ใช่จะเป็นภาพวาดเหมือนจริงหรือไม่
ก็ใกล้เคียงหรือแทบไม่แตกต่างกันกับความรู้สึกรับรู้สัมผัสในสมองจิตวิญญาณ ที่ทุกวันทำงานช่วงเวลาเจ็ดโมงครึ่งถึงแปดโมง มักจะเห็นภาพวิถีชีวิตเดิม การเคลื่อนไหว ตัวละครชุดเดิมซ้ำซ้ำวนเวียนกันไปมา
จะมีคลาดคลากันไปบ้างเพียงวันหนึ่งสองวัน หลังจากเดินมาหยุดยืนรอรถเมล์ที่ป้ายประจำ ที่พบเห็นบ่อยเป็นเด็กหญิงวัยรุ่นมัธยมในชุดนักเรียนบ้างชุดพลศึกษาบ้างมายืนรอในจุดที่น้องสาวคนนี้มักจะยืนไม่เปลี่ยน
บางโอกาสก็ได้เห็นเพื่อนนักเรียนวัยเดียวกันยืนอยู่เป็นเพื่อนร่วมทางบ้าง เธอจะใช้รถตู้โดยสารประจำทางเป็นพาหนะเดินทางไปเรียน นอกจากจะเป็นรถเมล์ปรับอากาศบ้างก็มีบ้างเหมือนกัน ภาพจะฉายซ้ำราวกับเป็นภาพนิ่ง ถ้าหากเพียงมองเพียงแวบเดียว วันถัดมาก็จะเป็นเช่นเดิม เธอจะยืนจุดเดิมแทบไม่ผิดเพี้ยน
สักพักหนึ่งจะมีรถแท็กซี่มาจอดตรงป้ายหรือถัดไปสักหน่อยแล้วมีชายฝรั่งผิวขาวร่างท้วมใหญ่แต่ทะมัดทะแมง ศีรษะเกลี้ยงเกลา เสื้อเชิ้ตแขนยาวส่วนมากจะเห็นโทนสีฟ้าหรือเทากางเกงขายาวรองเท้าหนังสีน้ำตาล สะพายกระเป๋าหนังสีดำ ก้าวลงจากรถ มีเหงื่อที่แผ่นหลัง
ทุกครั้งเมื่อลงจากรถจะมองหาถุงขยะสีดำที่ผูกอยู่ตรงเสาป้ายรถเมล์เพื่อทิ้งกระดาษเช็ดหน้าหรือซับเหงื่ออยู่เป็นประจำ ก่อนจะก้าวเดินขึ้นสะพานลอยข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามลักษณะท่าทางน่าจะทำงานประจำหน่วยงานในละแวกใกล้เคียงจนคุ้นหน้ากัน เพียงแต่ไม่รู้จักหรือเอ่ยทักทายเท่านั้น
ภาพลีลาชีวิตประจำวันสอดแทรกสีสันแต่งแต้มเล็กเล็กน้อยน้อยกับเด็กนักเรียนประถมสามคนวัยไล่เลี่ยกันแต่รูปร่างแตกต่างกันชัดเจนคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ท้วมอีกคนดูสมวัยราวสิบขวบ
คนสุดท้ายตัวเล็กแกร็น มักจะเดินกวัดแกว่งเอ้อระเหยมาด้วยกันบนสะพานลอยข้ามฟากไปยังโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลติดกับวัด ทั้งสามคงใช้เวลามากกว่าสิบนาทีในการเดินข้ามสะพานลอยที่ทอดยาวข้ามถนนสายหลักและทางรถไฟกับถนนสายรองอีกเส้นหนึ่ง จะมีการหยอกเย้าระหว่างเดินบนสะพานลอยซึ่งนับว่าเป็นเขตปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเขา
นั่นก็เป็นภาพเคลื่อนไหวที่คุ้นเคยมากมากภาพหนึ่งหรือเหมือนคลิปวีดิโอที่เห็นวนซ้ำเวียนซ้อนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เด็กทั้งสามจะอยู่ในชุดนักเรียนบ้าง ชุดลูกเสือและชุดพละบ้างแล้วแต่ตรงกับวันที่เรียนวิชานั้น
แต่ที่แน่นอนจะพบทั้งสามอยู่เพียงบนสะพานลอยในห้วงเวลาเดียวเท่านั้น พอพ้นแนวสายตาไม่เคยเห็นพวกเขาอยู่บนพิ้นราบอีกเลยหรือมันเป็นคลิปวิดีโอที่เห็นในจอมือถือเท่านั้นเอง
ยังมีอีกหลายชีวิตที่เราจะมาพบเจอกันในบริเวณป้ายรถเมล์และบริเวณรอบรอบใกล้กันเราเหมือนเป็นคนคุ้นเคยรู้จักกันทักทายกันในความรู้สึกความนึกคิดของแต่ละคน เพราะพบเห็นกันเกือบทุกวันในรอบสัปดาห์หนึ่ง หรืออาจไม่มีอะไรเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันแม้แต่น้อยนิด แต่เราก็เป็นคนแปลกหน้ากันตลอดไปตามความเป็นจริง
เราไม่รู้จักพื้นเพหรืออุปนิสัยใจคออะไรกันเลย นอกจากคาดเดาสันนิษฐานกันเอาไปตามแต่ความรู้สึกของคนคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อวันเวลาเคลื่อนคล้อยชีวิตของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปจนหายไปจอภาพสายตาของเรา ความทรงจำก็ลางเลือนไปจนหมดจากสมองจากตัวตนหรือหายไปเลยจนคิดว่าไม่เคยพบกันมาก่อน
ล่วงสายของวันผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ขณะยืนรอรถเมล์อยู่นั้น ยังเห็นภาพเดิมเดิมของผู้คนหนุ่มสาวง่วนอยู่กับจอมือถือของตนจนเป็นภาพนิ่งในแกลลอรี่แสดงภาพศิลปะของศิลปินภาพเรียลลิสติก มีรายละเอียดชัดเจนทุกเส้นสีจากปลายพู่กันแต่งแต้มจุดเล็กจุดน้อย เปลี่ยนไปทุกวันไม่ซ้ำเดิมหากจะสังเกตอย่างละเอียดในแง่มุมงานศิลปะ
บางวันเป็นหญิงสาวชุดนักศึกษา ชุดเอวลอยนุ่งกางเกงขาบาน หนุ่มนักเรียนอาชีวะใบหน้าเข้มขรึม นักศึกษาผอมบางกางเกงขาลีบรองเท้าผ้าใบสีดำเชือกผูกสีขาว หนุ่มใหญ่ผมสีน้ำตาลอ่อนเสื้อลายสกอตสะพายกระเป๋าหนังใบเล็ก มันเป็นภาพเหมือนซ้ำแต่ก็ไม่ซ้ำ เป็นคนค้นหน้าแต่ก็แปลกหน้ากัน
เวลาผ่านไปเร็วจนแปดโมงครึ่งเพิ่งได้ขึ้นรถเมล์สายประจำทาง ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงจุดหมาย
เปิดดูภาพข่าวในโทรศัพท์มือถือได้พบเรื่องราวคุ้นเคยของคนการเมือง เรื่องแสวงหาอำนาจผลประโยชน์ อยากเป็นยอดฝีมือในยุทธจักรเพียงเพื่อกอบโกยจัดสรรปันส่วนเข้าพกเข้าห่อตัวเองและผองพวกอย่างที่พบเห็นเป็นมานานตั้งแต่วัยหนุ่มจนใกล้วัยฝุ่นในสายลม
เป็นความคุ้นชินคุ้นเคยเหมือนกับวิถีชีวิตที่ป้ายรถประจำทางไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่
แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นเรื่องแปลกในความรู้สึกว่าทำไมสายลมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทั้งที่ผู้คนมักกล่าวขานร่ำร้องกันเสมอว่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรม
หรือว่ามีเพียงสถานที่นี้แห่งเดียวในโลกมนุษย์ที่สายลมไม่มีวันเปลี่ยน แปลง
14/9/2567