วันที่ 15 พ.ย. ที่ บก.ป. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป.
จับกุม นางกัลยา อายุ 66 ปี ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ จับได้ในพื้นที่ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2560 นางกัลยา อดีตพนักงานโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง รวมหัวกับนายธีรเดช หลอกผู้เสียหาย
อ้างว่าสามารถฝากบรรจุเข้าทำงานที่การไฟฟ้าได้ มีผู้หลงเชื่อหลายรายในภาคอีสาน ยอมจ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหา
เมื่อกลุ่มผู้เสียหายทราบว่าตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี จนศาลออกหมายจับไว้และมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
สอบสวนให้การรับสารภาพว่า นายธีรเดชได้ชักชวนให้หาคนมาเข้าทำงาน โดยให้อ้างว่าสามารถพาบรรจุเข้าเป็นข้าราชการป่าไม้ ครู ทหาร และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้
โดยตนมีหน้าที่ดำเนินการเรื่องเอกสารให้ผู้เสียหาย มีค่าดำเนินการคนละ 200,000 – 400,000 บาท
ตรวจสอบประวัติพบมีหมายจับ คดีร่วมกันฉ้อโกง อีกหนึ่งหมาย นำตัวส่งสภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีต่อไป
คดีที่สอง พ.ต.ท.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐดนัย ศรีแขไตร สว.กก.3 บก.ป.
จับกุมนายทศพร อายุ 28 ปี และ นายยุทธนา อายุ 22 ปี สองยี่ปั๊วแสบ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังหลอกขายล็อตเตอรี่ ก่อนเชิดเงินไปกว่า 400 ล้านบาท จับได้ที่ บ้านพักใน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายทศพร และนายยุทธนา ได้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ หลอกลวงชาวบ้านในจังหวัดสุรินทร์ ให้ร่วมลงทุน
ด้วยการนำเงินไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่าย หากขายได้ทั้งหมดจะแบ่งเงินให้กับผู้ร่วมลงทุน ช่วง 4-5 งวดแรก ได้รับเงินจากการจำหน่ายล็อตเตอรี่จริง
ต่อมางวดหล้งเริ่มไม่ได้ ทำให้ผู้เสียหายกว่า 100 คน ที่ลงทุนเงินรวมกว่า 400 ล้านบาท จึงแห่เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ต่อมาศาลได้ออกหมายจับไว้ กระทั่งมาถูกจับกุมตัวเอาไว้ได้
สอบสวนทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ชักชวนมาลุงทุนจริง แต่จำนวนเงินความเสียหายไม่ถึง 400 ล้านบาทตามที่เป็นข่าว นำตัวทั้งคู่ส่งสภ.รัตนบุรี ดำเนินคดีต่อไป
คดีสุดท้ายชุดพ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1. บก.ป. พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ สว.กก. 1 บก.ป.สนธิกำลังกก.1บก.ป. และส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.
จับกุม น.ส.ณัฐริกา หรือมาย อายุ 22 ปี ข้อหาฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
สืบเนื่องจากน.ส.ณัฐริภา ได้หลอกขายสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ เช่น กระเป๋า,รองเท้า โพสต์ขายในอินสตราแกรม ช่วงแรกส่งสินค้าให้ตามที่ตกลงไว้
แต่เมื่อลูกค้าหลงเชื่อสั่งสินค้าอีกครั้ง ผู้ต้องหากลับไม่ส่งสินค้าตามที่สั่งซื้อ มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.แม่โจ้
ต่อมาผู้ต้องหาได้มาซื้อรถจยย.ที่ร้านใน ซ.สวนผัก 32 แต่มีแค่สำเนาบัตรประชาชนติดตัวมาอย่างเดียว ไม่มีหลักฐานอื่น
เจ้าของร้านเห็นว่ามีท่าทางพิรุธจึงแจ้งเจ้าหน้าที่จนนำมาสู่การจับกุมได้ที่บ้านพักในจ.นนทบุรี สอบสวนให้การรับสารภาพ นำตัวส่ง สภ.แม่โจ้ ดำเนินคดีต่อไป