ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น., บก.สส.ภ.4, กก.สส.บก.น.4,กก.สส.ภ.จว.มหาสารคาม, สน.วังทองหลาง, สภ.ยางสีสุราช จว.มหาสารคาม บูรณาการสืบสวนเร่งล่าหาตัวกลุ่มขบวนการจ้างวานลอบสังหาร “เสี่ยต้น” ซึ่งถือว่าเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจและเป็นที่สนใจของประชาชน
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 เวลา06.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. , กก.สส.บก.น.4 , สน.วังทองหลาง ,
พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.บก.น.4 , พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง พร้อม พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผบก.สส.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ ตำรวจภูธรภาค 4 เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ ดังนี้
ชมนาทีจับกุมคลิก https://youtu.be/qw2ZSrHLGYs?si=C122legFqWry8v1B
น.ส.วรรณิภา หรือ มด อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2562/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 67 ฐาน “เป็นผู้ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
นายสาโรจน์ อายุ 25 ปีตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2560/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 67 ฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้อนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
และ นายวีรภัทร อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2561/2567 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 67ฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้อนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
ยึดทรัพย์สินไว้เป็นของกลาง ดังนี้ โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง , แท๊ปเล็ต 2 เครื่อง สมุดบัญชี8 เล่ม และเอกสารสำคัญประจำตัวจำนวนมาก โดยยึดจากน.ส.วรรณิภา ปืน9 มม.นายสาโรจน์2 กระบอก พร้อมกระสุนปืน5 นัด โดยกระบอกที่ก่อเหตุโยนทิ้งบ่อน้ำหลังห้องนอน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถงมและตรวจยึดไว้ อีก 1 กระบอก ยึดได้ในห้องนอนนายสาโรจน์
รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น MSX 125SF สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งนายวีรภัทรเป็นผู้นำพาไปตรวจยึดภายในบ้านเลขที่ 36 หมู่ 4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ในคดีนี้ ตามวันเวลาเกิดเหตุ (8 เมษายน 2567) เวลา23.35 น. มีคนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ ประกบข้างรถยนต์นายพิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจโรงเรียนสอนสปาและนวดแผนไทย และใช้ปืนพยายามฆ่านายพิชิตในพื้นที่ สน. วังทองหลาง แล้วขี่จยย.หลบหนี นายพิชิตฯได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.สน. วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายกับพวกรายดังกล่าวตามกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 15 เมษายน 2567 นายพิชิตเดินทางกลับไปยังบ้านภรรยาที่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม หลังจากนั่งทานอาหารและดื่มสุรากันที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ในช่วงเช้าของวันที่ 16 เมษายน 2567 นายพิชิตฯถูกพบว่าเสียชีวิตที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาญาตินายพิชิตฯสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิตขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน
จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่ากลุ่มคนร้ายในคดีนี้ประกอบด้วยผู้ต้องหาที่ 1 น.ส.วรรณวิภา หรือมด อายุ 37 ปี เป็นผู้ใช้จ้างวาน/และชี้เป้าผู้ต้องหาที่ 2 นายสาโรจน์ อายุ 25 ปี ทำหน้าที่เป็นธุระจัดหา อาวุธปืน ที่พัก ยาพาหนะ และสถานที่ในการเตรียมการก่อเหตุ ผู้ต้องหาที่ 3 นายวีรภัทร อายุ 25 ปี จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การรับว่าทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ให้มือปืน และผู้ต้องหาที่ 4 นายณัฐพล อายุ 25 ปี ทำหน้าที่รับว่าจ้างงาน / มือปืน อยู่ระหว่างหลบหนี
แนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายพิชิตฯ ผู้ตายทะเลาะวิวาทกับ น.ส.วรรณิภาฯ หลายครั้ง และมีทำร้ายร่างกายกัน เป็นมูลเหตุที่ทำให้เกิดการก่อเหตุ โดยช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ ได้เริ่มหามือปืนเพื่อก่อเหตุเริ่มมีการติดต่อกับนายณัฐพล มือปืน และนัดหมายกัน
วันที่ 1 เมษายน 2567 นายณัฐพลฯเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพมหานครได้นัดพบกับ น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ จากนั้น น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ ได้โอนเงินให้กับนายณัฐพลฯ ตั้งแต่วันที่ 1-7 เมษายน 2567 จำนวน 45,500 บาท และรับเป็นเงินสดอีกภายหลัง รวมกว่า 300,000 บาท
การเดินทางมากรุงเทพมหานครเพื่อก่อเหตุของนายณัฐพลฯในครั้งนี้นั้น มีนายสาโรจน์ฯ ให้การช่วยเหลือ จัดหาที่พัก จัดหาอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุให้ ซึ่ง น.ส.วรรณิภาฯ ได้โอนเงิน 33,000 บาท ให้กับนายสาโรจน์ฯ เป็นค่าจ้างในครั้งนี้ด้วย
ระหว่างนั้น น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ และนายณัฐพลฯ มือปืน ได้มีการติดต่อกัน โดย น.ส.วรรณิภาฯ จะคอยแจ้งความเคลื่อนไหวให้นายณัฐพลฯ มือปืนทราบ มีความพยายามวางแผนเพื่อลงมือก่อเหตุประมาณ 2 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ต่อมานายณัฐพลฯ มือปืน กับ น.ส.วรรณิภาร่วมกันวางแผนล่อให้ นายพิชิตฯมายังโรงเหล้าแสงจันทร์ให้มือปืนลงมือก่อเหตุ
วันที่ 8 เมษายน 2567 (วันเกิดเหตุ) ได้นัดหมายนายพิชิตฯ ให้ไปที่ร้านแสงจันทร์ เมื่อนายพิชิตฯ ไปถึงร้านแสงจันทร์แล้ว น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ ได้ยกเลิกนัดกับนายพิชิตฯ นายพิชิตฯ จึงได้เดินทางกลับบ้าน และต่อมาไม่นานก็ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนประกบยิง หลังจากนั้น นายพิชิตฯ ได้ไปแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง
จากการสืบสวนติดตามจากภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางก่อเหตุของคนร้ายพบว่า ก่อนก่อเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอยรามอินทรา 62และหลังจากก่อเหตุยิงแล้ว ก็หลบหนีเข้าไปในซอยรามอินทรา 62 จากการตรวจสอบแล้วพบว่า นายสาโรจน์ มีบ้านพักอยู่ภายในซอย รามอินทรา 62
หลังจากเกิดเหตุ น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ ได้นัดหมายให้ นายพิชิตฯไปที่บ้านเกิดของ น.ส.วรรณิภาฯ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เพื่อไปพูดคุยเรื่องปัญหาครอบครัว โดย น.ส.วรรณิภาฯจองตั๋วเครื่องบินให้กับนายพิชิตเพื่อเดินทางไปจังหวัดมหาสารคาม น.ส.วรรณิภาฯ ยังบอกด้วยว่า หากไม่เดินทางมาจะตัดขาดความสัมพันธ์ และ น.ส.วรรณิภาฯ จะขายทุกอย่างให้หมด
วันที่ 15 เม.ย.2567 หลังจากที่นายพิชิตฯ มาถึงที่บ้านของ น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ ที่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม แล้วล้อมวงดื่มสุรากัน มีพยานยืนยันว่า ในคืนนั้น นายพิชิตฯ อยู่กับ น.ส.วรรณิภาฯ เป็นคนสุดท้าย ก่อนที่จะพบว่านายพิชิตฯ เสียชีวิตในเช้าวันที่ 16 เม.ย.2567
หลังจากที่นายพิชิตฯ เสียชีวิต น.ส.วรรณิภาฯ พูดจาหว่านล้อมญาติทุกคน ว่าไม่ให้มีผ่าชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งที่ญาติได้ทักท้วงแล้วว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ แต่ น.ส.วรรณิภาฯ กลับเร่งให้เผาศพทันที เป็นการพยายามทำลายหลักฐาน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้ ทั้งนี้ น.ส.วรรณิภา หรือมดฯ ได้เสนอผลประโยชน์และทรัพย์สินต่างตอบแทนให้กับญาติของนายพิชิตฯ
โดย น.ส.วรรณิภาฯ หรือมด ถูกจับได้ ภายในห้องพักของคอนโดหรู ย่านรามคำแหง เขตหัวหมาก กรุงเทพ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 เวลา 06.30 น. จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ส่วน นายสาโรจน์ ผู้ต้องหาที่ 2 ถูกจับกุมได้ ภายในบ้านเลขที่ 24 ซอยรามอินทรา 62 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 เวลา 06.30 น. จากการสอบถามนายสาโรจน์ฯให้การภาคเสธว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสาววรรณวิภาฯ ติดต่อและจ้างวานให้เป็นธุระจัดหาในเรื่องอาวุธปืน ยานพาหนะ ติดต่อประสานหา มือปืน โดยได้รับเงินโอนจากนางสาววรรณวิภาฯ และโอนต่อให้แก่มือปืนที่ก่อเหตุยิงในคดีนี้
และ นายวีรภัทร ผู้ต้องหาที่ 3 ถูกจับกุมได้ ภายในบ้านพัก หมู่บ้านเคหะนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 08.30 น. สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 3 ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายซึ่งใส่เสื้อแจ๊กเก็ตสีส้ม ในวันและเวลาเกิดเหตุ ทำหน้าที่เป็นขี่รถจักรยานยนต์ของกลางที่นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจยึดพามือปืนไปก่อเหตุพยายามฆ่า “เสี่ยต้น” จริง โดยได้รับค่าจ้างจากมือปืนเป็นเงินสด 4,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติการกระทำผิด พบว่า นายวีรภัทรฯ เคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 โดยผิดกฎหมาย” ที่ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก เมื่อปี 2559
จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ทำการสืบสวน ขยายผล หาตัวผู้มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดนี้ที่เหลือทั้งขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป