Thursday, December 26, 2024
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อน EP.30

    เรื่องเล่าในรถร้อน EP.30

    ชายชราวัยวันสังขารน่าจะเกินแปดสิบฝน เดินสะพายสัมภาระเครื่องมือประกอบอาชีพที่บอกไม่ถูกว่าแกทำอะไร ที่เห็นมีเก้าอี้แบบพับแผงวางสินค้าแบบพับได้ มือซ้ายถือไม้ตะพดคดงอแทนขาที่สาม มือขวาถือถุงอาหารมีส้มสูกลูกไม้บ้าง พร้อมน้ำดื่มสองขวด

    ด้วยวัยบั้นปลายถ้าหากอยู่ในสถานภาพที่ดีคงไม่มีใครออกมาเดินกระย่องกระย่อง ค่อยๆก้าวยกเท้าขึ้นสะพานลอยทีละขั้นช้าๆ หลังจากเพิ่งนั่งรถเมล์มาถึงบริเวณนั้นได้ไม่นาน ก่อนข้ามฝั่งไปต่อรถเมล์เล็กสีแดงอีกทอดหนึ่งเพื่อไปยังจุดหมายของแก

    ข้าพเจ้าบังเอิญได้ร่วมเดินทางไปในรถเมล์เล็กคันเดียวกันนั้นกับชายชรา แกนั่งอยู่เยื้องข้าพเจ้าพอเอื้อมมือถึง ข้าพเจ้าเห็นแกเดินทางลำพังมาพอคุ้นตาพอสมควร

    แม้จะเคลื่อนไหวเดินเหินช้าไปตามวัยสังขารตามธรรมชาติก็ตาม แต่ก็นับว่าแข็งแรงกว่าคนในวัยเดียวกันมากพอสมควร แกคงมุ่งเดินไปตามเส้นทางอาชีพหาเงินเลี้ยงปากท้องตัวเองต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ

    ไม่จำเป็นต้องไล่เส้นสนกลในสืบสาวราวเรื่องว่าทำไมไม่มีลูกมีหลานเลี้ยงดูหรือไร เพราะชีวิตคนแต่ละคนย่อมแตกต่างมีเรื่องราวเบื้องหลังมากมายเกินกว่าจะมาจำแนกขยายความให้เสียเวลาเปล่า

    รถเมล์เล็กคันนั้นยังคงทอดสนิทนิ่งไม่เคลื่อนตัวออกจากจุดป้ายรถ กระทั่งมีหญิงสาวแต่งกายรัดกุมเสื้อผ้ากางเกงขายาวสีครีม เหมือนคนทำงานออฟฟิศทั่วไปสักแห่งหนึ่งในย่านนั้น ข้างชายชราเบาะนั่งยังว่างอยู่

    พอนางจะหย่อนตัวนั่งเห็นชายชราอยู่ข้างๆ เลยผละเปลี่ยนไปนั่งฝั่งตรงข้าม สักพักรถเมล์เล็กจึงค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากป้ายรถ วิ่งปุเลงๆไปตามสภาพของรถสองแถวเล็กสภาพคร่ำครึซึ่งส่วนใหญ่ก็มีสภาพเหมือนๆ กันแทบทุกคัน

    ผ่านไปตามเส้นทางย่านจอแจพอสมควรสำหรับเขตชานกรุงสักพักใหญ่ชายชราก้มหน้าหยุกหยิกเก้ๆ กังๆ อยู่กับพื้นรถเมล์เล็กด้วยว่าเศษเหรียญค่าโดยสารในมือของแกหล่นลงพื้นนั้นเอง

    แกพยายามงกๆเงิ่นๆ เก็บเหรียญบาทนั้นให้ได้จนผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เป็นหญิงสาวมองด้วยความเวทนาเพราะเกรงว่าตัวของชายชราจะล้มลุกคลุกคลานหรืออาจพลัดตกรถได้

    ข้าพเจ้าได้แต่คอยจ้องดูเผื่อว่าจะยึดตัวแกได้ทัน หลังเห็นแกคลำเก็บเศษเหรียญได้เกือบครบ ข้าพเจ้าเห็นเหรียญบาทเหรียญหนึ่งหล่นร่องลูกฟูกของพื้นรถแต่อยู่ใต้ท่อยาวขาหยั่งของเบาะม้านั่ง เลยก้มไปเพื่อเก็บเหรียญเจ้ากรรมนั้นให้แก แต่แงะไม่ออกจากใต้ท่อเหล็กนั้น

    ชายชราบอกว่า

    “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้อง เก็บหรอก”

    พร้อมกับเปรยออกมาลอยๆ ว่า คนแก่ก็เป็นอย่างนี้แหละนะ เหมือนกับจะแสดงออกให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงอะไร

    ถัดมาอีกวันข้าพเจ้ากำลังจะเดินทางกลับบ้านพักด้วยรถเมล์เล็กที่ป้ายเดิม เห็นชายชราคนเดียวกันในสภาพสะพายสัมภาระข้าวของเดินข้ามสะพานลอยมาอย่างช้าๆ ในขณะที่อากาศยามสายแดดเริ่มแผดจ้าร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

    ข้าพเจ้าไม่ได้ยืนรอทักทายชายชรา เพราะรถเมล์เล็กเข้าป้ายแล้วคันหนึ่ง ผู้โดยสารเกือบเต็มคันรถ จึงรีบขึ้นรถเดินทางไปก่อนที่ชายชราจะเดินข้ามถนนมาถึงป้ายก็คงใช้เวลามากกว่าห้านาที

    ข้าพเจ้ายังนึกถึงเหรียญบาทเหรียญนั้นที่ติดอยู่ในซอกใต้ท่อเหล็กค้ำเบาะนั่งโดยสารนั้นอยู่ตลอดเส้นทาง

    แต่ที่แปลกสำหรับวันนี้มีเรื่องคิดเพิ่มเติมต่อยอดว่าข้าพเจ้าได้ค่าโดยสารรถเมล์เล็กมาอย่างบังเอิญระหว่างทางเดินไปป้ายรถเมล์ มีเหรียญสิบตกอยู่บนพื้นทางเดิน

    มากเกินพอค่าโดยสารรถเมล์ที่เก็บเที่ยวละแปดบาทอีก แต่ก็ยังคิดว่าเจ้าของเหรียญสิบนั้นที่อาจจะเป็นชายชราหญิงชรา หรือเด็กนักเรียนใครสักคน ก็คงเสียใจว่ามันหล่นหายไปไหนนะ

    แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะไม่มีอะไรที่มันสมบูรณ์สวยงามถูกต้องไปเสียทุกอย่าง เพียงแต่มันบังเกิดเป็นทอดๆ ต่อเนื่องกันไป

    แม้จะเป็นเรื่องของคนตัวเล็กๆเท่านั้น ในมหาสมุทรสังคมมนุษย์ที่กว้างแผ่ไพศาล แต่ก็เทียบไ่ม่ได้กับความฉ้อฉลพันหมื่นแสนล้านของเหล่าคนดีในมหาสมุทรมนุษย์ที่เวียนว่ายวนอย่างมุ่งมั่นจมดิ่งดื่มด่ำอยู่กับความโลภเขลาตัณหาราคะทั้งหลายในเวลานี้

    30/11/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments