตำรวจ หรือตำรวจชุมชน ความหมายคือถ้าประชาชนรู้สึกว่าเป็นตำรวจ เขาช่วยสอดส่องดูแล เขาคือคนที่รู้ดีที่สุด ว่าเกิดอะไรขึ้นในชุมชนเขา
ใช้ความร่วมมือจากชุมชน
อย่างเช่น สมาคมรถบรรทุก ผมบอกว่าถ้าคุณเจอรถหนักบรรทุกเกินให้แจ้งด้วย เขานี่แหละคือคอมมูนิตี้โพลิสซิ่งให้เขาช่วยดูกันเอง เพราะเขาอยู่ในวงการเขาเห็น แต่ถ้าเอาตำรวจวนหา มันใช้กำลังมหาศาล แล้วหาไม่เจอด้วยเสียกำลังด้วย ไม่จำเป็นต้องเพิ่มตำรวจอย่างเดียว
เราใช้ความร่วมมือจากชุมชน เป็นสิ่งดีประชาชนเขารู้สึกว่าเขาช่วยกันดู เพราะจะเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ปชช.เป็นแนวร่วม
ผมบอกทุกคน บอกว่าห้ามรถหนัก แล้วถ้าทุกคนไม่รถหนัก คุณประกอบธุรกิจได้ แต่ถ้าเกิดบางคนทำได้แล้วคุณทำไม่ได้ นั่นเจ๊งแน่ เพราะผมต้องมีมาตรฐานคือใครขอก็ไม่ได้ ต้องจับหมด อันนี้คือการใช้ประชาชนมาเป็นแนวร่วม เขาแจ้งเบาะแสเราไปตามจับ หรือว่าการใช้เทคโนโลยี่
อย่างระบบบิ๊กดาต้า ก็ทำให้เราไม่ต้องใช้คนเยอะระบบคอมพิวเตอร์ ทำงานให้เรา 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วัน
บวกเทคโนโลยี่-ไม่จำเป็นเพิ่มคน
อย่างตอนเอเปก ผมใช้ระบบบิ๊กดาต้ามอนิเตอร์ผู้ต้องสงสัย แทนที่จะเอาคนไปตั้งด่านทั่วประเทศ มันก็โอเวอร์โหลด แล้วคนจะไปจำหน้าผู้ต้องสงสัย 5,000 คน ได้ยังไง หรือจะไปจำทะเบียนรถ 500 คัน หรือ 1,000 คัน มันไม่ได้ ก็ต้องใช้เทคโนโลยีผสมผสาน
ผมมองว่าการใช้คน การเพิ่มคน ไม่จำเป็น บางทีเราเพิ่มความร่วมมือของประชาชน ปลุกจิตสำนึก ใช้เทคโนโลยีมันจะดี
งานปชส.ประสบความสำเร็จ
พูดถึงงานประชาสัมพันธ์ บช.ก.ถือเป็นแบบอย่างให้กับหน่วยงานราชการได้หลายๆที่ ผมว่าของเราเรียกว่าประสบความสำเร็จในระดับสูงของประเทศ
อย่างเฟซบุ๊ก ติ๊กต่อก เรามีฟอลโลเวอร์เป็นหลักล้านหลายล้าน เราใช้การประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเรื่องการให้ความรู้เรื่องกฎหมาย ให้ความรู้เตือนภัย
สิ่งที่สำคัญคือการเตือนภัย ทำจนได้รับรางวัลเรื่องโซเชียลจากติ๊กต่อก ได้ติ๊กต่อกอะวอร์ด ทำทุกมิติ
อย่างเราไปช่วยแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ไปจับคนร้าย ไปสืบ ไปป้องกันด้วยไปเตือนภัยด้วยก็ใช้ทีมประชาสัมพันธ์เราสื่อสารกับประชาชน
ส่วนเรื่องผลการปฏิบัติงานของสอบสวนกลาง เราประชาสัม พันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ ผ่านทีมประชาสัมพันธ์ ทีมทำได้ดีอยู่เข้าถึงประชาชน ประชาชนได้รับรู้ว่า ตำรวจก็ทำงานอยู่นะ ตั้งใจนะ แล้วอาจจะได้เรียนรู้ว่า มีคดีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราระวังตัวไม่ให้เกิดขึ้นกับเขา เราทำอยู่ตลอด
:เป็นห่วงอาชญากรรมอะไรมากที่สุดในปีนี้
ตอนนี้ผมมองว่า อาชญากรรมที่กระทบต่อประชาชนคนไทยมากที่สุด ก็เป็นคอลเซ็นเตอร์กับยาเสพติด จริงๆ มีเจ้าภาพแล้ว คือ บช.ปส.รับผิดชอบเรื่องยาเสพติดเป็นหลัก ส่วนเรื่องคอลเซ็นเตอร์ เป็นบช.สอท.หรือตำรวจไซเบอร์ แต่ในส่วนตำรวจสอบสวนกลาง ก็มีหน้างานที่เป็นเฉพาะด้านตามหน้างานอาชญากรรมต่างๆ
อีกส่วนหนึ่ง กองปราบเหมือนครอบจักรวาล อย่างเรื่องคอลเซ็นเตอร์เราก็ช่วย ตั้งแต่1 ปีที่ผ่านมา เราจับยึดทรัพย์เป็นหมื่นล้านแล้ว
ผมว่าจับผู้ต้องหาตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงระดับมาสเตอร์มายด์ คนจีนเราก็จับยึดทรัพย์ พยายามปราบรวมถึงใช้โซลูชั่นเรื่องการป้องกัน เพราะเรื่องการจับมีขีดจำกัด พอเขาไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแล้วเขาไม่ร่วมมือเราก็จับไม่ได้ ก็มาทำเรื่องป้องกันมีแนวร่วมจากภาครัฐและเอกชน
ซีไอบี ถือเป็นเซ็นเตอร์ที่ทุกฝ่ายค่อนข้างร่วมมือกันอย่างดี เชื่อว่า ถ้ายกระดับความร่วมมือการป้องกันจะทำได้ดี ทำให้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ลดลง ก็คิดว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด คือตอนนี้ยังหนักอยู่ แต่จะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุดที่ทำให้มันลดลง
คุย”บิ๊กเม่น”ช่วยกันปราบยานรก
แล้วการปราบปรามยาเสพติด มี ผบช.สันติ ชัยนิรามัย ไปเป็น ผบช.ปส.ผมว่าอาจจะเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะท่านเป็นนักสืบ ผมคุยกันแล้วบอกว่าถ้ามีเคสใหญ่ๆแล้วจะให้สอบสวนกลางช่วยขยายผล เราก็ยินดี แต่เราคงจะทุ่มกำลังไปช่วยเรื่องยาเสพติดอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะงานหลักเราจะเสีย
จะใช้วิธีว่าร่วมกัน เพราะเรามีศักยภาพทั้งเรื่องคน เรื่องเทคโนโลยี ได้คุยกับท่าน ผบช.สันติ ไว้แล้วว่าเราจะร่วมมือกันแก้ปัญหาของประเทศ
สยบมาเฟียคืองานหลัก
ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น เรื่องปราบปรามผู้มีอิทธิพลเป็นงานหลักกองปราบของสอบสวนกลาง จริงๆแล้วผมเองทำมาตลอด ทำแบบไม่เกรงกลัวใคร
จะมีเอกลักษณ์ของเราเลย ว่าเมื่อไหร่ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่ว่าจะไปฆ่ากัน ไปยิงกันที่ไหน หรือสไตล์มาเฟีย ผู้มีอิทธิพล เราจะโดดลงไปทำเต็มที่
เนื่องจากเราเป็นห่วงโรงพัก บางทีเขาอยู่ในพื้นที่ ทำงานลำบาก ก็เข้าไปช่วย เข้าไปชนเข้าไปจับ ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ
ยืนยันเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นการเมือง จะเป็นมาเฟียท้องถิ่น ทางผมและทีมงานทั้งหมดรับประกัน ถ้าเจอ เอาจริงแน่นอน ถ้ามีใครไปก่ออาชญากรรมอะไรให้เกิดขึ้น ไม่มีเว้น
ทำลายทั้งเครือข่าย
แล้วเวลาเราไปทำเราไปทำลายทั้งเครือข่าย สมมติยิงกัน เราจะสืบเลยกลุ่มนี้เป็นใคร อาจจะใช้เวลาหน่อยแต่จะดูว่ามีธุรกิจมืดอะไรบ้าง จะสืบสวนออกหมายจับเสร็จ ค้น สมมติ 20 จุด ทำลายทั้งเครือข่าย ยึดทรัพย์ ยึดอาวุธ ดำเนินคดีทั้งระบบขุดรากถอนโคน ทำอย่างนี้มาตลอด
เปลี่ยนระบบเป็นดิจิทัลเบส
ปีนี้มีโครงการอีกอัน ผมตั้งชื่อว่า Digital Transformation ถ้าเอาให้แคบหน่อย เขาเรียกว่าERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning
คือการที่เราเข้าไปทำระบบซอฟต์แวร์ในสอบสวนกลาง เปลี่ยนจากเปเปอร์เบส เป็นดิจิทัลเบสทำงานกันแบบดิจิทัล ให้การทำงานกระชับ ใช้คนน้อยลงรวดเร็วขึ้น ถูกต้องแม่นยำ ต้องการจะทำระบบงานต่างๆ ให้เข้าระบบทั้งงานด้านแอดมินหรือธุรการหรือในด้านคดีคือเรื่องของอาชญากรรมอะไรต่างๆ
ตั้งใจให้บช.ก.เป็นโมเดล
คือถ้าเปลี่ยนเป็นดิจิตอล จะทำให้งานรวดเร็ว เช็คสถิติได้ สามารถดูแบบเรียลไทม์ วันนี้มีงานคืบหน้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มอนิเตอร์ทั้งหมดได้ เป็นงานที่ยากมาก อยากจะทำสอบสวนกลางให้เป็นตัวอย่างให้กับตำรวจ
ถ้าระบบอันนี้มันสำเร็จขึ้นมาได้จริงๆแล้วจะดีขนาดไหน ผมเชื่อว่าถ้าอนาคตทำได้ทั้งประเทศ จะทำให้การทำงานของตำรวจรวดเร็ว ประหยัดทรัพยากรบุคคล เวลา แล้วทำให้โปร่งใส
บริหารมีระบบ-ใช้สถิติช่วย
ถ้ามีสถิติที่ชัดเจนจะนำไปสู่การวางแผนการปราบปรามอาชญากรรม ดูในต่างประเทศเขาจะเน้นดูสถิติ สมมติพื้นที่ไหนเกิดเหตุอะไรบ่อยแล้วค่อยบริหารตามบุคลากรที่มีอยู่ ส่งรถสายตรวจส่งสายสืบเข้าไปดู จะบริหารอย่างมีระบบถ้าเรามีสถิติประกอบ
แต่ถ้าเราไม่มีกลายเป็นว่าเหมือนผู้บังคับบัญชานึกอะไรได้ก็สั่งไปมันก็ไม่ตรงจุด
อันนี้เป็นสิ่งที่ทำแน่ปีนี้ เป็นงานหนักที่จะต้องทำอย่างจริงจัง เพราะผมเซ็ตไว้เลย ว่าจะประชุมทุกอาทิตย์เลยเรื่องนี้
คุมงานสารบรรณ-กำลังพล
มันจะคนละอันกับบิ๊กดาต้า บิ๊กดาต้าเหมือนศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ แต่อันนี้เหมือนระบบงานสารบรรณ งานกำลังพล ยกตัวอย่างนะ อย่างผมถามว่าตอนนี้ใครจบหลักสูตรระเบิดมาบ้าง กำลังพลต้องไปเปิดเอกสาร ถามทุก บก.
แต่ถ้าระบบนี้เสร็จ กดปุ๊บๆดึงออกมาดูได้เลย ไม่ต้องถามใคร ทุกอย่างอยู่ในระบบหมด
สมมติถามว่า ใครพูดเยอรมันได้บ้าง กดปุ๊บขึ้นมา ใครเก่งคอมพิวเตอร์บ้างใครอยากรู้อะไร ใครเป็นนักฟุตบอล มันจะออกมา ใครจบหลักสูตรเจรจาต่อรองมาบ้าง กดปุ๊บก็ดึงออกมาปุ๊บ นี่เรื่องของกำลังพล
เช็คจากหน้าจอ-ไม่ต้องรอประชุม
ถามว่า อาวุธปืนอยู่ที่ใครอะไรยังไง ถามตอนนี้ก็มั่ว หายไปอาทิตย์หนึ่งแล้วมาตอบมันก็มั่ว แต่ต่อไปต้องเป๊ะหมด หรือว่างานคดี สมมติผมสั่งงานคดีไป อยากรู้ความคืบหน้า ทำไง เรียกประชุม ทุกคนถือแฟ้มมานั่งอธิบาย
ต่อไปนี่คือทำงานปุ๊บรายงานเข้าระบบ ผมเปิดดูหน้าจอเห็นความคืบหน้าถึงไหน อะไร ยังไง แล้วจะเรียกประชุมอีกทีก็ว่าไป
ระบบทำให้เห็นทั้งหมด
แต่เรามอนิเตอร์เห็น วันนี้เจอนี่ ไปตรวจที่เกิดเหตุวันนี้ไปทำอะไร วันนี้สอบปากคำใคร สอบแล้วเป็นยังไง เห็นจากระบบได้เลยมีนัดหมายเมื่อไหร่
ผมเปิดปุ๊บก็เจอ ดูได้ไล่รายวันได้เลย คุณทำอะไรก็ใส่ไว้ คือจริงๆแล้ว มีเรื่องอีกมาก มาย เรื่องสถิติมันจะเห็นหมด ใครทำงานอะไร ไปที่ไหน อะไร ยังไง คนมาแจ้งความเท่าไหร่ คดีค้างเท่าไหร่ ผมจะเห็นจากระบบได้หมด
อีเมลมีมา30ปีแต่วันนี้ยังใช้กระดาษ
ต่อไป งานสารบรรณ อย่างปัจจุบัน สมมติมีงานเพื่อทราบมาจาก ผบ.ตร.ก็ถ่ายเอกสารส่งไป รองฯ ก็ถ่ายต่อ ส่งผู้ช่วยฯ แล้วผู้ช่วยฯก็ถ่ายต่อส่ง ผบช.ทั้งประเทศ ผบช.ก็ส่ง ผบก.แล้วถ่ายส่งต่อ คือวันๆ ตำรวจก็ไปทำงานอย่างนี้หมด
ต่อไปเราก็ใช้ระบบงานสารบรรณดิจิทัล คือคลิ๊กปุ๊บก็ไปแล้ว ทั้งหมด อีเมลเขามีมา 30 ปีแล้ว เรายังใช้กระดาษอยู่ ยกตัวอย่างให้ฟัง แต่จริงๆแล้ว มีประโยชน์อีกมากมาย
งานท้าทายมีเวลา1ปี
แต่ถามว่าการสร้างมันยากไหม ยากมาก คือต้องทุ่มเทเอาจริง สิ่งที่ยากไม่ได้ยากที่คอมพิวเตอร์ ยากเรื่องการสัมภาษณ์ยูสเซอร์ ทำเวิร์กโปรออกมาให้มันเห็นชัดอย่างนี้ ต้องทำออกมา แล้วถ้าเกิดทำมาไม่ดี คนมาโค้ดดิ้ง ยังไงก็ไม่ดี แต่ถ้าโครงดี งานเวิร์กโฟร ดี คนไปโค้ดดิ้งก็ทำได้ เพราะฉะนั้นงานนี้ถือว่าท้าทายมาก ผมมีเวลา 1 ปี ที่จะทำโปรเจ็กต์นี้
คาร์พูลแก้ปัญหาใช้รถหลวง
อีกอันหนึ่งที่ผมชอบ คือโครงการพัฒนาคนที่ทำแล้วคนหาว่าบ้ากัน คือ ผมตั้งชื่อคาร์พูล ธรรมดาแต่ละ บก.แต่ละ กก.หรือแต่ละ สว.จะได้รถตำแหน่งรถหลวง ไปใช้ เอาไปถือไว้คนละคัน
ปัญหาคืออะไร ทุก กก.ไม่ได้ใช้รถทุกวัน ผมไม่อยากให้เอารถไปใช้ส่วนตัว แต่ว่าเวลาทำงานเอารถหลวงไปใช้
กระเทาะปัญหาตรงจุด
สมัยผมเด็กๆ ผมใช้รถส่วนตัวน้ำมันส่วนตัวตลอด รถหลวงมีที่ไหนเคยมีใครได้ใช้บ้าง รถก็คือรถส่วนตัว รถนักเลง หรือรถของกลางไปใช้บ้าง มันก็มั่วอยู่อย่างนี้
คือแทนที่จะแจกไปกองไว้ กก.ละ 2 คัน อย่างมีงานค้น 10 จุด ก็มีรถ 2 คัน ที่เหลือต้องใช้รถส่วนตัวอยู่ดี ถูกไหม รถที่ไม่ได้ใช้ก็จอดอยู่อย่างนั้นใครมันจะออกไปค้นทุกวัน มันไม่ได้ออกไปค้นทุกวันหรอก
เอารถทุกบก.รวมเป็นกองกลาง
ผมก็เอารถมารวมกันสัก 80 คัน รถใน กทม.ทั้งหมด ทุก บก.เลย กองปราบ ปคบ.เอาเข้ามาเป็นกองกลางแล้วทำเหมือนรถเช่า เหมือนไปต่างประเทศไปเช่ารถ ผมจองแล้วเอาบัตรไปรูดเอากุญแจไป ขับออกไปเลยแล้วขากลับมา ก็ให้เขาตรวจคืนกุญแจแล้วผมก็กลับ
รูปแบบทำเหมือนรถเช่า
อันนี้ก็เหมือนกันทำให้เบิกง่าย อย่างวันนี้สมมติ กก.1 บก.ป.จะไปค้น 10 จุด หรือ 20 จุด ก็เบิกรถ 20 คัน ทำจอง แล้วก็เหลือเพราะมันรวมกองกลาง เพราะรถตอนนี้ ใช้เกือบ 50-60 คันต่อวัน คือมีผลัดกันจองไป หมุนไปหมุนมา ไม่ต้องมีพลขับคือขับเองเหมือนรถเช่า ขับเองคล้ายๆกับบริษัทเอกชน แต่อันนี้คุณไปเองเลย
ไอเดียเจ๋งผลัดกันยืมผลัดกันใช้
อย่างรถตู้ มี บก.ละ 20 คัน ถ้า8 บก.มี 160 คัน ถามว่าจะใช้สักกี่คัน เดือนหนึ่งต่อเดือนต่อปี มันจะใช้เท่าไหร่ แล้ว 160 คันมีไว้ทำไม
ผมบอกงั้นไม่ต้องก็รวบ มีสัก 40 คัน ทั้ง บช.แล้วในพื้นที่มี 40 คันผลัดกันยืมไปใช้ ยืมที 10 คัน ก็ได้ ยังไงก็คุ้มกว่า แต่ว่าไอ้แปะไว้อีก 120 คัน ส่งคืนให้เขาไปแจกโรงพักที่ขาดแคลนแล้วเรามาแบ่งกันใช้ดีกว่า คุ้มกว่า
ใช้ระบบจองในแอปพลิเคชัน
จริงๆคือรถเช่า เราใช้ฝ่ายอำนวยการในการบริหาร บช.ก. เรามีที่จอดรถรวม แล้วทำระบบคอมพิวเตอร์ มีระบบแอปพลิเคชั่น จองในแอปพลิเคชั่นแล้วมาเบิกเองวางกุญแจรถ เอากล้องวีดีโอจับ ใครมั่วก็ไล่วีดีโอย้อนได้ ให้ใช้ระบบเซลฟ์เซอร์วิส อยากทำอะไรทำ ต่างประเทศใช้แบบนี้ไหม
