แฟ้ม(ไม่)ลับสีกากี โดย สมถวิล
หน้าที่ 20 “หมวดยุฟ” ขอรับใช้ชาติ ดูแลปลายด้ามขวาน
ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญทอง (หมวดยุฟ) อายุ 27 ปี เกิดเมื่อ 10 กันยายน 2533 พื้นเพเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จบชั้นมัธยมจากจุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดตรัง เตรียมทหารรุ่น 51 โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 67
บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรกเมื่อปี 2557 ในตำแหน่ง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ในชีวิตการเป็นพนักงานสอบสวนมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้สัมผัสปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เข้าใจถึงสภาพปัญหา และพื้นฐานของสังคมตามความเป็นจริง ซึ่งในพื้นที่นี้พิเศษกว่าพื้นที่อื่นๆ ที่ผู้คนส่วนใหญ่มีวิถีชีวิต ภาษาพูด ศาสนา แตกต่างจากภาคอื่นของประเทศไทย ซึ่งต่อมามักกลายเป็นประเด็นที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมักจะหยิบยก มาปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกและเข้าใจผิดต่อกันเสมอ
แต่การเป็นพนักงานสอบสวนซึ่งทำหน้าที่ในการอำนวยความยุติธรรมและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยไม่มีการแบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัตินั้นนั้น ทำให้เราสามารถแสดงบทบาทตำรวจในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พึ่งคอยช่วยเหลือ แนะนำ ให้คำปรึกษา เสมือนหนึ่งว่าเรากำลังบรรเทาความเดือดร้อนของญาติพี่น้องหรือครอบครัวของเราเอง โดยมิได้มุ่งแต่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดแต่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ต้องดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม สิ่งนี้ทำให้เกิดทัศนคติที่ดีต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ได้ทางหนึ่งอีกด้วย
ต่อมาปี 2559 ย้ายมาดำรงตำแหน่งรองสารวัตร กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ รับผิดชอบคดีเกี่ยวกับความมั่นคงและการก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นงานที่ยากและท้าทายเพราะ การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์การกระทำผิดของผู้ต้องหาทำได้ยาก เนื่องจากการก่อเหตุทำในรูปแบบองค์กรอาชญากรรม มีการปกปิดอำพรางในทุกขั้นตอน ซึ่งถ้าเกิดเหตุแล้วเราสามารถสืบสวนจับกุมตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม ที่พิสูจน์ได้ด้วยพยานหลักฐาน แล้วเชื่อว่าสิ่งนี้จะสร้างความสงบสุขและความเป็นธรรมในสังคมได้ ประกอบตัวเองชอบและรักในสายงานสืบสวนอยู่แล้ว จึงพยายามศึกษาเรียนรู้จากรุ่นพี่ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้เพื่อพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นกำลังพลที่มีคุณภาพของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ความรู้สึกที่ได้ดูแลชายแดนใต้เป็นอย่างไร
ดีใจครับที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่นี้ เพราะตั้งใจเลือกตั้งแต่วันเรียนจบ คิดว่าจะได้มาหาประสบการณ์ใหม่ในอาชีพตำรวจที่หาเรียนรู้จากที่ไหนไม่ได้และจะได้หล่อหลอมความเป็นลูกผู้ชายให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะมีสถานการณ์ต่างๆคอยทดสอบเสมอ ได้ฝึกการคิดการตัดสินใจ ผมภาคภูมิใจและรักในหน่วยมากเนื่องจากทุกคนมีความตั้งใจในการแก้ปัญหา มีความรักสามัคคีในหน่วยสูง เพราะเราทำงานกันด้วยหัวใจจริงๆ
“ในสังคมมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกัน หน้าที่เราคือทำอย่างไรให้ส่วนรวมเค้าอยู่กันได้ สุจริตชนต้องใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขซึ่งจุดนั้นมักจะไม่มีใครมองเห็นความสำคัญของตำรวจ แต่ในความเป็นจริงพวกเราต้องพยายามทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น การเป็นตำรวจอาชีพจึงน่าภาคภูมิใจตรงที่แม้ทุกๆคนจะไม่เห็นคุณค่าของเรา มีแต่คนตำหนิ สาปแช่ง แต่เราก็ยังต้องก้มหน้าทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดต่อไป เพราะเราทุกคนรู้ว่าเรากำลังทำเพื่อใคร” หมวดหนุ่มกล่าว
คติประจำใจ : ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง