ตำรวจกองปราบ ตามรวบชู้รักเมียน้อย รวมหัวลวงเสี่ยไม้ยาง ฆ่าชิงทรัพย์ 4 แสน ก่อนช่วยกันอุ้มศพฝังดินอำพรางกลางสวนยางพารา หลบหนีมาได้กว่า 11 ปี
วันที่ 22 ก.ค.68 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.บก.ป., พ.ต.อ.อนุสรณ์ ทองไสย รรท. ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.มนตรี สงคง สว.กก.6 บก.ป.
นำกำลังจับกุมนายทวีทรัพย์ อายุ 36 ปี ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนร่วมกันรอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือแห่งการตายร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีอันควร จับได้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ถ.ชุมแสง 4 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ม.ค.57 นางเจียมใจ เกตกรณ์ อายุ 51 ปี น้องสาวนายวัฒนา เกตกรณ์ อายุ 55 ปี เสี่ยรับเหมาตัดไม้ยางพารา แจ้งความสภ.พุนพิน หลังพี่ชายหายออกจากบ้านไป พร้อมรถกระบะ มิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กต 134 สุราษฎร์ธานี ขณะนำเงิน 4 แสนบาท ไปจ่ายให้กับลูกค้า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 13 มกราคม เกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวัฒนาได้ติดต่อกับ น.ส.สุปราณี อายุ 25 ปี เมียน้อย เมื่อช่วงเช้าวันเกิดเหตุ จึงได้เชิญตัวมาสอบสวน
ปรากฏว่า น.ส.สุปราณี ให้การวกวนเป็นพิรุธ อ้างว่า นัดพบผู้ตาย เมื่อช่วงเช้าวันนั้นเพื่อไปทำธุระที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะแยกย้ายกันช่วงบ่ายและไม่สามารถติดต่อได้อีก
แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ สอบปากคำต่ออีกกว่า 12 ชั่วโมง จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ อาศัยอยู่กินกับนายวัฒนา ผู้ตาย แต่ยังได้แอบคบซ้อนกับ นายทวีทรัพย์ อย่างลับๆ อีกคน จนกระทั่งนายวัฒนา จับได้ว่าตนมีชู้ จึงได้เลิกรากันและไปอยู่กับชายชู้
น.ส.สุปราณี ให้การต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ ร่วมกับนายทวีทรัพย์ ฆ่านายวัฒนา เริ่มจากโทรศัพท์นัดผู้ตาย ออกไปพบที่ร้านอาหาร ใกล้กับกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี ก่อนจะให้นายทวีทรัพย์ แอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในรถ รอจนนายวัฒนา ขึ้นมาบนรถ จึงใช้มีดกระหน่ำแทงนายวัฒนา หลายสิบแผลจนเสียชีวิต พร้อมช่วยกันนำศพไปฝังไว้ในสวนยางพารา ส่วนรถกระบะของนายวัฒนา เอาไปซ่อนไว้ในบ้านเช่า ใกล้กับร้านอาหารดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริเวณสวนยางพาราของ น.ส.สุปราณี พบร่างของนายวัฒนา ถูกฝังอยู่ใกล้บ้านพักคนงานภายในสวนยาง สภาพเปลือยเปล่า มีบาดแผลถูกแทงและฟันตามร่างกายเป็นแผลฉกรรจ์เกือบ 10 แผล เจ้าหน้าที่จึงจับกุมน.ส.สุปราณี ส่ง สภ.พุนพิน พร้อมขอศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกหมายจับนายทวีทรัพย์ ไว้
ตำรวจกองปราบ ร่วมกับสืบสวนภาค 8 ไล่ล่าติดตามจับกุมนายทวีทรพย์ แต่ผู้ต้องหาอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ตลอด กระทั่งล่าสุดตำรวจ กก.6 บก.ป.สืบสวนจนทราบว่า นายทวีทรัพย์ หนีมาที่บ้านหลังดังกล่าว จึงวางกำลังจับกุมตัวเอาไว้ได้ หลังหลบหนีมาได้กว่า 11 ปี
สอบสวนนายทวีทรัพย์รับสารภาพ ร่วมกับ น.ส.สุปราณี ฆ่าชิงทรัพย์ นายวัฒนา จริง เนื่องจากต้องการเงินไปใช้ตั้งต้นชีวิตใหม่กับตน จึงลวงนายวัฒนา ให้มาพบแล้งร่วมกันลงมือก่อเหตุดังกล่าว นำตัวส่ง สภ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี ดำเนินคดีต่อไป
