Thursday, November 21, 2024
More
    Homeเรื่องสั้น-วรรณกรรมเรื่องเล่าในรถร้อนEP.22

    เรื่องเล่าในรถร้อนEP.22

    บริเวณศาลาที่พักรอผู้โดยสารรถประจำทางหรือรถเมล์ที่เรียกกันง่ายๆ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไป

    ยามสายวันหนึ่ง มีคนไม่กี่คนมานั่งหลบแดดรอรถเมล์ รวมทั้งชายวัยเกินหกสิบปี สองคนมานั่งรอด้วย ทั้งสองในชุดลำลองง่ายๆ กางเกงยีนเก่าๆ เสื้อยืดกระเป๋าสะพายไม่มีอะไรจะทำนอกจากหยิบมือถือมาง่วนไถดูโน่นนี่ข่าวสารคลิปสนุกสนานฆ่าเวลาระหว่างรอรถ ไม่มีใครสนใจใคร

    สักพักคนที่ดูลักษณะท่าทางจะมีอายุมากกว่าละสายตาจากจอมือถือหันมาพูดกับเพื่อนวัยอ่อนกว่าด้วยท่าทีจริงจัง

    “นีเอ็งว่ามั้ย ไอ้ข่าวเรื่องธุรกิจขายตรงขายขายออนไลน์อะไรที่กำลังโด่งดังตอนนี้ ทำไมมันไม่เห็นจะต่างจากเมื่อสามสิบสี่สิบปีที่แล้วนะ

    อย่างแชร์แม่ชม้อย แชร์แม่นกแก้ว มันก็แค่เรียกระดมหุ้นเป็นแชร์ลูกโซ่ดีๆนี่เอง ทำมั้ยมันถึงยังย้อนกลับมาทำให้คนนับหมื่นนับแสนกลายเป็นแมงเม่ารุ่นใหม่ไปได้อีกเนาะ”

    “เออใช่ๆๆๆพี่ ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละ มันไม่เห็นจะขายของอะไรตรงๆ เลย ผมอ่านข่าวก็เห็นมีแต่แม่ข่ายปลุกเร้าให้ลูกข่ายไปหาสมาชิกมาต่อแถวลงทุนแล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์จากลูกข่ายหน้าใหม่เป็นทอดๆ

    มีทั้งลงทุนก้อนเล็กก้อนน้อยไปจนถึงหลักแสนหลักล้านอะไรนี่ หมดกันไปหลายคน เป็นหนี้เป็นสินพอกพูน ขายของก็ไม่ได้เพราะราคามันแพงไม่มีลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อ ต้องเก็บสินค้าของที่จะขายมาใช้เองหรือปล่อยทิ้งจนหมดอายุกินไม่ได้ใช้ก็ไม่ได้ หมดเนื้อหมดตัวไปเลย  จนบางคนทนไม่ไหวตัดช่องน้อยลาโลกไปก็ยังมีด้วยนา

    บาปกรรมแท้ๆนะพี่ หลอกคนเบี้ยน้อยหอยน้อย เอาเงินไปเสพสุขอยู่คฤหาสน์ใหญ่โต ขับรถหรูอู้ฟู่ถ่ายคลิปมาอวดโอ่มอมเมาให้เหยื่อหน้าใหม่หลงเคลิ้มฝันอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง เฮ้อทำลงไปได้ ไม่ต่างจากพวกแก๊งมิจฉาชีพดีๆ นี่เองนะ ฉากหน้าดูเป็นคนดีมีชาติสกุลดีเหลือเกิน”

    ชายคนอ่อนวัยกว่า ตอบด้วยถ้อยคำสอดรับอย่างลื่นไหลไปกันแบบรู้ชั้นเชิงลีลาเจตนาสื่อความของชายรุ่นใหญ่

    “ไอ้ที่ธุรกิจขายตรงจริงๆ เท่าที่ข้าว่ามันเป็นการขายตรงแท้ๆ ก็อย่างโรงงานเครื่องดื่มที่ทำจากเชื้อจุลินทรีย์อะไรนั้นมากกว่า ที่มีพนักงานสาวขี่จักรยานบ้าง มอเตอร์ไซค์บ้างไปตามซอยตามหมู่บ้าน ไปขายถึงมือลูกค้าตรงๆ นั่นแหละ บริษัทเขาอยู่ยั้งยืนยงมาไม่รู้กี่สิบปีแล้ว

    เขาก็ใช้วิธีเดิมๆไม่เปลี่ยนแปลง ให้พนักงานขายเดินหน้าเข้าหาลูกค้าเหมือนเดิม ไม่มีไปวางขายในร้านในโชห่วยเลย

    คนที่ทำงานเป็นสาวขายเครื่องดื่มยี่ห้อนี้ ต้องแต่งหน้าให้ดูสะอาดสะอ้าน เสื้อผ้าก็สะอาดรีดเรียบจับกลีบงี้โง้งคมกริบเชียวอย่างกับเครื่องแบบทหารตำรวจแน่ะ เอ็งก็เห็นอยู่บ่อยๆไม่ใช่เรอะ”

    ชายสูงวัยคุยออกรสออกชาติ จนดูเหมือนเครื่องร้อนได้ที่เข้าแล้ว ทั้งสองรับลูกส่งราวกับนักเตะตะกร้อดูเพลินตาเพลินใจ

    “ผมก็ว่าแบบนั้นแหละขายตรงแท้ๆ ส่งของถึงมือลูกค้าแล้วรับเงินสดๆ หรือสมัยนี้เห็นเขาสแกนจ่ายผ่านแอพฯกันแล้ว แต่ผมยังโบราณอยู่เลยพี่ จ่ายเป็นแต่เงินสดเท่านั้นแหละฮ่าๆใช่มั้ยครับ ก็ไม่รู้ระบบอะไรเทือกนั้นหรอก คนหาเช้ากินค่ำอย่างเรานี่ก็ไปตามแบบเก่าๆ นั่นแหละว่ามั้ย

    ไอ้ที่ระบบขายตรง ขายออนไลน์ หาสมาชิกมาต่อเป็นสายแม่ข่ายโน่นนี่มันยังไงๆ อยู่นา ไม่รู้ว่าขายสินค้าอะไรใช้แล้วดีจริงแบบโฆษณาหรือเปล่าก็ไม่รู้

    ยิ่งเอาดาราพระเอกนางเอกมาเป็นอะไรนะ พรีเซ็นต้งพรีเซ็นเตอร์ อะไรนี่แหละ มันดึงดูดหาสมาชิกลูกข่ายได้ง่ายขึ้นหรืออะไรนี่มั้ง แต่บริษัทที่ว่ามันก็ต้องจ่ายเงินค่านายแบบนางแบบโฆษณาทุ่มเงินเป็นตั้งๆ หลายล้านแน่ๆ มันก็ต้องมีรายได้มหาศาลถึงจะคุ้มค่าจ้างใช่มั้ย

    แล้วไอ้ที่ขายของอะไรก็ไม่รู้นี้มันจะทำกำไรให้มากถึงขนาดไหนกันหนอ ยิ่งเศรษฐกิจสมัยนี้มันค้าขายฝืดขนาดไหน ดูตามตลาดสดตลาดนัดตามห้างใหญ่ทั่วๆไป เห็นว่าหงอยเหงาเงียบเชียบ เป็นป่าช้าไม่ใช่เหรอ ใครล่ะจะมาเป็นลูกค้าจับจ่ายซื้อข้าวของที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นต่อชีวิตกันล่ะ

    ผมว่าเขาก็แค่เอาเงินลงทุนของเหยื่อรายใหม่มาแบ่งต่อกันเป็นทอดๆไปนั่นแหละ จนกระทั่งสุดสายป่านมันถึงได้พังทลายล้มครืนระเนนระนาดกันอย่างที่เห็นกันตอนนี้ไงใช่มั้ยพี่

    ตอนนี้ตัวเจ้าของตัวคนบริหารระดับบอสๆ ก็จะโดนลากเข้าปิ้งกันยกใหญ่แบบถอนรากถอนโคนกันเลยเห็นมั้ย อย่างที่พี่ว่านั่นแหละมันไม่ต่างจากแชร์ลูกโซ่ที่เป็นข่าวครึกโครมยี่สิบสามสิบปีที่แล้วเลย

    สุดท้ายมันก็วนกลับมาหากินกันแบบเดิมๆ คนรุ่นใหม่รุ่นหลังก็กลายเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟอยู่เหมือนเดิม เฮ้อ ไม่รู้จักจดจักจำบทเรียนเก่าๆเอาไว้บ้างเลยนะ อ้าว รถเมล์มาพอดีพี่ ไปกันเถอะ”

    ทั้งสองลุกกุลีกุจอโบกเรียกรถเมล์สายที่นั่งรออยู่นาน ก่อนจะโดยสารไปถึงจุดหมายปลายทาง จากนั้นชายคนอ่อนอาวุโสกว่าก็บอกลาแยกทางไปจัดการธุระของตัวเอง

    ส่วนคนสูงวัยยังเดินไปตามถนนเส้นเล็กๆ ในละแวกใกล้บ้าน แวะเข้าร้านตัดผมลมโชยแห่งหนึ่งที่เปิดในเพิงมุงกระเบื้องคูหาเดียวเล็กๆ ริมถนน มีต้นมะขามสูงตระหง่านประดุจกำแพงอยู่ข้างหน้า ติดป้ายบอกสนนราคาค่าตัดผมราคาย่อมเยาเพียงหัวละแปดสิบบาท

    เป็นซาลอนของคนยาก ที่นับวันหายากยิ่งในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร

    19/10/2567

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments