เมื่อวันวานนำเสนอนโยบายของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มอบให้ตำรวจภูธรแห่งหนึ่งที่จ.สงขลา ขณะไปเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน
ให้เร่งรัดขยันทำหน้าที่ ด้วยวาทะ “ปิดให้ครบ จบให้ไว” ไม่ต้องรอให้ชาวบ้านเดือดร้อนวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพจ โซเชียลมีเดีย หรืออินฟลูเอนเซอร์ ให้ดังเป็นข่าวใหญ่ก่อน ถึงจะได้ฤกษ์ผานาทีลงมือทำงาน
คือมีอะไรเดือดร้อน ชาวบ้านนึกถึงเพจโซเชียลฯ สื่อออนไลน์ก่อน“ตำรวจ” ทุกครั้งไป แต่เพราะมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ชาวบ้านจึงต้องได้แต่หวังความช่วยเหลือจากเพจ จากโซเชียลมีเดีย มากกว่าจาก “ตำรวจ”
จากที่เพจ “โหดจัง จังหวัดภูเก็ต” แพร่คลิปที่หญิงชาวบ้านคนหนึ่งสุดจะทนไหวต่อพฤติกรรมของเจ้าของธุรกิจร้านอาหารหลายแห่งในแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะภูเก็ต ที่เอาแต่ได้ ไม่คำนึงถึงหัวอกของชาวบ้านพื้นที่ที่อยู่ข้างเคียง
ตั้งโต๊ะอาหารบนฟุตปาทไม่หนำใจ ลงไปบนผิวถนนซะงั้น ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เสพดื่มกินทั้งเหล้ายากัญชาเสรี ดนตรีโครมคราม ควันคละคลุ้งกลิ่นโชยมาแต่ไกลตลบอบอวล ดุจท่วงทำนองมนต์เพลงพี่แอ๊ด
เมื่อมันสุดทนได้ เธอก็ลงมือเองด้วยมือถือเดินถ่ายคลิป แจ้งตำรวจสายตรวจไปช่วยกวดขันบอกกล่าวตักเตือนให้ทางร้าน ให้มีจิตสำนึกถึงสาธารณะบ้าง
หากจะทำมาหากินอย่างสุจริต ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะสิ่งที่เห็นนั้น “ใคร”กล้าบอกว่าไม่เห็นจะน่าเดือดร้อนตรงไหน คนนั้นก็ลองไปนั่งดมควันฟังเสียงอึกทึกครึกโครมอย่างที่เห็นในคลิปดูทีซิว่า จะนั่งได้เกิน 5 นาทีหรือเปล่า
เสียงของคนเล็กๆ จะไร้ความหมายเลย หากไม่มี “สื่อโซเชียล”
ฉะนั้นตำรวจจะรอนิ่งเฉยไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้ หากเห็นเรื่องที่คิดว่ามันไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม และเห็นชัดว่าทำให้ชาวบ้านทุกข์ร้อนรีบลงมือทำงานเถอะ อย่าเอาแต่วิ่งไล่ตามแก้ปัญหา
เพราะตำรวจจะ “หน้าแหก” เห็นได้ชัดๆว่าชาวบ้านแม่นกฎหมายนะจะบอกให้
นี่ตัวอย่างเล็กๆ ยังมีอีกในงานคอนเสิร์ตวง “โคลด์เพลย์”ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันวาน
แฟนเพลงของวงดังระดับโลก อุตส่าห์ทุ่มเงินซื้อตั๋วเข้าไปชมเพื่อหวังสัมผัสเสพเสียงดนตรีให้ได้รสชาติสุดๆ ก็ต้องมาสุดเซ็งกับพวกสายเขียวทั้งไทยและเทศ
พ่นควันโขมงกันสร้างความอึดอัดรำคาญอย่างมาก จนหมดอรรถรสในการชมคอนเสิร์ตที่หวังจะได้รับความสนุกสนานประทับใจ
แล้วเรื่องกัญชาเสรีนี่ เรายังหาข้อสรุปลงตัวกันไม่ได้เลยหรือจะให้ชาวบ้านหวังพึ่งรัฐบาลน่ะรึ ก็รู้ๆกันอยู่ว่า ใครผลักดันนโยบายนี้ออกมา
ใครปลดล็อก “กัญชา” ไหนๆก็ไหนๆ ยัดใส่ในนโยบาย“ซอฟท์พาวเวอร์”ตรงๆ ไปเลยดีกว่า ไม่ใช่ไปเอาของต่างชาติมาเคลมเป็นซอฟท์พาวเวอร์
ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เชิญชวนมา “ถุนกัญชากันได้อย่างเสรีตามถนนรนแคม”ในดินแดนสยามเมืองยิ้มตาเยิ้มหยดย้อยไปเลย
เอายังงั้นกันเลยมั้ยล่ะ
ฮ่าฮ่าฮ่า(ควันกัญชาโชยมาพอดี)
ดอนรัญจวน 5/2/2526