ท่องปทุมวัน วันนี้มาคุยกับ อินทนนท์ 1-พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบชภ.5 กันต่อครับ
*ทบทวนฝึกสุนัขดมกลิ่น
ในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติด พล.ต.ต.พูลทรัพย์บอกว่า พยายามที่จะไปขับเคลื่อนเรื่องด่านตรวจให้เข้มแข็ง สุนัขตำรวจ จะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ เรามีอยู่ 30 กว่าตัว มีการทบทวนปีละครั้ง แล้วเวลาผมไปตรวจตามด่าน ถามว่า หมามันดมอะไรได้ มันดมไม่ค่อยได้หรอก แล้วให้มันอยู่ยังไง ใส่กรงเหล็กมีซี่ๆ อยู่ตามใต้ต้นไม้ นี่ผมจะทำของบสร้างเป็นอาคาร มีแอร์ให้มันด้วย มันหมาฝรั่งนะ เวลาเอามันออกมาทำงาน สักครึ่งชั่วโมง ชั่วโมงหนึ่ง ก็เอามันกลับไปอยู่เย็นๆ นี่มันอยู่ร้อนๆ ไปดมแป็บเดียว 10 นาที ก็หมดแล้ว หมดอารมณ์แล้วหมา แล้วยังไงรู้มั้ย อยู่มันเป็นปีไม่เคยฝึกเลย หมาพวกนี้มันต้องดมยาเสพติดทุกวัน ให้มันคุ้นกลิ่น ไม่ใช่ให้มันไปดมโน่น ดมนี่เป็นปี แล้วมันลืมกลิ่นยาเสพติดแล้ว ว่าเป็นยังไง เหมือนเรามองภาพอะไรสักอย่าง สักหลายๆ เดือนเรายังลืมเลยยิ่งดูภาพอื่นๆ ภาพที่เคยโฟกัส เราก็ลืม ผมออกมาตรการไปแล้ว จะต้องให้หมาได้รับการฝึกการดมทุกอาทิตย์ แต่ว่ามันต้องดูข้อกฎหมาย แล้วกำลังให้ไปถามพวกครูฝึกว่าจะทำยังไง
*เชียงใหม่เหมือนกรุงเทพ แต่เอาอยู่
ใน 8 จังหวัด ห่วงที่ไหนมากที่สุด แม่ทัพตำรวจภาค 5 บอกว่า ไม่มีอะไรที่น่าห่วง จะมีแค่เชียงใหม่ ที่เหมือนกรุงเทพฯ เล็กๆ มีอาชญากรรมหลายรูปแบบ จริงๆท้องที่เขาก็ทำดีอยู่แล้ว เขามีมาตรการ แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น มันไวเพราะเชียงใหม่อย่างที่บอกคือกรุงเทพฯเล็กๆ แล้วเรื่องโซเชียลมีเดีย ก็กลายเป็นว่าบางทีเรื่องเล็กนิดเดียวกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ กรณีที่มีการทำร้ายน้องเจมส์บอนด์ ที่มาลีนสกาย เป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกาย แล้วบอกว่าผู้ที่ทำร้ายคือนายบอล เป็นผู้มีอิทธิพล มันไม่ได้มีอิทธิพลอะไร ไปยกให้มันมากไป จริงๆแล้วต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แล้วเราจับกุมดำเนินคดีทั้งหมดทุกคน สรุปภาพรวมๆแล้ว คิดว่าเอาอยู่ สบายมาก ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือทุกอย่าง อีกอย่างมาเฟีย ที่มีการกล่าวถึง จริงๆไม่มีถ้ามีขอให้แจ้ง ให้ข้อมูลมา
*ใช้มาตรการเด็ดขาดแก๊งค้าไม้
