พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง เป็นตำนานนักสืบเมืองไทยอีกคน
ย้อนไปเมื่อปี 2523 เด็กหนุ่มจากบางปะหัน พระนครศรีอยุธยา เข้ากรุงใช้วุฒิปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม สอบเข้ากรมตำรวจ
ปรับยศขึ้นเป็นสัญญาบัตร ติดยศ ร.ต.ต. ตำแหน่งรองสารวัตรสอบสวน สน.บางนา
อยู่ 2 ปี ย้ายมาอยู่ สน.พลับพลาไชย2
นั่นเป็นจุดเปลี่ยนให้เด็กหนุ่มจากเมืองเก่ากลายเป็นนักสืบ เมื่อ พ.ต.ท.วิวัฒน์ วัฒนายากร สารวัตรใหญ่ในขณะนั้น ดึงมาเป็นหัวหน้าสายสืบตะลุยถิ่นมังกรจีนเยาวราช
พร้อมแนะนำให้ไปเรียนรู้อยู่กับ ผบก.น.ใต้ ตำนานนักสืบอย่าง “เชอร์ล็อก นู” พล.ต.ท.ธนู หอมหวล ถือเป็นจุดเริ่มเข้าไลน์นักสืบ
จากนั้นติดตาม พ.ต.ท.สมคิด บุญถนอม สมัยเป็น สว.กก.สส.น.ใต้ วิสามัญฆาตกรรมมือปืนในซุ้มกำนันคนดัง 2 ศพ
โด่งดังสุดๆ เมื่อเป็น 1 ในทีมงานคลี่คลายคดีฆ่า 2 แม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณธ์ ที่มี พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีต ผบช.น.เป็นหัวหน้าชุด
ใหม่ๆเหมือนคนว่าง เพราะทำงานมาตลอด ก่อนเกษียณทำงานเต็มที่ พอเกษียณมาก็รู้สึกแปลกๆ คนเคยทำงาน เหมือนสมองเคยทำงาน เหมือนเครื่องเคยวิ่งอยู่ตลอด แล้วหยุดสต๊อป
แต่ลูกน้องที่เคยทำงานกันมา โดยเฉพาะงานสืบสวน ก็ยังติดต่อ เขาจะเรียกเราอาจารย์ ก็โทร.มาปรึกษา โดยเฉพาะพวกนครบาล และภาค 1 มาปรึกษาว่าเคสแบบนี้จะทำยังไง
ก็แนะไกด์ไลน์ไป เรารุ่นเก่าแล้ว อาจจะเก่งภาคพื้นดิน แต่ทางอากาศ หรือทางเทคโนโลยี อาจจะด้อยๆ รุ่นน้องเขา
แต่พื้นฐานเรามีอยู่แล้ว บางทีเขาติดขัด การสืบสวนบางทีมันไปตรงๆไม่ได้ ต้องอ้อมๆบ้าง เหาะเหินเดินอากาศบ้าง แล้วพวกเรารุ่นเก่าๆยังมีแหล่งข่าว เขาเรียกมีสายก็ยังจำเป็นต้องใช้ประกอบกัน
ไม่ทำอะไร รับบำนาญอย่างเดียว
หลังเกษียณ ไม่ได้คิดว่าจะไปทำอะไร ก็รับบำนาญอย่างเดียว ครอบครัวก็มีภรรยา ลูกสาวคนเดียว จบปริญญาตรี นิติศาสตร์ จุฬาฯ จบเนฯ ตอนนี้ไปเรียนต่อที่ ป.โท ที่คิงส์คอลเลจ ประเทศอังกฤษ
ถามเขาอยากเป็นตำรวจมั้ย เขาบอกเห็นพ่อเหนื่อย เลยไม่เอา นี่เพิ่งไป ตอนนี้แม่กับลูกเขาไปอยู่ลอนดอนกัน เราก็เฝ้าบ้าน
กลางคืนผมจะนอน 5-6 ทุ่ม ก็คือ 5-6 โมงเย็นของเขา ก็วีดีโอคอลกู๊ดไนท์กันหน่อย ทุกวันเลย แล้วเมียนี่ เดี๋ยวถ้าเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็จะบินกลับมาบ้าง
มีนอนค้างบางปะหันบ้านเกิด
แต่ก่อนเกษียณ ผมเป็นคนอยุธยา อ.บางปะหัน ก็เตรียมการไว้ ไปปลูกบ้านไว้ ไม่ใหญ่ไม่โต กะทัดรัด เป็นบ้านเกิดเรา พ่อแม่เสียหมด มีพี่สาวพี่ชายก็เป็นครู เป็น ผอ.เกษียณแล้ว อยู่บ้านเวิ้งๆเดียวกัน
ย้อนอดีต ใช้ชีวิตหามรุ่งหามค่ำ
เพราะเรากับการเป็นตำรวจ ใช้ชีวิตเปลืองมาก ชีวิตที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เรื่องจับโจร ทำงานหามรุ่งหามค่ำ อยู่กับท่านธนู หอมหวล ท่านวรรณรัตน์ คชรักษ์ ยังนึก ขับรถขับราตามโน่นตามนี่ ถ้าพลาดพลั้งตกคลอง เห็นเพื่อนพ้องน้องพี่ เด็กใหม่ๆ บางที แป็ปเดียวเสียชีวิตหมด แต่เรายังรอดมาถึงนี่
ดึกดื่นขี่จยย.กลับ ไม่รู้รอดได้ยังไง
สมัยเป็นนายร้อยใหม่ๆเป็นหัวหน้าสายสืบอยู่พลับพลาไชย ขับรถกลับบ้าน บางทีเลิกงาน 6 ทุ่ม ชั่วโมงกว่าๆ ถึงบ้านบางปะหัน ยังนึกถึงปัจจุบันรอดมาได้ยังไง เพราะตีรถไปมา
มีงานอดิเรกหลังเกษียณ มีซุ้มไก่อยู่ คือชอบชนไก่มาตั้งแต่เล็ก ผูกพัน คุยแบบไม่อายคือถิ่นกำเนิดบ้านผมนี่ คล้ายๆว่ามันรายล้อมไปด้วย นักเลง ชนไก่ กัดปลา
ชนะปี๊ปป๊าบ แพ้มาก็ไผ่เหงา
ที่ว่าเหมือนกีฬาสามัคคี เพราะทุกคนมีข้าว เอาข้าวมากิน มีเงิน เอาเงินมาวางเดิมพันกัน แล้วซื้อเหล้า ซื้อเบียร์ มานั่งกินกัน หุงข้าว นึ่งข้าวเหนียว ทำปลาเค็มไปกินกัน
การชนไก่ มันใช้เวลา เหมือนทำอาหารในบ่อนเลย แบบนั้น เวลาชนะก็มาปี๊บป๊าบ กินกันต่อ แต่ถ้าแพ้ ก็ไผ่เหงาเลย กลับบ้านใครบ้านมัน
ก่อนที่จะออกไปชนสนามใหญ่ เขาคัดกันในหมู่บ้าน ปัจจุบันเขามีชมรม มีสถานที่ซ้อม ตัวไหนคัดในหมู่บ้านว่าเก่งแล้ว เราก็ไปตีเดิมพันข้างนอก หลายคนเห็นว่าใช้ได้ ก็เอาไปชน ไปเป็นทีมไงสนุกสนานเฮฮา
ตำรวจมีเยอะ วงการไก่ชน
ไก่ชนตอนนี้ ตัวเก่งๆ ราคาเป็นล้านนะ ผู้ใหญ่ในวงการไก่ชนมีเยอะ อย่างท่านประธานซีพี ท่านธนินทร์ พี่แอ๊ด คาราบาว
ส่วนผู้ใหญ่ตำรวจที่ชอบๆ สมัยก่อน ก็มีท่านอินทรีอีสาน บุญทิน วงศ์รักมิตร อดีตผู้การกองปราบ พี่ทอง วัชระ ทองวิเศษ
การพนันแบบนี้มันยังมีองค์กรต่อต้านอยู่ว่าทรมานสัตว์ แต่ต้องยอมรับความจริง นักมวยจะต่อย ยังต้องซ้อม มันก็เหมือนกัน บ้านอื่นเขาเอาหมากัดกัน น่ากลัวเข้าไปอีก
ผมบอกให้ ไก่ชนที่บ้านเรา ถามว่าทรมานมั้ย มันก็ทรมาน แต่ของเรายังมีระบบดี มีตอ มีเดือย เหมือนมีมีด มีตอ เวลาตี เอาเดือยแทง
แต่ของเราที่ชนกัน มีพลาสเตอร์พันให้มันเจ็บน้อยลงเหมือนนวม แต่อินโดฯ นี่มันปล่อยแทงกันเลย แป็ปเดียวตาย โหดกว่าเราอีก
ตั้งซุ้มไก่ชนสิงห์ทอง เลี้ยงธรรมชาติ
น้องชายพี่ อ.รังสรรค์ กุศลสร้าง อดีตผู้จัดการตะกร้อทีมชาติไทย ที่ไปเสียที่เวียดนาม เป็นเจ้าของสนามบ่อนไก่ ตอนนั้นดังที่สุดเมื่อ 20 ปีนะ บ่อนไก่แก้ว บางปะหัน พี่แอ๊ด ท่านสมศักดิ์ ไปชนกันทั้งนั้น
มันต้องลงทุนนะ อาหารไก่ ต้องซื้อข้าวโพดซื้อข้าวเปลือกให้ ลงทุนสูง ต้องมีคนดูแลเป็นสิบคน แล้วถ้าทำแล้ว ถ้าพ่อดี แม่ดี มีคนติดตาม เขาจะสั่งซื้อ
งานสืบสวนได้ข่าวจากวงการนี้เยอะ ตัวข่าวอย่างดีเลย แล้วเราเป็นตำรวจด้วย มันมีคนมากระซิบบอก ไอ้โน่น สีเทา ดูไอ้ตัวโน้น แน่นอนเลย เพิ่งออกมา ไม่มีอะไรทำ แม่งเล่นไก่เป็นแสนเป็นล้าน ก็ให้ลูกน้องไปตามดู ได้เรื่องเลย
แล้วผมนี่ มนุษย์สัมพันธ์ดี เราเคยอยู่งานสืบสวน งานสืบสวนไม่ใช่ว่าจับโจรอย่างเดียว มันต้องคุยเก่ง เลี้ยงโจรเป็น มีศิลปะ เอาโจรมาเป็นพวกนี่มันสุดยอดเลยนะ
คือเราบอกกับมัน มึงไปทำอะไรกูไม่รับผิดชอบ แต่ในส่วนที่กูจะดูแลมึงได้ ก็ค่าเทอมลูก อะไรมึง แต่เราต้องคุยกับเขาแบบนักเลงๆ บอกพวกมึงกูไม่ยุ่ง แต่ถ้าพวกมึงมีอะไร กูช่วยได้ เช่น ติดต่อประสานงานมอบตัว
รู้ก่อน ใครจะยิงใคร ใครหักใคร
วงการพนัน ก็อยู่ในวงการนักเลงด้วย แต่เราไม่ใช่จ้างมันไปยิง ให้ไปอุ้มไปฆ่า หรือแนะมันไปยุให้มันไปปีนบ้านหลังโน้นหลังนี่ ไม่ใช่ ต้องหาข่าว
อย่างบางที ผมอยู่อยุธยา เมืองนนท์ ในกรุงเทพฯ ไอ้โน่นจะยิงไอ้นี่ คนก็มาเล่าให้ฟัง ว่าเจ้านาย ไอ้โน่นมันหักผม ผมไม่ยอม เราก็ต้องให้มันว่าไป บางทีไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่บางทีมันมาระบาย เราก็รู้แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น
เอาโจรเป็นพวก มันเป็นศิลปะ
ถ้าพูดกันเรื่องจริงๆ คือเลี้ยงโจร คือคนที่มันเป็นโจรมาแล้วเราเอามาเป็นพวก มันยอมมาเป็นพวก มันเป็นศิลปะนะ มันทำยากนะ บางทีมันบอก เจ้านายค่าเทอมลูก พอดีเทอมนี้มันแย่ ขอสัก 2,000 ได้มั้ย เราให้มันไป มันไม่ได้มาขอทุกเดือน
คือมันลำบากจริงๆ อะไรที่ช่วยได้ ก็ช่วยมันไป ไม่ถึงกับเดินอยู่กับมันตลอด เพียงแต่มีใจ ให้มันพึ่งพา หน้าที่ใครหน้าที่มัน เดี๋ยวมันก็มากระซิบ เจ้านายมีงานยิงไอ้โน่นนะ มันผ่านมาทางผม ผมไม่เอา แต่ถ้างานนี้มี ไอ้นี่แน่นอน ก็รู้สาเหตุแล้ว เราก็แกะจากตัวนั้นไปอีกที นี่หลายเรื่องที่ได้จากแบบนี้เลยนะ
สนามม้าสนามมวย แหล่งข่าวนักสืบรุ่นเก่า
อันนี้ได้จากท่านธนู นายเขาเป็นคนที่อัธยาศัยดี พวกฝูงเยอะ ไม่ได้นินทานายนะ นายนู ชอบม้า นักเลงรุ่นเก่า นักสืบรุ่นเก่า ต้องเข้าสนามม้าสนามมวย สนามมวยนี่ผมก็ยังเข้าอยู่เลยนะ บางที 2-3 เดือนไปดูรายการใหญ่ๆที คือได้เจอเสือร้ายทั้งนั้นเลย
คุยตรงๆ เวลาเราจะจับโจร หรือวิสามัญ ตัวจริงทั้งนั้น ไม่มีที่จะไปถูกฟ้องร้อง ไม่มีที่ญาติคนตายจะมาแค้นเรา ของแท้ทั้งนั้น เราทำเพื่อสังคมเพื่อประชาชน
เป็นนโยบายจริงๆสมัยก่อนสนุก ทำงาน เพราะนายดีด้วย ผู้ใหญ่เขาเอางานมาให้นายนูทำ ก็มาแจกแจงให้พวกเราแบ่งกันทำ
เกษียณฯแล้ว สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ
เรื่องของการดูแล รักษาสุขภาพ อายุเราขนาดนี้แล้ว สำคัญนะ พอเกษียณแล้วก็ดูแลเรื่องสุขภาพ ผมเป็นคนค่อนข้างท้วม น้ำหนัก 80 กว่า 81-82 ตอนรับราชการ ใครเห็นผมก็เหมือนคนจีน ท้วมๆ ค่อนข้างจะอ้วนด้วยซ้ำ แต่ตอนหลัง ก่อนเกษียณ สัก 2-3 ปี ก็มาห่วงสุขภาพ
เริ่มลดอาหารเย็นบ้าง สมัยเป็นผู้การปทุมฯ คดีเยอะ คดีเสื้อแดง คดีอาชญากรรมเยอะ เป็นสโตกนะ พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่รีบไปหาหมอเร็ว
พูดไปแล้วเสียงแอ้วๆ ทีแรกก็ดังๆดี ตอนหลังคนที่ฟังเริ่มไม่รู้เรื่อง บอกทำไมเสียงเบาลงๆ คนที่รับโทรศัพท์ผม เขาบอกว่าทำไมเสียงจะง่วงนอนหรือไง
สโตกหายแล้ว กินยาคุมเบาหวาน
ก็เริ่มรู้ตัว ไปหาหมอตอนนี้ก็ยังหาอยู่ เขาเรียกเป็นสโตก เส้นเลือดมันไม่โฟร์ ไม่ไปสมอง ไปขา เหมือนท่อน้ำมันมีติ่งอะไรมาขวางทางเดินน้ำ สุดท้ายกินยาแอสไพรินทำลายลิ่มเลือด ทุกวัน ทุกเช้า เป็นมาตั้งแต่ปี 2553 เป็นเดือนสองเดือนแล้วก็หาย ตอนนี้มีเบาหวานประมาณ 120 – 130 กินยาคุมอยู่
หลังเกษียณมานี่ นอนไม่ค่อยหลับ ยังกินยา แต่ว่านิดๆนอนไม่หลับก็กินยา ปัจจุบันยังกินอยู่นิดหนึ่ง แบบเม็ดหนึ่งแบ่ง 4 กิน แล้วเย็นก็ออกกำลังกาย เดินบ้าง วิ่งบ้าง
แล้วผมชอบเล่น เซปักตะกร้อ ผมจะเล่นกับตำรวจ ใกล้ๆบ้าน เป็นแฟลตตำรวจ ขับรถไปสัก 500-600 เมตร เล่นเป็นเบอร์ 3 คนเสิร์ฟ ชอบเล่นมาเก่า
63 ยังโอเค 2 กม.วิ่งได้สบายๆ
เรื่องสุขภาพก็ฝากน้องๆ เพราะบางทีมันลืมตัว โดยเฉพาะตำรวจเราสายสืบ กินนอนไม่เป็นเวลา ไปโน่นไปนี่ ใช้ชีวิตเปลือง เดี๋ยวไปโน่น กินเหล้า แถมานี่ กินเหล้าอีกนิดหนึ่ง พอของไม่ดีเข้าไปในร่างกาย สุดท้าย มันก็สำแดงออก
แต่ผมก็ยังโอเค.ยังสมบูรณ์แข็งแรงอยู่ ยังวิ่งได้ 2 กม.สบาย แต่อย่าตั้งเวลานะ ไปเรื่อยๆ
นี่คือไลฟสไตล์ชีวิตหลังเกษียณฯของพล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ครับ!!!
กิตติพงศ์ นโรปการณ์ บันทึก 29/9/62