เพิ่งนำเสนอไปไม่กี่วัน ก็พบเห็นอาการกำเริบอักเสบของวงการตำรวจป่วยจิตป่วยใจอีกแล้ว
ช่างน่าเวทนาสงสารเหลือเกินที่เกิดขึ้นกับกองร้อยน้ำหวาน ได้ทราบจากเพจเฟซบุ๊กของหมอแล็บแพนด้า นำข้อความจากเฟซบุ๊กของ Chontaros Sukdayotin เผยแพร่
หมอแล็บแพนด้า ระบุข้อความว่า
“ท่าหัวปักพื้นมันค่อนข้างอันตรายอยู่นะครับ การลงโทษแบบเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายก็มี เช่นการวิ่ง วิดพื้น ซิตอัพ หรือดึงข้อ ล่าสุดทางทีม Hope task force ได้แจ้งมาว่าน้องอยู่กับคุณแม่ และได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว พบเห็นสัญญาณการคิดสั้น ส่งมาที่อินบ๊อกซ์เพจผมกับเพจ Drama-addict ได้เลยนะครับ”
ส่วนเนื้อหาในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ Chontaros Sukdayotin ว่า
สวัสดิค่ะ ส.ต.ต.หญิง คนธรส ศักดาโยธิน ผบ.หมู่ ฝอ.4 บก.อก.บช.น. วันนี้จะมาลากลับดาวแมวค่ะ อนาคตหนูได้ดับสลายแล้วแล้ว ความสามารถต่าง ๆ บัดนี้ได้สูญเสีย และไร้ความสามารถแล้วค่ะ
ตลอดระยะเวลาการเป็นตำรวจ 1 ปี หนูได้เปลี่ยนสถานะกลายเป็นคนป่วยจิตเวช เป็นโรคซึมเศร้าจากการฝึก เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุถูกเตะศีรษะในค่าย ซึ่งเพื่อนที่เตะไม่ได้ตั้งใจ หนูไม่เคยโกรธ ไม่เคยติดใจ หนูรักษาตัวและถูกให้กลับไปฝึกอีกครั้ง
แต่โดนครูฝึกทำโทษทุกอย่างทุกทาง พูดทำร้ายจิตใจทุกวัน เอาเชือกฟาดขา โดนดองเวรทุกคืนไม่ได้นอน ไม่เคยได้พักตามที่หมอสั่ง
ต้องทำท่าที่เอาหัวลงพื้น มันทรมานมาก ป่วยจนไอเป็นเลือดออกมารักษาตัวและไม่ได้กลับไปฝึกอีกเนื่องจากอาการทางจิต
ที่ผ่านมาหนูพยายามทำหน้าที่ตำรวจอยางที่ดีที่สุดแล้ว แต่ในเมื่อไม่ว่าหนูจะพยายามแค่ไหนก็ตามหนูก็ยังคงเป็นคนป่วยอยู่ดี ขอบคุณอาชีพตำรวจมากเลยนะคะที่ทำให้หนูกลายเป็นซึมเศร้า กลายเป็นโรคจิต
วันนี้หนูถึงที่สุดแล้ว ให้มันจบที่หนูเถอะนะคะการฝึกแบบนี้เราฝึกเพื่อความแข็งแรง ไม่ใช่ฝึกให้กลายเป็นคนป่วย
บันทึกสำนวนที่หนูเคยเขียนไว้ 7 แผ่นมีเนื้อหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด หนูเก็บไว้ในแฟ้มนะคะ ส่วนเพื่อนๆน้ำหวานทุกคนเราโคตรภูมิใจในตัวพวกเธอมากเลย สานฝันให้เราต่อทีนะขอบคุณนะที่ยังนับเราอยู่ในรุ่น เราจะจดจำไว้
สุดท้ายนี้ ดิฉัน ส.ต.ต.หญิง คนธรส ศักดาโยธิน ในระหว่างเขียนมีสติดีค่ะ ขอมอบทรัพย์สินทุกอย่างที่มีให้มารดาเพียงแต่ผู้เดียว ร่างของหนูได้มอบเป็นอาจารย์ใหญ่แล้ว ไม่ต้องจัดพิธีใด ๆ ค่ะ
ปล.ขอบคุณแม่มากน้าที่เลี้ยงดูให้หนูเติบโตมาจนถึงวันนี้ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดชีวิตการป่วย รักแม่ รักยายนะคะ ไม่รู้จะมีโอกาสมั้ย แต่อยากเกิดมาอยู่ด้วยกันนะ ลาก่อนค่ะ
#134อย่าโง่เอาหัวไปโดนเท้าเพื่อนอีกล่ะ
ข้างต้นนี้คือถ้อยความสั่งลาของตำรวจหญิงคนหนึ่ง อ่านแล้วสะเทือนจุกอกไม่น้อยสำหรับคนทั่วไป แต่กับคนที่ถูกระบุถึงในปล.สุดท้ายล่ะ จะรู้สึกอย่างไร
แล้วเรื่องนี้เคสนี้ไม่ต้องรอไปวิจัยสำรวจว่าตำรวจป่วยจิตป่วยใจป่วยกายเพราะอะไร มันอยู่ในข้อความเฟซบุ๊กหน้าเดียวหมดแล้ว หรือไปดูรายงาน 7 แผ่นที่เธอเขียนก็ได้
อย่ามัวพูดเท่ๆ ว่าเป็นกรณีศึกษาหรือ Study Case หรอกนะท่านผู้ใหญ่ผู้โตทั้งหลายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทำอะไรได้ก็รีบทำซะ อย่ารอเวลาต้องเอ่ยวลีกิ๊บเก๋ว่า “เราทำดีที่สุดแล้ว”
ดอนรัญจวน25/3/2567