ชายผู้ทำลายแคริงตั้น

จู้กหู้กกู้กราบงามๆสวัสดี

เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหม เด็กอนาคตไกลวันนั้นทำไมวันนี้ไม่มี..

ตั้งแต่เขาเข้ามา นอกจากผลงานหลักๆ ที่ทำลายความสุขของเด็กผีแล้ว

เขายังเป็นคนที่กำจัดสตาร์ของแมนยูที่เป็นผลผลิตจากแคริงตั้น มาแล้วถึงสองรายคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ การ์นาโช่

ส่วนรายล่าสุดก็กำลังจะกำจัด ค็อบบี้ ไมนู ออกจากทีมอีกนั่นเอง

จริงๆ ก่อนที่อโมริม เขาจะมาคุม ตอนนั้นอนาคตทั้งสามค่อนข้างที่จะสดใสนะครับ ยกเว้นแรชฟอร์ด ที่โดนวิจารณ์เพราะฟอร์มไม่ดีแบบเดิม และค่าเหนื่อยแพงลิบ

ส่วนทั้งไมนู และ การ์นาโช่ 2 คนนี้ถึงขั้นติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว ไมนูเอง ถึงกับลงตัวจริงนัดบอลยูโรให้ทีมชาติเลยด้วยซ้ำ

ส่วนตัวจู้กหู้กกู้ ก็จริงครับที่การ์นาโช่ เขาทำตัวเอง อีโก้เยอะจัด, ส่วนแรชฟอร์ด ฟอร์มดร็อป ไม่เหมาะกับค่าเหนื่อย

แต่ ค็อบบี้ ไมนู นี่ก็ตั้งใจเล่นมาตลอด อยู่เงียบๆด้วยซ้ำ แต่กลับแม้ไม่มีโอกาสลงเล่น

เอาจริงๆไม่ใช่แค่ไมนู นักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆ ยังได้โอกาสน้อยด้วยซ้ำ

คือคนต้องเจ็บจนไม่มีลงจริงๆถึงจะได้เล่นบ้าง ชิโด โอบี มาปีนี้หายเงียบเลย, แฮรี่ อามาส ถูกส่งไปยืม และเล่นได้ดี ในขณะที่แมนยูวิงแบ็คยังมีปัญหาอยู่ ก็ไม่คิดจะใช้เขาแบบจริงจังๆ ใช้ดอร์กูและดาโลท์ ไปตลอดกาลครับ

ในยุคอโมริม ดาวรุ่งเป็นตัวรุก บอกได้เลยว่าคงจะหมดอนาคตครับ เพราะสำรองแต่ละนัด ใส่แต่เซ็นเตอร์ลงไป และหลายๆแมตช์ชอบส่งชื่อโกล์ทั้งมือสองและมือสามลงไปอีก เพื่ออะไรไม่รู้

ถ้าดาวรุ่งคนไหนจะมีลุ้นติดชื่อสำรอง ก็จะวนๆอยู่กับพวกกองหลังครับ เฮฟเว่น ดูมีโอกาสสุด แต่จริงๆ เขาไม่ใช่เด็กปั้นแคริงตั้นนะ มาจากทางเฮลเอนด์ ของอาร์เซน่อล ถ้าของแมนยูจะเป็น เฟดริคสัน ซึ่งอย่างที่เห็น แทบไม่มีโอกาสหรอกครับ

แต่ถ้าใครได้เห็นดาวรุ่งของแมนยูจริง ไม่ว่าจะชุด ยู18 หรือ ยู 21 ตัวดีๆ จะเป็นแนวรุกหลายๆคน

เช่น อิกอร์ อิบรามิกอฟ นิวรูนีย์ เล่นได้หลากหลายในแนวรุก, จิม เทวตส์ ว่าที่กองกลางตัวท็อป เซ้นส์บอลดี เซทพีซแจ่ม, แจ็ค และ ไทเลอร์ เฟล็ตเชอร์ สองพี่น้องกองกลางลูกของ ดาร์เรน เฟลตเชอร์,

เบ็นดิโต้ มานตาโต้ ดาวรุ่งที่แววดังมานาน แต่ก็ยังไม่ได้โอกาส, เจมส์ สแกนลอน ดาวรุ่งวัย 19 ที่ติดทีมชาติชุดใหญ่ไป 20 นัดแล้ว และ ก็ เชย์ ลาซีย์ ว่าที่สตาร์ของทีม ทักษะเกินวัย ที่ปีนี้ไม่มีอาการบาดเจ็บแล้ว ซึ่งมีชื่ออยู่สำรองบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาสลงสนาม

นั่นล่ะครับ พออโมริมเข้ามา สิ่งที่เขายึดติดก็คือแผนการเล่นของเขา ที่ไม่ได้พยายามดึงศักยภาพนักเตะในทีมออกมาให้ได้ และให้นักเตะพยายามปรับปรุงกันเอง นั่นจึงทำให้เกิดปัญหามามากมาย

เดิมทีระบบของทีมตั้งแต่เยาวชน ก็ไม่มีใครบ้าจี้ เล่นด้วยแผน เซ็นเตอร์ สามคนอยู่แล้ว ดังนั้นก็ต้องเรียนรู้กันใหม่หมด

ทีมโค้ชชองอโมริมก็ไม่ได้มีประสบการณ์มากพอในการเทรนผู้เล่นอีก จึงจบที่การขายผู้เล่นที่ไม่ตรงระบบทิ้ง เพื่อจะใช้ระบบของตัวเองแทน

ส่วนอโมริม เอาจริงๆเขาเหมือนไม่แคร์เลยว่าดาวรุ่งแมนยูจะเป็นไงกัน เพราะเขาสนแค่ปัจจุบันกับผลงานเอาตัวรอดไปวันๆของเขาเท่านั้นเอง

เขาเคยพูดทำนองว่า ด้วยสถิติส่วนตัวของทีม ที่จะมีชื่อนักบอลอะคาเดมี่ของแมนยูติดต่อกันในทีมแข่งขัน(รวมสำรอง) ซึ่งเป็นสถิติที่มีต่อเนื่องมาสองร้อยกว่านัดแล้ว ทำให้เขายังจำเป็นต้องพยายามใส่ชื่อดาวรุ่งลูกหม้อบางคน ไว้ในทีม ซึ่งเอาจริงๆก็เหมือนๆเป็นเพราะเบื้องบนสั่งมา ยังไงยังงั้น

ดังนั้น ดาวรุ่งในทีม และอนาคตของแคริงตั้น ลำบากแน่นอนครับ ถ้าโค้ชทีมใหญ่ยังเป็นอโมริม

แต่อย่างน้อยข้อดีที่เราเห็นตอนนี้ทีมเยาวชน ยังคงเล่นหลัง 4 กันอยู่

หมายความว่า ในอนาคตอันใกล้ ถ้ามีการเปลี่ยนผู้จัดการ บรรดาดาวรุ่งทั้งหลาย น่าจะได้เจอกับวันที่สดใส ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานกัน

อโมริม ชายผู้ทำลายล้างสูง