ห้องศูนย์การเรียนรู้เราสวยมาก ศูนย์การเรียนรู้ คือเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ คือชั้น 10 สนามยิงปืนมีชั้น 3 ตึกหน้าเปลี่ยนห้องประชุมเป็นสนามยิงปืน มีห้องซักถามที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
ชั้น 4 มีศูนย์รับแจ้งความ ผมทำเหมือนหลัง คาแดงสมัยก่อน แต่เมื่อก่อน บก.มันกระจาย ตอนนี้ผมเอา ไปรวมที่นี่หมด
รวมกันแชร์คน-แชร์ของ
อย่าง ปอศ.ผมทิ้งตึกที่สาทรให้ ตร.ไม่มีใครเขาให้หรอก เขาหวงกันแต่ผมบอกไม่เป็นไร ย้ายมานี่แหละจะได้อยู่ที่เดียวกัน พออยู่ที่เดียวกันมันแชร์คนแชร์ของ ผมใช้คำว่าแชร์คนแชร์ของ คือคนมันสามารถประกอบกำลังกันได้ ของเราก็แบ่งกันใช้ได้
ที่สำคัญดีกับประชาชน
เสื้อเกราะไม่ต้องซื้อให้ทุกคน ซื้อไว้ส่วนกลาง บอดี้วอร์แคม เอาไว้ส่วนกลาง พอมีโอเปอเรชั่นก็เอาไปทำงาน เบิกแล้วเอาไปใช้ จะได้ไม่ต้องซื้อให้ทุกคน
แล้วยิ่งพอมารวมกันแล้ว สำหรับประชาชนคืออะไร ต่อไปคนไม่ต้องไปที่นั่นที่นี่ เมื่อมาแล้ว แต่ก่อนบอกว่าคุณต้องไปแจ้ง ปอศ.ก็ต้องขับรถไปสาทรอีก ไม่เอาแล้ว มาที่นี่ที่เดียวจบ
เซ็ตระบบตึกรับแจ้งความ
ยิ่งกว่านั้นคือผมเซ็ตระบบ ให้ตึกนี้เป็นตึกรับแจ้งความ ร้อยเวรทุกคนไปนั่งตึกหน้านี่ ประชาชนเดินเข้ามานิดเดียวถึงเลย ถ้าบอกว่ามาผิด บก.ก็เดินไปอีกแค่ชั้นเดียว คือมันมีแค่ 2 ชั้น ที่ชั้น 1-2 มันโยนกันไม่ได้ จริงๆ มีอีกเยอะที่ทำ
พัฒนาบช.รอเวลาต่อยอด
ผมเป็น ผบช.เราก็พัฒนา บช.เราให้ดี พอเราเรียนรู้พอเราโตขึ้นไปในระดับ ตร.เราเอาโนว์ฮาวจากที่เราได้ทำเอาไปพัฒนาใน ตร.ค่อยๆ ทำไป ถ้ามันทำใหญ่มากมันก็ไม่ไหว เราก็เรียนรู้ไปแล้วก็ไปพัฒนาต่อ ผมเชื่อว่า ถ้าเอาสิ่งที่ทำอยู่ที่นี่ แล้วไปพัฒนาใน ตร.จะทำให้ดีได้ มันจะดีทั้ง ตร.เลย ผมยังมีอีกเยอะนะ ทำไปเยอะแยะมากมาย
ครับ…นี่คือก้าวย่างปีที่4 ของตำรวจสอบสวนกลางภายใต้การนำของ“บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช”
นอกจาก“มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน”ตามวิสัยทัศน์หน่วยแล้ว
คงไม่ได้พูดเกินไป ไอเดียที่เป็นรูปธรรมของพล.ต.ท.จิรภพ ยังเป็นต้นแบบตำรวจไทยในอนาคตอีกด้วย
เฮียเก๋23/2/68