ตำรวจไซเบอร์รวบบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นดีเอสไอหลอกเงินลูกสาวชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สูญ 6 แสนบาท
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.67 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. สั่งการ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวบก.สอท.5
นำหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ จ.564-565 /2567 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2567 เข้าจับกุมตัวนางสุภาพ อายุ 51 ปี และ น.ส.สุนิษา อายุ 26 ปี 2แม่ลูกที่รับเปิดบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน จับกุมได้บริเวณที่จอดรถร้านประจัญบาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ก่อนการจับกุม2ผู้ต้องหา ลูกสาวนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อายุ 19 ปี ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์หลังถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงิน โดยโทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม ชื่อ ร.ต.ท.อดิศักดิ์ ศรบัว
สอบถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย ให้ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้หรือไม่ เมื่อผู้เสียหายปฏิเสธว่าไม่ได้เปิดบัญชี บุคคลดังกล่าวที่โทรมาหาแจ้งว่า เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ ให้ติดต่อทางบัญชีไลน์ ชื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ต่อมามีผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวแจ้งว่าให้ส่งภาพถ่ายบัตรประชาชน ทางข้อความไลน์ แสละอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเงินในบัญชีเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
จากนั้นผู้เสียหายได้โอนเงินไป 2 ครั้ง ครั้งแรก 56,000 บาท หลังจากนั้นก็มีการเปิดวีดีโอคอลพูดคุย โดยที่อีกฝ่ายใส่ชุดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้โอนเงินไปให้แก๊งคอนเซ็นเตอร์เป็นครั้งที่ 2 อีก 100,000 บาท
หลังจากแก๊งคอนเซ็นเตอร์ได้เงินไปแล้ว 2 ครั้ง ได้บังคับให้ผู้เสียหายกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อไปหาเงินมาให้ไม่เช่นนั้นจะทำให้ พ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยจะใช้รูปที่วิดิโอคอลกัน
ผู้เสียหายไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียจึงได้เดินทางกลับไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วนำเงินที่ยายโอนให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นครั้งที่ 3 อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 650,000 บาท ก่อนผู้เสียหายเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย และเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกอีก จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคนอื่นโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด
ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