แม้แต่เรื่องของการค้าไม้ที่ พล.ต.ต.พูลทรัพย์บอกว่า ขณะนี้ ที่จ.พะเยา จับกุมไม้เป็นจำนวนมาก แค่นั้นไม่พอเรายึดบ้าน ยึดที่ดิน หมายความว่า ใช้กฎหมาย ปปง.ยึดทรัพย์ด้วย ตอนนี้วงการค้าไม้ แถวพะเยา แถวเชียงรายกระเทือนหมด เมื่อก่อนจับก็จับไป แล้วใช้กฎหมาย ปปง.ที่มีมูลฐานจากการค้าไม้ มาเป็นกฎหมายมูลฐานเพื่อยึดทรัพย์แล้ว อันนี้คือเราใช้มาตรการเด็ดขาด เพราะการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เป็นนโยบายของรัฐบาล เราต้องช่วยกันรักษาไว้
*ต้องฝึกเข้ม ดีกว่ามาบอกเสียใจทีหลัง
มาก็อยากให้ลูกน้องทำงานจริงจัง เมื่อกี้ผมก็เรียกประชุมเกี่ยวกับมาตรการช่วงปีใหม่ เรียกผู้การทุกจังหวัดมากำชับว่าขอให้ไปดูเรื่องมาตรการให้เข้ม ควบคุมการปฏิบัติให้เข้ม มันก็จะเกิดเรื่องน้อย เกิดปัญหาน้อย แต่ถ้าคุณมาตรการไม่เข้ม ปฏิบัติไม่เข้ม เดี๋ยวปัญหาก็เยอะ เรื่องก็เยอะ อุบัติเหตุก็เยอะ ผมกำชับอย่างนี้ คนเราเหมือนทหาร ฝึกน้อย ก็ตายมาก ฝึกมากก็ตายน้อย อย่างพระพยอมว่าเสียเหงื่อ ดีกว่าเสียน้ำตา คนเรามันต้องฝึก ต้องทำ ต้องเข้ม ใช่มั้ย ไม่ต้องมากล่าวคำว่าเสียใจ ทีหลัง
*ตำรวจ ภ.5ทำงานดี แต่ใจเย็นไปหน่อยงช
จริงๆแล้วการทำงานของตำรวจภาค 5 ก็ทำงานดี แต่ค่อนข้างจะใจเย็น ตามแบบฉบับตำรวจภูธรไกลๆ แต่ก็ตั้งใจทำงาน มีวินัยดี อาจไม่ดึ๋งดั๋งเหมือนในนครบาล สภาวะมันไม่ได้กดดันขนาดนั้น ตรงนี้ก็คงต้องกำชับกวดขันการทำงาน การประชุมเร่งรัด การมีระบบในการตรวจสอบอย่างชัดเจนเช่น เรื่องยาเสพติด ก็มีระบบตรวจสอบว่าใครจับไม่จับ จับอะไรบ้างในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นในรอบ 10 วัน จะสามารถสรุปได้ว่า จับอะไรบ้าง คุณไม่จับเลย เพราะอะไร พื้นที่คุณ ไม่มีคนขายเลยรึไง คุณจับแต่คนเสพ มันไม่ได้หล่นมาจากฟ้า อย่างน้อยๆ ต้องสอบสวนขยายผลว่ามันซื้อมาจากใคร ถ้าอยู่นอกพื้นที่ ถ้าไปจับได้ ก็ไปสืบสวนจับกุม หรือล่อซื้อมา ถ้าจับไม่ได้ก็ประสานหน่วยที่นั่น ให้ข้อมูลไป ต้องทำให้ได้ผลที่สุด ไม่ใช่ว่าพอนั่นแล้วไม่ทำเลยจับผู้เสพมาแล้วก็ส่งฟ้องศาล แล้วไม่ไปจับผู้ค้า อย่างนี้มันก็มีคนค้าอยู่ตลอดมันจะเย้ยฟ้าท้าดินไปตลอด ยิ่งไม่เอาใจใส่มันจะยิ่งขายกันอย่างโจ๋งครึ้ม มันจะคิดว่าไม่มีกฎหมาย เพราะฉะนั้นในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ที่ผมมาอยู่ การจับยาเสพติด ผู้จำหน่าย ผู้ครอบครองเพื่อจำหน่าย คือ 5 ข้อหาหลัก คือ ผลิตนำเข้า ส่งออก จำหน่าย เพื่อจำหน่าย จับกุมมากขึ้นกว่าปีที่แล้วในห้วง 2เดือนแรก เดือน ต.ค. พ.ย. เกือบ 500 ราย
*มาตรการ 3p นโยบายขับเคลื่อน
ส่วนนโยบายการบริหารได้ให้นโยบายตำรวจทั้งภาค ไปแล้ว เป็นวิสัยทัศน์ “ตำรวจมืออาชีพ ร่วมใจสามัคคี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความผาสุกของประชาชน” หรือ มาตรการ 3p p แรก public Security คือ เรื่องของความมั่นคง สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พิทักษ์ปกป้องสถาบัน และการรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน p ที่ 2 peaceful เป็นเรื่องของความผาสุกของประชาชน เช่นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การอำนวยความยุติธรรมทางอาญา การป้องกันปราบปรามยาเสพติดและ pที่ 3 professional ทำอะไรต้องเป็นมืออาชีพ ต้องมีข้อมูล ต้องมีการพัฒนา ขับเคลื่อนขบวนของตำรวจในยุคของอาเซียน พัฒนาระบบฐานข้อมูล เพื่อนำมาใช้งาน พัฒนาเรื่องเทคโนโลยี
*ทำงานไปวันๆไม่ได้
อินทนนท์ 1 บอกต่อว่า คือทำไปวันๆ ไม่ได้ เพราะเคยเป็นตำรวจนครบาล ตำรวจนครบาลมันดึ๋งดั๋ง ไปอยู่ที่ไหนผมก็อย่างนี้ ตอนนั้นไปอยู่อำนาจเจริญ ออกตรวจเสาร์-อาทิตย์ แต่ตอนหลังต้องยอม เสาร์-อาทิตย์ พวกนี้กลับบ้านหมด กลับโคราช วันจันทร์ ค่อยมาว่ากันใหม่ แต่นครบาลไม่ได้ ยุคเก่าก็ไม่อย่างนี้นะ มีตำรวจภูธรมันเงียบ สมัยก่อนออฟฟิศ ผบช.น.แทบจะไม่ปิดเลย ทั้งวันทั้งคืน จะปิดก็ 5 ทุ่ม เที่ยงคืนไปแล้ว ส่วนตำรวจภูธร เอาเป็นว่าถ้าหลังจาก 4 โมงเย็น ยังรับโทรศัพท์ก็ใช้ได้แล้ว แต่ภาค 5 นี่แปลกนะ ใช้ได้เลย หลัง 4 โมงเย็น ยังรับโทรศัพท์แต่ตอนผมอยู่ภาค 7 บางทีโทร.ไปเย็น มันไม่รับแล้ว
*ขอทุกคนอยู่ในกรอบกฎหมาย
ในด้านต่างๆ ต้องสร้างความสามัคคีปรองดองขึ้นในพื้นที่ อย่างที่ทราบ พื้นที่ภาคเหนือ ในอดีตเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องการแบ่งแยกพอสมควร เพราะฉะนั้นจะทำยังไงให้ประชาชนมาเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ร่มเงาของสถาบันกษัตริย์ ให้เกิดความรักสามัคคีปรองดองขึ้น ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย อันนี้ถ้าเรามีส่วนช่วยได้เราก็ทำ ไม่ว่าจะหน่วยงานไหนเขาจะดำเนินการด้านนี้ ถ้าให้เราร่วม เราจะทำเต็มที่ ยิ่งในขณะนี้สถานการณ์การเมืองเริ่มคลี่คลาย ก็ไม่ได้จะมีมาตรการออกมา เพียงแต่เราต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ผมว่าที่มันมีเรื่องมีราวทุกวัน เพราะว่ามันไปละเมิดกฎหมายกันส่วนใหญ่ อะไรก็กฎหมายไม่มีความหมาย เอาเป็นว่าขอให้ทุกคนทำตามกฎหมายอยู่ในกรอบ เห็นแก่ส่วนรวมให้มาก เห็นแก่สังคม และประเทศชาติ ให้มากอย่าเห็นแก่ตัวมาก ขณะเดียวกัน อยากให้ตำรวจมีความเมตตาปราณีให้มาก ไม่ใช่เห็นแก่ได้จนลืมทุกเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ต้องมีส่วนได้บ้าง เสียบ้าง คนที่ทำงานร่วมกับผมต้องมีแบบนี้ อย่าไปมุ่งผลประโยชน์ ได้ช่วยคนแล้วสบายใจ ชื่นใจ
กากีกลาย27/12/59
