๒๙ กันยายน ๒๕๖๘
เรียน ครอบครัวตำรวจภูธรภาค ๘
สวัสดีครับ ผมตั้งใจเขียนข้อความนี้ เพื่อบอกลาครอบครัวตำรวจภูธรภาค ๘
หลายครั้ง ทุกครั้งที่เริ่มเขียนความรู้สึกผูกพันจะมาก่อนร่ำไรจนเขียนไม่เสร็จ การปฏิบัติงานร่วมกันในห้วงที่ผ่านมา เหมือนอยู่กับครอบครัวญาติพี่น้อง พวกเราห่วงใยซึ่งกันและกันเสมอ
แต่ถึงกำหนดเวลาที่ต้องห่างกันแล้ว ตามวิถีชีวิตคนในเครื่องแบบ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๘ ผมขออนุญาต ออกจาก line groups ที่ใช้สำหรับการปฏิบัติงานครับ ขอฝากความรู้สึกของผม ตลอดเวลาที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านครับ
ข้อ ๑.พี่ เพื่อน น้อง ตำรวจ และครอบครัวตำรวจ ด้วยความเคารพครับ ตลอดเวลา ๓ ปี (๑ ต.ค.๖๕-๓๐ ก.ย.๖๘) ผมรับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ ข้าราชการตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรภาค ๘ มาเฝ้า มารับผิดชอบในช่วงเวลาหนึ่ง พรุ่งนี้ (๓๐ ก.ย.๖๘) บทบาท-หน้าที่ สิ้นสุดแล้วครับ ต้องส่งมอบให้ท่านต่อไปรับผิดชอบ
ข้อ ๒.ในโอกาสแรก ผมตกลงกับ พี่ เพื่อน น้อง ตำรวจทุกท่านว่า “ผมให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน ผมรักษาคำพูด และผมรับผิดชอบ” สิ่งที่ผมต้องทำ เพราะจำเป็นต้องบริหาร ให้เกิดความสงบเรียบร้อย รักษาภาพลักษณ์ของตำรวจภูธรภาค ๘
ผมต้องขออภัย ขอโทษในบางครั้งบางเรื่องที่ล่วงเกินและทำให้บางท่านไม่สบายใจ ต้องขอขอบคุณหลาย ๆ ท่าน ที่ตั้งใจ เอาใจใส่ ทุ่มเท ร่วมปฏิบัติอย่างสุดกำลัง ด้วยความสามัคคี ในห้วงเวลาที่ผมต้องรับผิดชอบ “ตำแหน่งเป็นสิ่งชั่วคราว แต่วิธีที่ปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงาน คือ สิ่งที่จะได้รับการจดจำ”
ข้อ ๓.หน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจเรามันมากมาย บรรยายได้ไม่หมด เราต้องเคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ ต้องเป็นที่พึ่งของทุกคน ยากดีมีจน ไม่ใช่ประเด็น ตำรวจต้องเป็นที่พึ่งทุกกรณี ในทุกเหตุการณ์ ตำรวจเราจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายเสมอ พวกเราทำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่เราทำผิดกฎหมายไม่ได้
ผมและเพื่อนตำรวจของผมทบทวนกันในหลาย ๆ เหตุการณ์ เมื่อจบภารกิจ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ความเสียสละ ความเสี่ยงอันตรายที่มอบให้กับบุคคลที่เราไม่รู้จักมาก่อน เป็นการทำบุญอันใหญ่หลวง เป็นความภาคภูมิใจ จะอยู่ในความทรงจำ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคุ้มครองพวกเรา
ข้อ ๔.ภารกิจตำรวจในปัจจุบัน ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารทาง social media อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง social listening เพื่อนำมาวิเคราะห์จำเป็นมาก เราต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอม-ข่าวลวง (FAKE NEWS)
เมื่อบางเรื่องถูกชี้นำ การสืบสวนสอบสวนผ่าน social media ทำให้เรามีภารกิจเพิ่มเติมในการชี้แจง ทำความเข้าใจ “ผมใช้การสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ แถลงข่าว ค่อนข้างน้อย แต่จะ post หรือให้สัมภาษณ์เท่าที่จำเป็น“
ข้อ ๕.ช่วงเวลา ๓ ปี (๑ ต.ค.๖๕-๓๐ ก.ย.๖๘) กำลังจะผ่านไป เป็นเวลาที่ พี่เพื่อนน้องตำรวจภูธรภาค ๘ ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ติดตามแก้ไขสถานการณ์ทุก ๆ อย่าง มาด้วยกัน ”มีทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ มีทั้งที่เปิดเผยได้และเปิดเผยไม่ได้“ หน่วยงานตำรวจภูธรภาค ๘ ได้รับรางวัลด้านการป้องกันปราบปราม, การสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม
ผมภูมิใจดีใจกับทุก ๆ รางวัล ทุกสถิติที่ได้รับการยอมรับจากผู้บังคับบัญชา, หน่วยร่วมปฏิบัติและประชาชนในพื้นที่ ผมภาคภูมิใจกับภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเรา เราอยู่อย่างสมถะ ติดดิน ไม่เอาเปรียบ มีความสุขกับความเรียบง่าย เราไม่เคยประกาศ ประชาสัมพันธ์ตนเอง เราไม่โฆษณาเกินจริง ”ศักดิ์ศรี ต้องสร้างเอง เกียรติยศ เมื่อคนอื่นเชื่อถือ จะยอมรับและมอบให้“
ข้อ ๖.สิ่งที่ผมให้ความสำคัญ เมื่อลงมือทำ จะรู้สึกดีใจและชื่นใจทุกครั้ง คือ การบรรจุทายาทของข้าราชการตำรวจที่สูญเสียจากการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อทายาทได้บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ นั่นคือสิ่งที่เราได้ทำให้กับครอบครัว พี่ เพื่อน น้อง ตำรวจผู้เสียสละของเรา ทุกคนที่มีส่วนได้ช่วยเหลือ ช่วยรวบรวมพยานหลักฐาน ให้ทายาทของเราได้รับสิทธิในส่วนนี้ คือกุศลมหาศาล
ข้อ ๗.เมื่อ ๑๖ และ ๑๘ ก.ย.๖๘ เราแสดงมุทิตาจิต ให้กับพี่ของเราที่จะพ้นจากอำนาจหน้าที่ มีบางกิจกรรมที่ พี่ เพื่อน น้อง ตำรวจภูธรภาค ๘ ให้เกียรติ ระลึกถึงผมและครอบครัว
ขอบคุณสำหรับ ข้อความ เนื้อเพลง บทความที่เกิดขึ้น ประโยคที่บอกว่า “เป็นนายสามปี เป็นพี่ตลอดไป” ก็ทำให้ผมและครอบครัว ผูกพัน ห่วงใย ครอบครัวตำรวจภูธรภาค ๘ มากขึ้นไปอีก
ท้ายนี้ผมและครอบครัว ขอบคุณทุก ๆ ท่าน ขอให้ท่านและครอบครัว มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ ที่เข้มแข็ง พบแต่สิ่งที่ตั้งใจ สมปรารถนา หากต้องให้ผมและครอบครัว ช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา ผมยินดีตลอดเวลา ผมไม่เคยเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์และสถานที่อยู่ การติดต่อในปัจจุบัน ทำได้ไม่ยาก
แล้วคงได้พบกันอีกครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ….. สุรพงษ์ฯ